รีวิว Triumph Bonneville Bobber Black บิ๊กไบค์ที่เข้มข้นทั้งสไตล์ และพลัง

Triumph Bonneville Bobber Black กลับมาตอกย้ำการเป็นบิ๊กไบค์รุ่นที่ขายดีสุดของไทรอัมพ์ในตลาดโลก ด้วยเวอร์ชั่นพิเศษ "แบล็ค" เน้นโทนดำสนิท พร้อมเสริมฟังก์ชันการใช้งานอย่างระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ (Cruise Control)  และปรับสเปคให้ดียิ่งขึ้นเช่น ระบบเบรกหน้าเป็นเบรมโบ้ พร้อมจานเบรกคู่ นอกจากสไตล์ที่ดุดัน เข้มขรึมมากขึ้น ตัวรถดูตอบสนองการขี่ได้มั่นใจยิ่งขึ้นด้วย งานนี้ทีมงาน MotorBike Guru Thailand by CheckRaka.com ก็ได้มีโอกาสนำมาทดสอบเพื่อค้นหาความเป็นที่สุดของ บอบเบอร์

Triumph Bonneville Bobber Black รุ่นพิเศษดำสนิททั้งคัน ประกอบด้วย แฮนด์, แป้นเบรก, ที่พักเท้า, คันเกียร์, เบรก, คลัตช์ และบังโคลน นอกจากนี้ส่วนของเครื่องยนต์และฝาครอบสเตอร์ก็ดำสนิทเช่นกัน ด้านล่างมีดุมล้อสีดำ, เฮดเดอร์ท่อไอเสีย ให้เสียงดุดัน โดยรวมมองแล้วให้ความรู้สึกเข้มขรึม น่าเกรงขาม

ด้านเครื่องยนต์ยังคงใช้ Bonneville 1200 ซีซี สูบคู่ขนาน 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว ให้กำลังสูงสุด 76 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดมากกว่า รุ่น Bonneville T120 อยู่ 10% การออกแบบ Bonneville Bobber Black เด่นด้วยเอกลักษณ์เบาะนั่งเดี่ยวสามารถปรับระยะเข้า-ออกได้ และสูงจากพื้นเพียง 688 มม. เพิ่มความมั่นใจในการควบคุมตัวรถด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ การปรับเข้า-ออกได้นั้นช่วยให้เหมาะกับสรีระของผู้ขี่ได้ทุกมากขึ้น จุดที่ต่างจากบอบเบอร์ธรรมดาชัดเจนก็คือล้อหน้า 16 นิ้ว พร้อมยางหน้ากว้างขนาด 130/90 ล้อหลังคงขนาดเดิม 150/80 R16 ด้านระบบส่องสว่างโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ขนาด 5 นิ้ว พร้อมไฟ Day Time Running Light (DRL) สัญลักษณ์แบรนด์ไทรอัมพ์เก๋สุดๆ ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าปรับใช้โช้กอัพยี่ห้อ Showa เพิ่มขนาดเป็น 47 มม. (เดิมยี่ห้อ KYB ขนาด 41 มม.) ระบบเบรกก็ปรับใหม่เป็นจานเบรกคู่หน้าขนาด 310 มม. จับด้วยคาลิปเปอร์เบรมโบ้ 2 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 255 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ nissin ในส่วนของฟังก์ชันระบบช่วยเหลือการขี่ มี 2 โหมดให้เลือกใช้คือ Road กับ Rain นับว่าให้ประโยชน์กับครุยเซอร์บิ๊กไบค์อย่างบอบเบอร์มากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีครูซคอนโทรลเพิ่มความสะดวกสบายกับการขี่ทางเปิดโล่ง ล้อหน้าขนาดใหญ่

ไฟหน้า LED พร้อม DRL ในโคมออกแบบสัญลักษณ์แบรนด์เฉพาะตัว โดดเด่นทั้งกลางวันและกลางคืน

