Moto Guzzi V9 Bobber Italy Made ทรงพลังอีกขั้นกับบอบเบอร์ไบค์สไตล์กวนๆ
Moto Guzzi V9 Bobber มอเตอร์ไซค์แนวบอบเบอร์ไบค์สไตล์กวนๆ 850 ซีซี ทรงพลังเอกลักษณ์เครื่องยนต์วี 2 สูบวางตามยาวขับเคลื่อนด้วยเพลา ราคาเบาๆ พอรับไหว 635,000 บาท หลังจากได้ลองขับรุ่นน้องอย่าง
V7 มาแล้ว มาลองรุ่นพี่กันดูบ้างว่าเป็นอย่างไร
Moto Guzzi V9 Bobber
ในช่วงที่ทีมงานเช็คราคา.คอม ได้ทดสอบมอเตอร์ไซค์คันนี้ต้องเจอกับสภาพอากาศแปรปวนตลอดอาทิตย์ ฝนตกหนักมากจึงได้เพียงขับเล่นๆ รอบๆ ตัวเมืองกรุงเทพฯ เป็นหลัก เช่น ถนนชิดลม สยามสแควร์ ราชประสงค์ และดอนเมือง รามอินทรา เท่านั้น แต่ก็นับว่าได้ลองขี่ในสภาพจราจรติดขัดที่เจ้า V9 Bobber สามารถลัดเลาะไปได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าตัวใหญ่ขนาดนี้แต่สามารถพาไปได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัวทีเดียวครับ
Moto Guzzi V9 Bobber จุดเด่นของรถโมโต กุซซี่ยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่มีฝาสูบที่ยื่นออกมา 2 ฝั่งเช่นเดิม ท่อไอเสียคู่ที่เด่นชัดเจน และการวางเครื่องยนต์ในแนวยาว ไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ หลอดไฟฮาโลเจนขั้ว H4 ไฟเลี้ยวแบบยื่นออกมาทั้งหน้าและหลัง และไฟท้ายทรงรี
ฝาสูบอันสวยงามมันจะเลอะๆ หน่อย ระยะชักลูบสูบ 84 X 77 มม.
ไฟท้ายวงรี ท่อคู่สีดำด้าน
ถังน้ำมันขนาดใหญ่ทรงเตี้ยจุ 15 ลิตร ฝาถังเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ เบาะนั่งแบนราวกับเพิ่งปาดเบาะมา แต่นั่งสบายใหญ่กำลังพอดี แต่ไม่มีราวจับสำหรับคนซ้อนนะครับ
ฝาถังเปิดแบบเปิดตามอัธยาศัยไม่ต้องใช้กุญแจเลย
ปุ่มเล็กๆ ทางขวาใช้ตั้งระบบความปลอดภัยของระบบ Traction Control
ในรูปนี้เป็น Traction Control ระดับ 2
แฮนด์แบบเกือบตรงเป็นเหล็กสีดำด้าน ฝั่งซ้ายสวิตช์ไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว แตรและสวิตช์เลือกระบบ Traction Control ส่วนฝั่งขวามีปุ่มสตาร์ตและดับเครื่องยนต์ พร้อมกับสวิตช์ไฟฉุกเฉิน ปั๊มเบรกบนจาก Brembo
มาตรวัดแบบทรงกลมขอบโครเมียม 1 อันได้อารมณ์คลาสสิก พร้อมแสดงผลต่างๆ ทั้งไฟสูง, ไฟเลี้ยว, ไฟตำแหน่งเกียร์ว่าง, ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง, ไฟรูปเครื่องยนต์ และไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดถังซึ่งรุ่นนี้ไม่มีเข็มบอกระดับน้ำมันมาให้อีกแล้ว...
โครงตัวถังแบบเหล็กถักดูง่ายๆ แต่งานเนียน
Moto Guzzi V9 Bobber ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบวี 4 จังหวะ 2 วาล์วต่อสูบ แบบก้านกระทุ้งความจุ 850 ซีซี หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบายความร้อนด้วยอากาศ กำลังสูงสุด 55 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิด 62 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 จังหวะด้วยเพลา ใช้คลัตช์ลักษณะเดียวกับในรถยนต์เป็นแบบหวีคลัตช์ ทนทานแข็งแรง ถังน้ำมันจุได้ 15 ลิตร ใช้ออกเทน 95 และรองรับแก๊สโซฮอล 95
ระบบช่วงล่างโช้กแบบเทเลสโคปิก 40 มม. ระยะยืด 130 มม. ส่วนด้านหลังเป็น die cast light alloy swing arm คู่ปรับระดับความสูง-ต่ำได้ระยะยืด 97 มม. และเบรกหน้าดิสก์เดี่ยวคาลิปเปอร์จาก Brembo จานขนาด 320 มม. ด้านหลังเบรกเดี่ยวจานขนาด 260 มม. พร้อมระบบ ABS
ตัวรถมีขนาดยาว 2,185 มม. กว้าง 840 มม. สูง 1,160 มม. ความสูงเบาะ 780 มม. น้ำหนักโดยรวม 199 กก. ส่วนล้อแม็กด้านหน้า ขนาด 16 นิ้ว ยาง 130/90 และด้านหลัง 16 นิ้ว ยาง 150/80
