รีวิว Ducati Multistrada 1200 S ตัวใหญ่ ใจถึง ลุยได้

ทีมงานเช็คราคา.คอม มีโอกาสได้นำเจ้า Ducati Multistrada 1200 S พี่ใหญ่สายแอดเวนเจอร์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีชั้นดีมาทดสอบ ด้วยแนวคิดรุ่นนี้ดูคาติบอกว่า เป็นมอเตอร์ไซค์ที่จะพาคุณไปได้ไกลและลุยได้มากกว่าที่เคย แต่คงความสบายตลอดการขี่ หรือการขี่ผ่านตัวเมืองก็ยังสบาย ด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ Testastretta DVT (Desmodromic Variable Timing)  พร้อมระบบช่วงล่างทันสมัยอย่าง Skyhook Suspension (DSS) Evo ให้คุณมั่นใจในการบุกตะลุยและเข้าโค้งมากขึ้น เราไปดูรายละเอียดจากรีวิวนี้กัน

ขุมพลังของ Multistrada 1200 S ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ Testastretta DVT (Desmodromic Variable Timing) ขนาด 1,198 ซีซี 2 สูบตามยาว 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร ที่ 7,500 รอบต่อนาที สำหรับ ระบบ DVT ที่คอยคุมการเปิด-ปิด วาล์วไอดี-ไอเสีย ตามรอบการทำงานของเครื่องยนต์ เช่นที่รอบการทำงานต่ำ-ปานกลางก็จะให้กำลังที่สมูธ ถ้าเป็นรอบสูงที่เน้นการรีดแรงม้า DVT ก็จะเปิดการทำงานเต็มที่เพื่อให้ได้พลังสูงสุด ง่ายๆ คือ คาแร็คเตอร์ของเครื่องยนต์เปลี่ยนไปตามรอบการทำงาน ส่วนอัตราสิ้นเปลืองก็จัดว่าดีเพราะต้องสอดรับตามมาตรฐานยูโร 4

ช่วงล่างด้านหน้า Sachs ขนาด 48 มม. ด้านหลังเป็น Sachs ทั้งหน้า-หลังปรับระดับได้ คุมการยุบ-คืนด้วยอิเล็กทรอนิกส์ความยาวโช้กอัพหน้า-หลังเท่ากันที่ 170 มม. พร้อมเทคโนโลยี Skyhook Suspension (DSS) ที่ผสานการทำงานของโช้กอัพทั้งหน้า-หลัง ในจังหวะยุบและคืนตัวด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นไม่ว่าเส้นทางเป็นแบบไหนระบบนี้ก็จะปรับให้ตัวรถอยู่ในสมดุลที่ดีที่สุด ด้านระบบเบรกหน้าคาลิปเปอร์เบรมโบ โมโนบล็อค Ev0 M50 4 Pot พร้อมจานคู่ขนาด 330 มม. หลังเป็นคาลิปเปอร์ 2 Pot พร้อมจานขนาด 265 มม. โดยมี ABS แบบเลี้ยวได้เป็นมาตรฐาน ยางหน้า-หลังใช้ของ Pirelli Scopion Trail II ต่างขนาดหน้าเป็น 120/70 R17 ส่วนหลังเป็น 190/55 R17 ด้านน้ำหนักตัวรถแบบไร้ของเหลวรุ่นนี้อยู่ที่ 212 กก.