เกจวัดความเร็วคงความคลาสสิกแบบอนาล็อก แต่มีจอแสดงผลดิจิตอลขนาดเล็ก
ปรับบอกวัดรอบ, ทริป, อัตราสิ้นเปลือง ฯลฯ และแสดงโหมดการขับขี่

นอกจากเน้นพาร์ตดำทั้งคันแล้ว ก็มีสติ๊กเกอร์บอกเวอร์ชันแบล็คที่ถังน้ำมันด้วย

การออกแบบวางตำแหน่งที่สวยงาม ใช้วัสดุพรีเมียม ไทรอัมพ์ทำได้โดดเด่นมาตลอด นอกจากนี้ยังคงความคลาสสิกไว้ด้วย

ถังน้ำมันขนาด 9 ลิตร เพียงพอต่อการขี่ชิลล์ในเมืองและชานเมือง ถ้าทางไกลก็ต้องวางแผนเรื่องการแวะเติมด้วย  

พลังการชะลอ-หยุดใหม่จากเบรมโบ้ ให้ความมั่นใจและรู้สึกสมราคาค่าตัว

โช้กอัพหลัง Kayaba ปรับไม่ได้เหมือนรุ่นเดิม จังหวะรีบาวด์รวดเร็วเกินไปหน่อย

Triumph Bonneville Bobber Black สัมผัสแรกที่หย่อนก้นลงพร้อมขี่ออกไปจากออฟฟิศนั้น ก็ต้องปรับท่าทางและความคุ้นเคยกันพอสมควรโดยเฉพาะตำแหน่งการวางเท้า และการควบคุมตัวรถที่ความเร็วต่ำเพื่อฝ่าการจราจรในเมืองอันหนาแน่น

หลังจากผ่านการจราจรช่วงราชประสงค์ ประตูน้ำ ดินแดง เข้าสู่ถนนวิภาวดีที่การจราจรเบาบางกว่าก็เริ่มทำความเร็วได้มากขึ้น ช่วงที่ต้องเลาะเลี้ยวขี่สลับหยุดนิ่งในเมืองก็รู้สึกว่า บอบเบอร์ แบล็ค เป็นรถที่ขี่ง่ายกว่าที่คิด อาจมีแค่ช่วงถนนเป็นลอนหรือฝาท่อต่างระดับที่ควรระวังหน่อย เพราะด้านหน้ามักมีอาการดึงออกข้างบ้าง ด้วยขนาดยางที่ใหญ่และน้ำหนักรถที่มากขึ้น การขี่ผ่านช่องว่างระหว่างรถยนต์ด้วยความกว้างของแฮนด์ 760 มม. ยังเพียงพอผ่านได้ไม่ลำบาก กระจกมองข้างปลายแฮนด์ให้มุมมองและชัดเจนดี ทันทีที่ทางเริ่มเปิดโล่งผู้เขียนที่ปรับโหมดการขับแบบ Road ได้ลองกระแทกคันเร่งเพื่อแซงรถช้าพร้อมลองเปลี่ยนเลนตามจังหวะว่างก็พบว่า เครื่องยนต์พลัง 77 แรงม้า แรงบิด 106 นิวตันเมตรที่รอบมาไวของบอบเบอร์แบล็ค ตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยม แรงบิดที่หนักหน่วงฉุดตัวรถทะยานไปข้างหน้าได้ตามใจนึก การพลิกเพื่อเปลี่ยนเลนเมื่อรถลอยตัวด้วยความเร็วระดับ 60-80 กม./ชม ทำได้อย่างคล่องแคล่วและเพลิดเพลิน คงดูเท่คล้ายกับการขี่ The Batpod ของแบทแมน นอกจากนี้ยังเพลินไปกับเสียงคำรามจากท่อไอเสียคู่ที่ประสานกันอย่างรื่นหูเวลาบิดคันเร่ง

