ไทรอัมพ์ STREET TRIPLE 765 RS สวยทุกองศา สปอร์ตเต็มพิกัด
Triumph Street Triple 765 RS ใหม่ นับเป็นเจเนเรชัน 3 และเป็นรุ่นสูงสุดที่เพียบพร้อมด้วยสเปคระดับพรีเมียม ด้วยพลัง 123 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 765 ซีซี 3 สูบ, ระบบกันสะเทือนจาก Showa และ Ohlin, เบรก Brembo และยาง Pirelli Supercorsa ทำให้ 765RS เป็นสปอร์ตไบค์ที่ครบเครื่อง ยิ่งมีน้ำหนักเบาที่สุดในคลาส ยิ่งทำให้ 765RS ควบคุมง่ายและมีแรงม้าต่อน้ำหนักยอดเยี่ยม ทีมงาน CheckRaka.com ได้นำ 765RS มารีวิวให้ได้ชมกันครับ
สเปค เทคโนโลยี และจุดเด่น
จุดเด่นของ
ไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปิ้ล 765RS ใหม่ นอกจากรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีงานประกอบที่เรียบร้อยและใช้วัสดุชั้นดี ตลอดจนพาร์ตใหม่ (80 ชิ้น) ส่วนหัวใจสำคัญคือ เครื่องยนต์ DAYTONA บล็อคใหม่ 3 สูบ ตอบสนองได้ดีกว่าเดิม ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้จะพัฒนาต่อเพื่อนำไปใช้ในการแข่งขัน โมโต 2 แชมป์เปี้ยนชิพ ตั้งแต่ฤดูกาล 2019 เป็นต้นไปด้วย
เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 123 แรงม้า ที่ 11,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตรที่ 10,800 รอบต่อนาที, ระบบเบรก Brembo ด้านหน้าใช้คาลิปเปอร์รุ่น M50 4 pot โมโนบล็อค จานเบรกขนาด 310 มม. ด้านหลังแบบ pot เดียว จานเบรกขนาด 220 มม., มือเบรก Brembo MCS, โช้กอัพหน้าขนาดใหญ่ 41 มม. จาก Showa ปรับได้เต็มรูปแบบ, โช้กอัพหลังแบบโมโนช็อคจาก Ohlins รุ่น STX40, ควิกชิฟเตอร์ ที่แม่นยำฉับไว เกียร์ 1-2 สั้นลง,โหมดการขี่ 5 แบบ (Sport, Road, Rain, Rider และ Track)
ส่วนด้านเทคโนโลยีก็มีระบบคันเร่งไฟฟ้า ride-by-wire โหมดการขี่ที่ช่วยให้คุมรถได้ดีตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ด้วยการทำงานร่วมกันของลิ้นปีกผีเสื้อ, ระบบควบคุมการยึดเกาะ (Traction Control) ทั้งตอนเดินเบาและตอนขับเคลื่อน, คอมพิวเตอร์ออนบอร์ดช่วยให้ผู้ขี่ดูและปรับข้อมูลสำคัญต่างๆ จากหน้าจอ TFT (อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย, ระยะทางสำหรับน้ำมันที่เหลืออยู่, โหมดการขี่, อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, และจับเวลาต่อรอบได้จากโหมด Track), ปุ่มสวิตช์พร้อมปุ่มบังคับ 5 ทิศทางเพื่อเลือกทำรายการจากหน้าจอแสดงผล ใช้งานสะดวกแม้ขณะขี่, ระบบป้องกันล้อล็อค ABS สามารถปรับแต่งได้ตามความเหมาะสมหรือปิดก็ได้, ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน ช่วยคุมกำลังเครื่องยนต์เมื่อยางมีอาการสลิปหรือลอยโดยเลือกตั้งค่าตามโหมดต่างๆ หรือปิดก็ได้เช่นกัน, ไฟบอกตำแหน่งเกียร์แสดงผลบนหน้าจอ TFT, ควิกชิฟเตอร์ ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ ซึ่งเร็วกว่าการใช้คลัตช์ทั่วไป 2.5 เท่า โดยเทียบกับผู้ขี่ที่มีความชำนาญส่วนใหญ่, ไฟหน้ามี DRL แบบแอลอีดี ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาขี่ตอนกลางวัน
ไฟหน้าพร้อม DRL แบบแอลอีดี สวยงามและให้ความชัดเจนในเวลากลางวัน
ไฟท้ายและไฟเลี้ยวด้านหลังเป็นแอลอีดีทั้งหมด
เบรกหน้าโดดเด่นด้วยคาลิเปอร์ Brembo และจานขนาด 310 มม.