ส่วนการสื่อสารระหว่างรถกับผู้ขี่แสดงผ่านหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว โดดเด่นด้วย Ducati Multimedia System ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเราผ่านบลูทูธได้ ทำให้สามารถรับสายเรียกเข้า, ดูข้อความ และเล่นเพลงโดยใช้ปุ่มควบคุมที่แฮนด์ได้เลย ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดการติดต่อหรือเหงาเวลาขี่ทางไกล 

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานประจำรุ่น 1200 S ก็นับว่าเหนือกว่ารุ่น 1200 ธรรมดาอยู่พอสมควรได้แก่ Riding โหมด, Power โหมด, ไรด์บายไวร์ - RbW, Ducati Safety Pack (cornering ABS + DTC), Ducati Wheelie Control, Cruise Control, ไฟส่องสว่างเป็น LED ทั้งหมด, Ducati Skyhook Suspensions evo, Hands-Free, Backlit handlebar switches, Ducati Multimedia System (DMS), Full-colour TFT display และ Anti-theft ready

   

ผู้เขียนเริ่มต้นทำความรู้จักกับ Multistrada 1200 S เป็นครั้งแรกในวันรับรถทดสอบที่ ดูคาติ ไทยแลนด์ วิภาวดี 22 ด้วยมิติของตัวรถที่ใหญ่ น้ำหนักตัว 235 กิโลกรัม ก็คิดว่าเอาเรื่องอยู่ หลังเรียนรู้การปรับหน้าจอและระบบอินเตอร์เฟสต่างๆ คร่าวๆ จากเจ้าหน้าที่ ผู้เขียนก็บิดออกมาเลย โดยจุดหมายปลายทางของการเดินทางอยู่ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ช่วงแรกใช้เวลาไม่นานก็เริ่มคุ้นเคยกับตัวรถ แต่ก็รู้สึกว่าขี่ได้ไม่สมูธเท่าไหร่ในช่วงความรอบต่ำ สัมผัสแรกๆ กับเบาะและท่านั่งนั้นให้ความสบาย ช่วยให้การควบคุมง่าย ความสูงของเบาะ 32.5 นิ้ว ยังพอไหวสำหรับผู้เขียนที่สูง 173 ซม. โดยใช้รองเท้าอัลไพน์สตาร์รุ่น SMX3 ทำให้ปลายเท้าแตะพื้นถึง 

ส่วนเส้นทางที่ใช้ผู้เขียนขี่ไปตามถนนพหลโยธินผ่านการจราจรคับคั่งช่วงดอนเมือง ด้วยสมดุลของรถที่ดี และท่านั่งสบายๆ ทำให้การพาเจ้า 1200 S ผ่านไปได้แบบไม่เหนื่อย ถ้าไม่ต้องชะลอ-หยุดบ่อย พ้นจากดอนเมืองทางเริ่มโล่ง ผู้เขียนเริ่มใช้ความเร็วในการเดินทางได้มากขึ้น อยู่ราว 130-140 กม./ชม. หวดยาวๆ แบบสบายใจ ด้วยปริมาตรถังเชื้อเพลิงขนาด 20 ลิตร ผู้เขียนตัดสลับจากถนนพหลโยธินมาขี่เข้าถนนบายพาสสระบุรี-ฝั่งตะวันออก ทางค่อนข้างโล่ง แต่มีการก่อสร้างถนนพอสมควรทำให้มีเศษดิน-ทราย เกาะตามผิวถนนค่อนข้างมาก โดยใช้โหมด Urban หลังจากที่ก่อนหน้าใช้โหมด Touring มาตลอด ความแตกต่างคร่าวๆ คือ ลดระดับพลังจาก 160 แรงม้ามาอยู่ที่ลิมิต 100 แรงม้า พร้อมกับปรับเปลี่ยนระดับความเข้มข้นของระบบช่วยเหลือและเบรกให้สอดคล้องกับรูปแบบการขี่ Urban ที่เส้นทางมักเป็นทางหลวงผ่านชุมชนหรือทำความเร็วมากไม่ได้ หลังจากขี่ข้ามสะพานผ่านถนนมิตรภาพก็มาวกกลับรถตัดเข้าถนนอดิเรกสารเพื่อไปแก่งคอย ถนนช่วงนี้เป็นเลนสวน ลาดยางผิวถนนไม่เรียบมีรถชาวบ้านสัญจรเกือบตลอด ตัวรถ 1200S ก็ยังให้ความสบายในการเดินทางเหมือนเดิม นับเป็นความประทับใจอย่างแรกจริงๆ 

