สัมผัสตัวแรง 200 ม้า Aprilia RSV4 ใหม่ในกิจกรรม TRACK DAY 2018
บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ พิอาจิโอ และ เวสป้า พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน อาพริเลีย และ โมโต กุซซี่ สัญชาติอิตาเลียนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้เชิญสื่อมวลชนชั้นนำ รวมทั้งทีมงาน MotorBike Guru Thailand by CheckRaka.com ร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ความเร็วที่ถอดจิตวิญญาณนักแข่งทางเรียบมาสู่ผู้ขี่กับสุดยอดซูเปอร์ไบค์ระดับโลกแบรนด์ อาพริเลีย (Aprilia) ภายใต้ปรัชญาของแบรนด์ #be a racer ที่ประสบความสำเร็จในสนามแข่งด้วยรางวัลการแข่งขันระดับโลกมากกว่า 54 รายการ
คณะสื่อมวลชนเดินทางไปสนามตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 เพื่อเตรียมพร้อมทดสอบขี่
อาพรีเลีย นิว เอสอาร์วี 4 (Aprilia RSV4) ในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 ซึ่งทางผู้จัดได้เตรียมการทดสอบไว้ทั้งวัน และเตรียมรถให้ขี่ทั้งหมด 3 คัน แบ่งเป็น RSV4 RF คัน และ RR 1 คัน ทำให้ต้องแบ่งการขี่ออกเป็นกลุ่มได้ทั้งหมด 8 กลุ่ม โดยมีสมาชิกอาร์เอสวี คลับ มาร่วมขี่ด้วย และได้นำรถอาร์เอสวีของตนมาเอง อย่างไรก็ตามฝนที่เทกระหน่ำอย่างหนักในช่วงกลางคืนจนเช้าก็ยังตกอยู่ทำให้สนามหลายจุดเจิ่งนองไปด้วยน้ำและผิวแทร็กเปียกหมด รถกลุ่มลูกค้าที่เตรียมมาเป็นยางสลิคเกือบทั้งหมดทำให้ไม่สามารถนำลงไปขี่ในสนามได้ ส่วนรถทดสอบของทางอาพรีเลียเองก็ใช้ยางสปอร์ตของพีเรลลี่ ซึ่งไว้ใช้กับถนนแห้งมากกว่า งานนี้ทำให้ทางผู้จัดงานตัดสินใจเปลี่ยนยางฝนที่มีดอกไว้รีดน้ำแทนทั้ง 3 คัน ช่วงการทดสอบจึงล่าช้าออกไปบ้าง
หลังจากที่เปลี่ยนยางเรียบร้อย ฝนก็เริ่มหยุดสลับกับตกประปราย กลุ่มแรกของการทดสอบก็เริ่มออกไปวิ่ง โดยการขี่แต่ละรอบจะมีเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกสอน อดีตนักแข่งจากต่างประเทศมาวิ่งนำไลน์ให้ตลอด รวมทั้งมีปิดท้ายอีกคนเพื่อคอยให้ความช่วยเหลืออีกระหว่างวิ่งในสนาม
ผู้เขียนอยู่ในกลุ่มสุดท้าย ได้ขี่ช่วงเที่ยงซึ่งสภาพสนามค่อนข้างแห้งเกือบทั้งหมด เพียงแต่อากาศยังขมุกขมัวไม่มีแดด สำหรับรถที่ได้ลองเป็น
New RSV4 RF ที่ให้ความแรงสูงสุดจากเครื่องยนต์ V4 อยู่ที่ 201 แรงม้า ที่ 13,000 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 115 นิวตันเมตร ที่ 10,500 รอบต่อนาที จุดแตกต่างจากเวอร์ชันเก่าสำหรับ MY17 รุ่นนี้ที่เด่นๆ ก็มี ECU ใหม่สามารถประมวลผลได้ดีกว่าเดิม จนขยับรอบเครื่องขึ้นไปอีก 300 รอบต่อนาที รวมถึงมีการใช้ลูกสูบใหม่ที่เบาขึ้น ส่วนเบรกหน้าหันมาใช้คาลิปเปอร์ Brembo monobloc M50 พร้อมจานเบรกใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 330 มม. ผ้าเบรกก็อัพเกรดให้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ก็มีหน้าจอแบบ TFT, Pit limiter ให้ความสะดวกเวลาลงสนามแข่ง, Cruise Control ให้ความสบายตอนขี่ทางไกล, Quick Shifter ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้คลัตช์ และระบบสื่อสารระหว่างรถกับผู้ขับผ่านทางบลูทูธ
