Harley-Davidson Sportster Iron 883 (Screamin' Eagle) ดิบ เรียบ พร้อมทะยานไปข้างหน้า
Harley-Davidson Sportster Iron 883 มอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์สไตล์ Bobber ในซีรีส์ Sportster กับโฉมล่าสุดปี 2017 เพิ่มสีใหม่ ปรับปรุงชุดสายไฟแบตเตอรี่ ส่วนตัวรถยังคงความดุดัน ดิบ และร่วมสมัย พร้อมพาคุณทะยานไปข้างหน้าด้วยเครื่องยนต์ Evolution V-Twin 883 ซีซี ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ยังคงให้สุ้มเสียงในแบบฮาร์เลย์-เดวิดสัน ดีไซน์โดยรวมยังคงลุคแบบออริจินัลไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และคันนี้เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วยอุปกรณ์ตกแต่ง Screamin' Eagle ว่ากันว่า Iron 833 นับเป็นมอเตอร์ไซด์สปอร์ตครุยเซอร์ที่ขี่สบาย ใช้งานได้ทุกวันถ้าคุณวิ่งอยู่แถบชานเมืองที่รถไม่เยอะมากนัก ทีมงานมอเตอร์ไบค์ กูรู ของเช็คราคา.คอม นำมาทดสอบให้ได้รู้กัน
เริ่มกันที่สเปคเด่นของเครื่องยนต์เจ้า Iron 883 ปี 2017 ยังคงเป็น Evolution V-Twin ความจุขนาด 883 ซีซี ให้แรงบิดสูงสุด 67 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบายความร้อนด้วยอากาศ ส่งกำลังผ่านเกียร์ 5 สปีด ขับเคลื่อนด้วยสายพาน ส่วนช่วงล่างด้านหน้าเดิมปรับไม่ได้ แต่หลังปรับพรีโหลดได้ ส่วนรุ่นทดสอบใช้พาร์ตของ Screamin' Eagle ติดตั้งแทนพาร์ตเดิมในหลายจุด ยางด้านหน้าใช้ขนาด 100/90 X 19 และหลังขนาด 150/80 X 16 นับว่าล้อต่างขนาดกันพอสมควรระหว่างหน้า-หลัง แต่ด้วยการเซ็ตขนาดหน้ายางให้สอดรับกันจึงทำให้ขี่ได้อย่างสมดุล ด้านระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์ขนาด 292X5 มม. หลังดิสก์ขนาด 260.1X7.1 มม. พร้อมระบบ ABS ส่วนความจุถังน้ำมัน 12.5 ลิตร รองรับการขี่ทางไกลได้ดีพอควร นอกจากนี้ทรงเบาะก็นั่งสบายพอดีและกระชับ สำหรับพาร์ตเพิ่มสมรรถนะของ Screamin' Eagle ที่ติดตั้งมานั้น เท่าที่สังเกตเห็นก็มีสายหัวเทียน, กรองอากาศแบบเปลือย และโช้กอัพหน้า-หลังแบบปรับค่าได้ นอกนั้นเป็นการใส่อุปกรณ์ตกแต่งเน้นความสวยงามและเพิ่มสไตล์อันดุดัน
ถังน้ำมันออกแบบให้เพรียวบาง พร้อมลุยทางแคบ แต่ก็จุได้ถึง 12.5 ลิตร
กระจกมองข้างเป็นของแต่งเพื่อความสวยงามอีกชั้น แต่ก็พบว่ายังคงมีอาการสั่นตามการทำงานของเครื่องยนต์
เรือนไมล์งานสวยดูพรีเมียม เป็นแบบชิ้นเดียววางตำแหน่งกลางพร้อมทำมุมเข้าหาผู้ขี่ ทำให้เห็นได้ชัดและอ่านง่าย
ดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ 292 X 5 มม. พร้อมคาลิปเปอร์แบบ Dual Piston
จุดเด่นสำคัญคือ การขับเคลื่อนด้วยสายพาน นุ่มนวลและเงียบ
โช้กอัพหลังปรับระดับได้ทั้งความสูงและความหนืดจาก Screamin Eagle
ที่พ้กเท้าแต่งดูเก๋ วางเท้ายันได้สบาย แต่ความยาวต้องระวังเกี่ยวกับขากางเกงยีนส์ตัวโปรด
เครื่องยนต์สูบวี ขนาด 883 ซีซี แต่งเติมความสวยหน่อยก็ดูดุขึ้นเยอะ
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าปรับความหนืดได้ตามชอบ ชุดโช้กอัพ - คอยล์สปริงหลังเป็นของแต่งจาก Screamin' Eagle สามารถปรับแต่งได้เช่นกัน
ดิสก์เบรกหลังขนาด 260.1 X 7.1 มม. ช่วยประสานการชะลอหยุดได้ดีเยี่ยม
ท่อไอเสียแยกออกยิงไปตามแนวเดียวกัน พร้อมชิลด์กันร้อน
ยางติดรถจากมิชลิน รุ่น SCORCHER 31 นุ่มนวลและยึดเกาะได้ดี
เบาะนั่งแบบแต่งเดินด้ายไขว้ ในส่วนหนังระบายอากาศที่รองรับน้ำหนักโดยตรง
ไฟท้ายแอลอีดีออกแบบกลมกลืนไปกับบังโคลนหลัง พร้อมเพิ่มแผ่นสะท้อนเพื่อความปลอดภัย
ไฟเลี้ยวด้านท้ายโดดเด่นด้วยการใช้แอลอีดีภายใต้โคมคลาสสิก
การทดสอบมอเตอร์ไซด์ในช่วงฤดูฝนนับเป็นความยากลำบากไม่น้อย โชคดีฟ้าฝนยังเป็นใจหยุดพักบ้าง กว่าผู้เขียนจะได้พาเจ้า Iron 883 [Screamin' Eagle] คันนี้ ออกมาโลดแล่นก็แทบจะถึงเวลาต้องนำไปคืนแล้ว
Iron 883 ปี 2017 นอกจากมีสีใหม่เพิ่ม และปรับปรุงชุดสายไฟแบตเตอรี่แล้ว ช่วงล่างก็ดีมากเพราะปรับปรุงมาตั้งแต่ตัวปี 2016 ส่วนคันนี้ดียิ่งกว่าเพราะได้อัพเกรดระบบช่วงล่างด้วยพาร์ต Screamin' Eagle นอกจากนี้ คันนี้ผ่านการใช้งานมาเพียง 15 กม. เท่านั้น เท่ากับว่าทุกอย่างยังใหม่ พร้อมให้ผู้เขียนเข้าไปสัมผัสและพาไปเปิดประสบการณ์ความเร็วด้วยกัน
ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จังหวัดสระบุรี โดยออกเดินทางจากในเมืองย่านชิดลม มุ่งหน้าไปทางดินแดง เข้าถนนวิภาวดีรังสิต และยิงยาวไปตามถนนพหลโยธิน และมาตัดเข้าทางบายพาสสระบุรีไปนครราชสีมา ขี่จนถึงแยกขวาเข้าทางไปอุทยานฯ ตรงไปไม่นานก็ถึงด่านเก็บค่าเข้า จากนั้นก็ไปจอดพักสัมผัสธรรมชาติบริเวณอ่างเก็บน้ำเขารวก เก็บภาพและซึมซับกับความรู้สึกที่ได้ขี่มาเป็นระยะทางเกือบ 100 กม. (และกลับอีกกว่า 100 กม.) ซึ่งมีทั้งการขี่ในเมืองท่ามกลางรถติด และถนนหลวงชานเมือง ตลอดจนเส้นทางหลวงชนบทที่เปิดโล่งมีโค้งและเนินให้ได้ลอง