ส่วนที่ต้องยกให้เป็นพระเอกคือ โหมด Riding ซึ่งมีให้เลือกตามความเหมาะสม 4 โหมด ประกอบด้วย Sport, Touring, Urban และ Enduro ซึ่งอย่างหลังเน้นวิ่งทางออฟโรดด้วย นับเป็นความสะดวกสบายที่มีระบบอัจฉริยะคอยสนับสนุน ทำให้มั่นใจมากขึ้นไม่ว่าจะเจอรูปแบบการเดินทางแบบไหน ผู้เขียนได้ลองวิ่งบนเส้นทางออฟโรดแต่ก็ไม่ได้เน้นลุยจนตัวรถออกอาการ เพียงแค่พอสัมผัสความรู้สึกในการขี่ผ่านหลุม ทางกรวดลอย และหญ้าซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะตัวรถขี่ง่ายจริงๆ 

ไม่นานผู้เขียนก็เจอกับพายุฝนเทกระหน่ำจนต้องหาที่หลบเป็นเวลาชั่วโมงกว่า ออกมาขี่ก็อีกเป็นทางเปียกก็นับว่างานนี้ได้เจอหลากหลายรูปแบบ หลังจากขี่วนหาสถานที่บันทึกภาพจนเสร็จเรียบร้อย ก็แวะพักเติมพลังมื้อเย็นก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เวลาออกเดินทางประมาณทุ่มพระอาทิตย์ลับฟ้าไปเรียบร้อย ทำให้เป็นการขี่เดินทางกลางคืนหน้าจอแสดงผลปรับโหมดตามสภาพแสงเพื่อความชัดเจนในการมอง แม้เหนื่อยล้าบ้างจากภารกิจตลอดวัน แต่การขี่กลับบนถนนหลวงในยามค่ำคืน เจ้า 1200S กลับให้ความมั่นใจอย่างเหลือเชื่อ ด้วยระบบไฟส่องสว่าง LED ทำให้เห็นเส้นทางข้างหน้าได้ชัดเจน และพลังจากเครื่องยนต์ Testastretta DVT (Desmodromic Variable Timing)  ตอบสนองทุกการเร่งแซง ส่วนระบบเบรกเบรมโบ ช่วยให้การเบรกชะลอ-หยุด ทำได้อย่างมั่นใจและง่ายต่อการควบคุม สรุปแล้ว Ducati Multistrada 1200S เป็นแอดเวนเจอร์ไบค์ที่สมบูรณ์แบบรุ่นหนึ่ง ตอบสนองการเดินทางได้อย่างดีในทุกๆ ด้าน นับเป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่ประทับใจในการทดสอบมากรุ่นหนึ่งของปีนี้ครับ 

ด้วยค่าตัวของ DUCATI MULTISTRADA 1200 S ที่ 1,035,000 บาท แพงกว่าคลาสเดียวกันอย่าง BMW R1200 GS อยู่ 1 แสนบาท รวมไปถึงรุ่น Multistrada 950 ที่ราคาเริ่มต้นอยู่ 619,900 บาท ซึ่งตอบสนองการขี่ได้อย่างน่าพอใจไม่แพ้กัน และให้ความคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับราคา ผู้เขียนจึงอยากให้ลองขี่รุ่นที่กล่าวถึงทั้งหมด เมื่อได้ลองแล้วคุณอาจได้คำตอบในใจ  จริงๆ เลือกรุ่นไหนก็ไม่ผิด เพียงแต่เลือกแล้วต้องใช่ ไม่คาใจ สำหรับ 1200S นั้นเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่นับเป็นที่สุดในหลายด้าน มีคันเดียวไปได้ทุกที่ ที่ใจไปถึง พร้อมท่องโลกไปด้วยกัน

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น DUCATI MULTISTRADA 

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่นมอเตอร์ไซค์ DUCATI ทุกรุ่น