Moto Guzzi V9 Bobber เสียงเครื่องยนต์คงความกระพือตามสไตล์ และจะดิ้นๆ ออกทางขวานิดๆ เหมือนเดิม ตามการหมุนเครื่องยนต์ที่เป็นลักษณะวางตามยาวขนาดกับตัวรถ ชุดเพลาข้อเหวี่ยงในเครื่องยนต์หมุนไปทางขวา (เมื่อหันหน้าเข้าหน้ารถ) เมื่อเร่งเครื่องหรือจอดเดินเบาจะมีอาการเหวี่ยงเบาๆ ให้ความรู้สึกมันไปอีกแบบ และรถจะมีอาการกระตุกเอียงไปทางขวาไม่แตกต่างจาก V7
Moto Guzzi V9 Bobber กำลังเครื่องยนต์นั้นดูตัวเลขแรงม้ามีไม่มากเพียง 55 ตัว แรงบิด 62 นิวตันเมตร แต่เมื่อขับจริงกลับรู้สึกว่ามีแรงในรอบต่ำอย่างมหาศาลครับ! ตั้งแต่เริ่มออกตัว เร่งแซงหรือแช่ที่ความเร็วสูงๆ นับว่าลืมสเปครถไปได้เลย ช่วงเร่งในรอบต่ำไปรอบสูงๆ นั้นมีพลังเหลือๆ และขับขี่ที่ความเร็วต่ำง่ายมาก แถมไม่มีอาการกระตุกในรอบต่ำๆ อีกด้วย
ระบบเกียร์ของ Moto Guzzi V9 Bobber ยังคงให้ความสบายเท้าเบาและเบา แต่รุ่นนี้หาเกียร์ว่างยากกว่ารุ่น V7 และมีเสียงการ "ขบ" ของเฟืองเกียร์ดังกว่าพอสมควร ซึ่งใช้ระบบห้องเกียร์แบบเดียวกับในรถยนต์ และได้อารมณ์รถยุโรปแท้ๆ
น้ำหนักตัวรถเบามากเพียง 199 กม. เมื่อเทียบกับขนาดเครื่องยนต์ 850 ซีซี ทำให้อัตราเร่งออกตัวดีสบายๆ บิดติดมือ และพลิ้วได้เมื่อต้องหลบหลีกรถไปตามการจราจรติดขัดไม่แพ้รถขนาดเล็กๆ
ช่วงล่างหากนั่งคนเดียวนับว่าเซ็ตมากำลังดี ไม่นุ่มและแข็งจนโยนเกินไป แต่เมื่อมีคนซ้อนกลับรู้สึกว่านิ่มเกินไป แต่ถ้าขับขี่ในความเร็วต่ำๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าความเร็วสูงๆ อาจต้องระวังเมื่อกระโดดคอสะพานอยู่บ้าง
แม้เครื่องยนต์ Moto Guzzi V9 Bobber จะยื่นออกมาที่หัวเข่า ก็ไม่รู้สึกร้อนมามากนัก เว้นแต่กรณีมีคนนั่งซ้อนผู้ขับอาจต้องนั่งชิดถังน้ำมันมากขึ้น และทำให้หัวเข่าชิดฝาสูบ จึงเริ่มรู้สึกว่า "ร้อนซะแล้ว" แต่ก็ยังดีที่มีแผ่นพลาสติกกันความร้อนมาให้ นับว่ามีความร้อนของเครื่องยนต์น้อยแม้จะจอดติดไฟแดงนานๆ แต่อาจมีอาการสั่นๆ บ้างหากรำคาญก็ดับเครื่องยนต์ได้ และยังช่วยลดมลพิษไปในตัวด้วยครับ
ระบบเบรกด้านหลังใช้แรงกดเยอะพอสมควร แต่หนึบและเอาอยู่จริง พร้อมระบบ ABS ที่ตอบสนองไวมาก เนื่องจากวันทดสอบเจอผิวถนนเปียกลื่นบ่อยๆ และ ABS ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี เบรกหน้านับว่าดีอยู่แล้ว แม้จะมีแค่ดิสก์เดี่ยว แต่ก็พอต่อการใช้งานอย่างสบายๆ
ความสะดวกสบายน่าจะเป็นเรื่องท่านั่งที่ขี่สบายจริงๆ ครับ ไม่เอนตัวไปข้างหน้ามากนัก ขับยาวๆ ช่วยลดความเมื่อยล้าได้ การวางเท้าก็อยู่ในระดับพอดี หัวเข่าไม่งอมากไป และไม่ยื่นไปด้านหน้ามากนัก
Moto Guzzi V9 Bobber เป็นรถที่ไม่มีเทคโนโลยีอะไรสูงมากนัก ระบบเพลาขับก็ไม่ต้องค่อยเคลือบน้ำมันเพราะว่าไม่ต้องกลัวสนิมขึ้น ระบบเฟืองท้ายก็คล้ายกับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังที่ดูแลเพียงแค่เปลี่ยนถ่ายตามระยะ และเมื่อใช้งานเครื่องยนต์ไปนานๆ ถึงเวลาตั้งระยะห่างวาล์วก็ไม่ต้องใช้เวลารอนาน เพราะฝาสูบที่ยื่นออกมาก็ช่วยในการเซอร์วิสง่าย โดยรวมแล้วให้ความสะดวกทั้งการขับขี่ที่คล่องตัวและการบำรุงรักษาที่ง่ายควบคู่กันไป
ตารางบำรุงรักษาครั้งแรกที่ 1,000 - 1,500 กม.แรก (แล้วแต่รุ่น) และต่อไปก็ทุกๆ 7,000 กว่าๆ กม.
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
Moto Guzzi V9 Bobber รถบิ๊กไบค์แนวเรโทรคลาสสิกเครื่องยนต์ 2 สูบโผล่ที่หัวเข่าสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น มีเอกลักษณ์เฉพาะขนาดรถไม่ใหญ่ให้ความคล่องตัว และน้ำหนักที่เบามาก นำเข้าทั้งคันจากอิตาลีในราคา 635,000 บาท นับเป็นทางเลือกที่น่าลอง และควรไปลองขับจริงก่อน คุณอาจเปลี่ยนใจจากรูปแบบเดิมๆ ก็เป็นได้