"V4-MP" ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขี่พร้อมแสดงผ่านสมาร์ทโฟน ส่วนความแตกต่างกับรุ่น อาร์เอฟ นอกจากราคาที่ห่างกันอยู่ 180,000 บาท ก็คือ ระบบช่วงล่าง ของอาร์เอฟเป็น Ohlins และได้ล้อเป็นงานฟอร์จ ขณะที่อาร์อาร์ เป็น Sachs
ช่วงของการขี่ทดสอบผู้เขียนมีเวลา 15 นาที ในการขี่ช่วงแรก สัมผัสแรกกับ
New RSV4 RF เป็นรถที่คร่อมแล้วค่อนข้างสบายกว่าที่คิด การออกตัวง่ายและราบรื่น การถ่ายทอดกำลังในรอบต่ำจัดว่าดีให้ความสมูธ ระบบแทร็กชันที่เซ็ตไว้ตอนขี่นั้นอยู่ในค่ากลาง และเลือกโหมดแบบแทร็ค จากทั้งหมด 3 โหมด (Sport, Track และ Race) ผํู้เขียนขี่ทำความคุ้นเคยกับตัวรถจึงใช้ความเร็วไม่เต็มที่เท่าไหร่ และยังระวังเรื่องสภาพสนามเพราะบางจุดก็ยังลื่น เช่น ช่วงสุดทางตรงโค้งแรก พอสรุปสั้นๆ ในช่วงแรกได้ว่า Aprilia RSV4 RF (อาพรีเลีย นิว อาร์เอสวี4 อาร์เอฟ) ถ่ายทอดพลังออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกย่านความเร็ว ระบบเกียร์ให้ความต่อเนื่องการเปลี่ยนทั้งขึ้นและลง โดยเฉพาะช่วงทางตรงยาวที่ใช้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ก็พบกว่าตัวรถให้ความมั่นคงดีเยี่ยม ระบบเบรกก็เช่นกันแม้ผู้เขียนเสียจังหวะจากการเบรกลึกบนทางเปียก แต่ระบบเบรกที่ทำงานก็เอาอยู่โดยรถไม่เสียอาการมากนัก
ในช่วงบ่ายสนามค่อนข้างแห้งสนิททีมงานได้เปลี่ยนมาใช้ยางสปอร์ตพีเรลลี่เพื่อเรียกสมรรถนะตัวรถให้มากขึ้น และทีมผู้จัดได้ปล่อยให้กลุ่มลูกค้า อาร์เอสวี4 คลับ นำรถส่วนตัวเข้าไปขี่ทดสอบในสนามได้นับเป็นช่วงของ Track day อย่างแท้จริง ทำให้การปล่อยแต่ละรอบจำนวนรถต่อรอบในสนามเยอะขึ้น จนดูเหมือนคลับเรซกันเอง ผูัเขียนได้ลงไปในรอบที่ 5 มีรถลงไปในวิ่งแทร็ตพร้อมกันราว 10 คัน จากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากขึ้นทำให้หลายคันใช้ความเร็วเต็มที่และสนุกกับการขี่ในสนามมากขึ้นเข้า-ออกโค้งได้มั่นใจกว่าช่วงเช้า ผู้เขียนขี่ทำความเร็วได้มากกว่าช่วงเช้า สังเกตเสียงการทำงานของเครื่องยนต์วี4 คำรามตามรอบผ่านท่อไอเสียออกมาอย่างเร้าใจโดยเฉพาะการชิฟต์เกียร์อย่างต่อเนื่องแบบไม่ต้องใช้คลัตช์ ทำให้การขี่เปี่ยมไปด้วยอรรถรสจนอยากขี่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามพบว่าช่วงที่เข้าโค้งและเร่งออกจากโค้งระบบแทร็กชันเข้ามาแทรกแซงตัดกำลังเพื่อป้องกันอาการสลิปของล้อ ทำให้เสียจังหวะและขาดความต่อเนื่องไปบ้าง จริงๆ ถ้ามีเวลาก็คงเรียนรู้และปรับระบบช่วยเหลือต่างๆ ให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้มากกว่านี้
การทดสอบของ
Aprilia Track Day 2018 จบลงด้วยความพึงพอใจของทุกคน ที่สำคัญคือได้สนุกกับความหลากหลายในการขี่ เพราะโอกาสแบบนี้มีไม่บ่อยที่มือสมัครเล่นจะได้ลองขี่ทั้งยางแห้งและเปียกในวันเดียวกัน รวมทั้งการได้ลองสุดยอดซูเปอร์ไบค์ระดับโลก
Aprilia RSV4 RR ในสนามระดับโลกที่รองรับการแข่งโมโตจีพีอย่าง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต งานนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้เชิญทดสอบและอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับใครที่สนใจอยากร่วมกิจกรรมแบบนี้ สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ทางแฟนเพจ
aprilia_thailand