ด้านหลังก็เป็น Brembo พร้อมจานขนาด 220 มม.
ระบบกันสะเทือนด้านหลังติดตั้งโช้ก Ohlins STX40 ปรับได้
ท่อไอเสียเดินผ่านด้านล่าง ปลายขึ้นมายิงออกหน้าล้อหลังดูสั้นและกลมกลืนไปกับตัวรถ
ตัวยึดแฮนด์บาร์ดูเป็นงานประณีต เช่นเดียวกับอีกหลายๆ จุด
จอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว นับเป็นไฮไลท์ของ Street Triple 765
โช้กอัพคู่หน้า Showa ปรับได้เต็มรูปแบบ พรีโหลดและรีบาวด์/คอมเพรส
แฮนด์ยกได้องศาจับได้สบาย ขี่ได้นาน แม้เป็นตัวแรง
กระจกมองข้างตรงตำแหน่งปลายแฮนด์ ให้มุมมองที่กว้างและชัดเจน แต่ถ้าขี่เข้าเมืองเจอรถติดก็ต้องระวังหน่อย
ถังน้ำมันทรงกว้าง ออกแบบได้อย่างสวยงามด้วยเส้นสายตัวถังที่เป็นเอกลักษณ์ และจุได้มากถึง 17.4 ลิตร
เบาะบุหนังเดินด้ายขาวตัดเพิ่มอารมณ์สปอร์ต นั่งสบายแม้ขี่ทางไกล
ยาง Pirelli Diablo Supercorsa ให้กริ๊ปที่ยอดเยี่ยม เหมาะสมกับ Naked Sport Bike ตัวแรงอย่าง 765RS
ตำแหน่งยึดป้ายทะเบียนทรงตัว T ช่วยทำหน้าที่กันดีดในตัว
เส้นทางการทดสอบใช้การเดินทางจากกรุงเทพฯ - สระบุรี สู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นอีกครั้ง นับเป็นเส้นทางที่คุ้นเคยและไม่ไกลมากด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ผู้เขียนออกเดินทางพร้อมช่างภาพและสัมภาระที่ซ้อนท้ายมาด้วย เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ขี่ฝ่ากระแสรถติดในช่วงสายของวันธรรมดาตามถนนวิภาวดีเพื่อไปเชื่อมถนนพหลโยธิน ช่วงที่ต้องซอกแซก ลัดเลาะ หลบหลีกรถยนต์ สำหรับบิ๊กไบค์คงไม่ใช่เรื่องสนุกอยู่แล้ว แต่ 765RS ก็คล่องตัวพอ ด้วยน้ำหนักรถที่เบากว่าบิ๊กไบค์พิกัดเดียวกันส่วนใหญ่ แฮนด์แบบยกตำแหน่งเบาะที่ไม่สูงเกิน ยิ่งมีคนซ้อนก็ช่วยลดระดับลงมาอีกหน่อย และคลัตช์เบามือ ทำให้สะดวกการฝ่ารถติดออกสู่ชานเมืองไม่ใช่เรื่องลำบากจนเกินไปนัก
เมื่อเลยช่วงตลาดสี่มุมเมือง ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตไป ทางเริ่มเปิดโล่ง ขี่ได้สบายมากขึ้น ผู้เขียนใช้โหมด road ในการเดินทางไป และใช้ทางคู่ขนานไปตลอด ซึ่งถนนบางช่วงมีพื้นผิวเสียหาย และบางช่วงก็อยู่ในระหวางการปรับปรุง ความเร็วที่ใช้ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 100-130 กม./ชม. อันเป็นความเร็วสำหรับการเดินทางพร้อมผู้ซ้อน และตัวผู้ขี่ก็ไม่ต้องต้านลมมาก ด้วยระยะทางถึงอุทยานฯ กว่า 100 กม. ผู้เขียนแวะพักเติมน้ำมันครั้งเดียว เมื่อถึงที่หมายก็ไม่ได้รู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด เครื่องยนต์ 3 สูบ ทำงานได้อย่างน่าพอใจทั้งการระเบิดรอบเร่งแซงรถช้า หรือช่วงคับขัน ตลอดจนการสมรรถนะการทรงตัวที่ดี สมดุลเยี่ยม และเบรกชะลอหยุด ตอบสนองได้อย่างมั่นใจในทุกช่วงความเร็ว ทำให้เพลินจนอยากจะทำระยะให้ไกลกว่านี้ ตรงกันข้ามช่างภาพที่นั่งมาด้วยกลับไม่ค่อยสบายเท่าไหร่เพราะไม่ใช่ตำแหน่งเบาะที่ไว้สำหรับเดินทางไกลนานๆ ทำให้เมื่อยง่าย สุ้มเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ผ่านท่อจัดว่าค่อนข้างสุภาพ ทำให้ขาดอรรถรสไปบ้างเวลาลากรอบสูงๆ