ต่อจากนั้นได้ลองขี่ออกมาย่านชานเมือง เข้าสู่จังหวัดปทุมธานี - อยุธยา เพื่อลองขี่บนทางเปิดโล่งและถนนหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนเก็บระยะทางไกลด้วย รวมระยะทางทั้งในและนอกเมืองทั้งสิ้น 254 กม. ได้อัตราสิ้นเปลืองตามหน้าจอข้อมูลที่ 22.1 กม./ล. โดยใช้เชื้อเพลิงเป็นนํ้ามันแก๊สโซฮอล์ 95 จากการขี่ทางไกลพอสรุปได้ว่า ถ้าขี่ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจต้องปรับท่านั่งให้เหมาะสมมากกว่านี้ ทั้งการเลื่อนเบาะและปรับมุมมองเกจวัดความเร็ว เพื่อให้ได้ท่าที่หลังค่อนข้างตรงมากที่สุด จังหวะที่เจอถนนซ่อมสร้าง หรือเป็นลอนเนิน ช่วงล่างที่ปรับใหม่ซับแรงกระแทกได้ดี เว้นช่วงหลังที่จังหวะรีบาวด์เร็วไปนิด และถ้ายกตัวพ้นเบาะเวลาผ่านหลุมหรือเนินโช้กมักยึดตัวเต็มที่ ด้านระบบเบรกที่อัพเกรดมาเป็นเบรมโบ้พร้อมดิสก์คู่นั้น ในจังหวะชะลอหรือเบรกกะทันหันพบว่าให้พลังในการจับที่ดี จังหวะแรกเหมือนมีไหลตามสไตล์รถครุยเซอร์น้ำหนักเยอะ แต่บอบเบอร์แบล็คทำได้ดีกว่าที่คิด สามารถชะลอหยุดได้อย่างมั่นใจ ความโดดเด่นในการขับเคลื่อนที่แท้จริงคงต้องยกให้กับแรงบิดอันทรงพลังที่พร้อมพาผู้เขียนเร่งแซงได้อย่างทันใจในทุกจังหวะการแซง ในมุมมองผู้เขียนสิ่งที่สะกดให้ชอบบอบเบอร์แบล็คจริงๆ ก็คือ รูปลักษณ์ที่สวยเท่ ดุดัน ลงตัวในทุกมุมมอง นับเป็นบิ๊กไบค์ที่สะท้อนตัวตนเจ้าของได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ช่วงที่ขี่ก็ให้ภาพลักษณ์ที่ดูคูลแบบไม่ซ้ำใคร ส่วนสมรรถนะของตัวรถนั้นดีมาก รวมแล้วนับว่าสมบูรณ์แบบจนไม่ต้องการอะไรเพิ่มแล้ว บอบเบอร์แบล็ค คงไม่ใช่บิ๊กไบค์ทางเลือก แต่เป็นตัวเลือกที่ชัดเจนของคนที่ตั้งใจเป็นเจ้าของจริงๆ

Triumph Bonneville Bobber Black เป็นบิ๊กไบค์แนวครุยเซอร์ที่ไทรอัมพ์ต่อยอดจากบอบเบอร์เดิม โดยเพิ่มสมรรถนะของพาร์ตต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เมื่อมองกับการเพิ่มส่วนต่างจากเดิม 587,000 บาท เพิ่มอีก 45,000 บาทได้รุ่นแบล็คที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบมากขึ้น แค่เบรกเบรมโบ้ก็ว้าวแล้ว

ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค คือรุ่นที่ตอบสนองให้กับผู้ที่ต้องการครุยเซอร์เท่ๆ แรงบิดหนักๆ ตัวรถแสดงออกถึงตัวตนชัดเจนเพราะมีเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น เหมาะกับการขี่ชิลล?ท่องเที่ยวไม่ไกลมาก หรือแฮงเอาท์ในเมือง ถ้าใครสะดวกกับงบ 632,000 บาท นี่คือ ม้าดำที่พร้อมให้พระเอกอย่างคุณควบสนุกไปกับแรงบิดมหาศาลและสะกดทุกสายตาที่ขี่ผ่าน

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น TRIUMPH BONNEVILLE

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น TRIUMPH ทุกรุ่น