เมื่อถึงพื้นที่ก่อนทางเข้าอุทยานฯ มีทางโค้งและเนินสลับนิดหน่อย ผู้เขียนใช้โอกาสทดสอบขี่คนเดียว เพื่อให้ช่างภาพได้บันทึกภาพ พร้อมปรับโหมดไปที่ Sport หน้าจอดิจิตอล TFT ก็ปรับเปลี่ยนตามโดยเน้นแสดงผลที่รอบเครื่องยนต์เป็นหลัก ความสนุกและฝูงม้าอันแท้จริงที่ซ่อนอยู่ก็ถูกปลุกขึ้นมาให้ได้ลิ้มลองกันในช่วงนี้ การเร่งจากจุดหยุดนิ่งขึ้นไปเกียร์ต่อเกียร์ เป็นไปอย่างไหลลื่นและฉับไว ด้วยการทำงานของควิกชิฟเตอร์ที่ช่วยให้การไล่เกียร์ขึ้นโดยไม่ต้องใช้คลัตช์ สังเกตว่าแรงบิดในช่วงรอบสูงช่วยฉุดกระฉากให้ตัวรถพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างเร้าใจ เมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งการพลิกเข้า-ออกโค้ง ก็ทำได้อย่างไหลลื่น ด้วยสมดุลตัวรถที่ดีและการยึดเกาะอันยอดเยี่ยม และส่วนหนึ่งก็มั่นใจกับพาร์ตของ 765RS ที่ให้มาแบบจัดเต็ม ทั้งโช้กอัพหน้า Showa หลัง Ohlins ยาง Pirelli Diablo Supercorsa ที่ผสานช่วยทำให้สมรรถนะของ 765RS ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ผู้เขียนได้ลองเบรกจากความเร็วสูงสู่จุดหยุดนิ่งแบบไม่ให้ ABS ทำงาน ก็พบว่าระบบเบรก Brembo หน้าแบบ 4 pot หลัง 1 pot ผสานการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถหน่วงความเร็วลงมาได้อย่างนุ่มนวล และรู้สึกได้ถึงพลังการจับที่พร้อมสยบทุกย่านความเร็ว นับเป็นสปอร์ตไบค์ทรง Naked อีกรุ่นที่ต้องยกให้เป็นดาวเด่นของปี 2017 แม้ว่าผู้เขียนจะไม่มีโอกาสได้ลองขี่ในสนามแข่งจริงที่น่าจะช่วยให้สัมผัสและเข้าถึงสมรรถนะของ 765RS มากกว่านี้ แต่ก็เชื่อว่าพระเอกรุ่นใหม่ล่าสุดจาก ไทรอัมพ์ รุ่นนี้เป็นรถที่พร้อมจะทำให้คุณเร้าใจกับทุกโค้งในสนามแข่งและก็สนุกไปกับทุกการเดินทาง (โดยเฉพาะทางขึ้น-ลงเขา) ได้ทุกโอกาสครับ
Triumph Street Triple 765 RS ด้วยค่าตัว 530,000 บาท ขยับจากรุ่นก่อนหน้า 675RX ขึ้นมา 50,000 บาท นับว่าเหมาะสมและคุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเดิมหลายจุด 765RS นับเป็น Naked Sport Bike ที่ให้อารมณ์เรซซิ่ง กระตุ้นให้อยากไปขี่ในสนามแข่งจริงๆ ส่วนการใช้งานทั่วไปก็ได้ทั้งความหล่อและสมรรถนะที่เพียบพร้อมให้คุณสนุกกับ 765RS ได้ทั้งวัน (นอกเมือง) โดยเฉพาะถ้าได้ขี่ถนนขึ้น-ลงเขา ในระดับราคาห้าแสนบาท นับเป็นช่วงราคาที่มีตัวเลือกโดดเด่นอยู่หลายรุ่น หลายแนว ถ้าคุณลองขี่แล้วพบว่าชอบ 765RS ก็จะเป็นสปอร์ตไบค์ที่ใช่สำหรับคนที่เลือกครับ
ขอขอบคุณ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อมอเตอร์ไซค์ในการทดสอบครั้งนี้