จากการเดินทางพอสรุปได้ดังนี้ เริ่มจากการนั่งคร่อมและท่าทางการขี่บนเบาะเดี่ยวที่สูงจากพื้น 25.7 นิ้วโดยประมาณ ขาถึงพื้นแบบสบายๆ มือวางบนแฮนด์บาร์แบบ Drag Style ที่มีองศายกกำลังพอดี แต่คันนี้เปลี่ยนของแต่งมา ปลอกแฮนด์มีขนาดใหญ่กำพอดีมือ ที่พักเท้าคันนี้เป็นของแต่งดูสวยงามและมีความยาวกว่าของเดิม อาจสบายเมื่อวางเท้าตอนขี่ยาวๆ แต่ถ้าเป็นช่วงลุยรถเยอะก็ต้องระวังในการเอาเท้าลงเพราะความเคยชินกับพักเท้าทั่วไปที่ไม่ได้ยื่นยาวขนาดนี้ มุมองศาการโน้มไปข้างหน้ากำลังพอดี Iron 883 อาจดูดุดัน โดยเฉพาะคันนี้ที่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติม โช้กอัพหน้า-หลัง Screamin' Eagle ที่ปรับได้ แต่เมื่อขี่ออกไปแล้วพบว่า ตัวรถให้ความสบายด้วยท่าทางที่ลงตัว การขี่ในเมืองช่วงแรกที่ต้องฝ่าการจราจรหนาแน่น 883 ทำได้ดีกว่าที่คาด นี่ถ้าเปลี่ยนที่พักเท้าเป็นแบบสแตนดาร์ดคงคล่องตัวกว่านี้ เสียงการทำงานเครื่องยนต์ Evolution ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศให้สุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากบิ๊กไบค์ทั่วไปจริงๆ ขี่ไปไหนใครก็มอง บ้างถึงกับขอถ่ายรูปด้วย แรงบิดที่มาไว ทำให้การเร่งผ่านช่องต่างๆ ทำได้อย่างฉับไวตามสั่ง ขี่ง่ายขึ้น แต่ช่วงที่ต้องจอดรอสัญญานไฟในเมือง ไอความร้อนที่แผ่จากเครื่องยนต์และท่อถึงกับทำให้ต้องดับเครื่องยนต์รอ เมื่อขับมาถึงถนนวิภาวดีรังสิตยังต้องผจญกับปริมาณรถมากมาย แต่ความคล่องแคล่วและความสะดวกสบายทำให้การขี่ไม่เครียดมากนัก
อย่างไรก็ตามระบบเบรกที่มีจานหน้าขนาด 292 มม. และหลัง 260 มม. พร้อมระบบเบรก ABS ที่ยังไม่ได้ผ่านการรันอินมา ทำให้ต้องเผื่อระยะการเบรก และระวังมากกว่าปกติ ทำให้การเร่งขึ้นไปมีข้อจำกัดมากขึ้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนสะดุดและชอบคือเรือนไมล์สไตล์อนาล็อกแบบที่ดูหรู เรียบง่าย บอกได้ทั้งเวลา, ตำแหน่งเกียร์, รอบเครื่องยนต์, ทริป1-2, ไฟเตือนน้ำมันใกล้หมด ฯลฯ ทำมุมยกทำให้อ่านได้ชัดเจนรวดเร็วเวลาขี่ เมื่อถึงช่วงถนนพหลโยธิน ผ่านช่วงอยุธยาไปแล้ว ผู้เขียนใช้ทางขนานเป็นหลัก พื้นผิวถนนบางช่วงไม่ค่อยดีนัก และบางช่วงก็อยู่ระหว่างปรับปรุง แต่ด้วยท่าขี่โน้มสบายๆ กับช่วงล่างหนึบแน่น ทำให้อุปสรรคเหล่านี้ไม่ได้รบกวนจิตใจมากนัก แม้บางจังหวะที่เจอหลุมเล็กๆ ช่วงล่างจาก Screamin Eagle ก็ช่วยให้ทรงตัวและผ่านไปได้ด้วยดี ช่วงที่ขี่แช่ยาวที่เกียร์ 5 รอบเครื่องที่สี่พันกว่ารอบ ความเร็วในการเดินทางส่วนใหญ่ 110-120 กม./ชม. ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ 12.5 ลิตร ทำให้ต้องแวะเติมน้ำมันระหว่างทางเผื่อไว้ เมื่อถึงสะพานสูงโค้งลัดข้ามไปทางโคราช พื้นที่ละแวกนั้นมีการก่อสร้างทางเพิ่มเติม ทำให้ผิวถนนเต็มไปด้วยฝุ่นและทราย แต่ก็ยังขี่ได้อย่างสบายใจแม้ในทางโค้งขึ้น-ลงสะพาน ด้วยช่วงล่างกับยางมิชลิน Scorcher ที่ให้การยึดเกาะดีเยี่ยม พอตัดเข้าสู่ถนนทางเข้าอุทยานฯ ก็นับเป็นความสุขในการขี่อย่างแท้จริง การควบ Iron 883 ที่มีธรรมชาติรายล้อมสองข้างทาง เสมือนการขี่ครุยเซอร์ในแบบที่ควรจะเป็น แม้ว่าเส้นทางไม่ยาวมากนัก
Harley-Davidson Sportster Iron 883 ไม่ใช่รถที่ต้องคาดหวังด้านสมรรถนะหรือการขี่แบบเร้าใจ แต่เด่นด้วยการเป็นสปอร์ตครุยเซอร์ที่เติมเต็มด้านอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า ยิ่งตัวรถรุ่นใหม่ให้ความสะดวกสบายในการขี่มากขึ้น ยิ่งทำให้เพลิดเพลินได้ไม่รู้เบื่อ ขอให้ไปในทางโล่งมีธรรมชาติให้ชื่นชม ไกลแค่ไหนก็ไปได้เรื่อยๆ ผู้เขียนขี่มาคนเดียวเก็บเรื่องราวและบันทึกภาพเอง ก็เพลินไปอีกแบบ แต่ถ้ามากันเป็นทริปก็น่ามีกระเป๋าข้างไว้เผื่อเก็บสัมภาระในการเดินทาง หลังจากจบการเดินทางครั้งนี้ Iron 883 กลายเป็นมอเตอร์ไซค์ในลิสต์คันหนึ่งที่ผู้เขียนอยากได้เป็นที่เรียบร้อย
Harley-Davidson IRON 883 (692,000 บาท) ขี่ง่ายและสนุก นับเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ที่อยากลองเข้ามาสัมผัสโลกของ ฮาร์เลย์ - เดวิดสัน รุ่นนี้ขี่ในเมืองก็ไม่ลำบากเหมือนบิ๊กไบค์ส่วนใหญ่ เพียงแต่การจอดเดินเบานานๆ ต้องทนกับความร้อนที่ระบายมากหน่อย แต่เชื่อว่าครุยเซอร์ไบค์อย่าง Iron 883 เจ้าของคงขี่ไปออกทริปนอกเมืองเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่าถ้าขี่ในเมือง เจ้า Iron 883 ก็ยังคล่องตัวอยู่ ด้วยตัวรถที่มีเสน่ห์ทั้งรูปลักษณ์ และเสียงคำรามผ่านท่อจากเครื่องยนต์ Evolution ถ้ามีโอกาสลอง ผู้เขียนเชื่อว่าอาจทำให้หลายคนหลงใหล และเข้าใจว่าทำไม ฮาร์เลย์ - เดวิดสัน จึงครองใจไบค์เกอร์ได้มากมายทั่วโลก ด้วยราคาที่เป็นการนำเข้าทั้งคันจากประเทศสหรัฐอเมริกาอาจสูงกว่ารถในกลุ่มเดียวกันพอสมควร แต่นั่นก็เป็นความภูมิใจเช่นกัน หรือถ้าใครแอบลุ้นในอนาคตจะมี HD ราคาย่อมเยากว่านี้ คงต้องรอให้โรงงานในไทยเป็นรูปเป็นร่างเสียก่อน ถ้าใจสั่งมา การได้ครอบครอง Iron 883 พร้อมคุณภาพ กับคำว่า made in USA ก็ไม่ต้องรอแล้วครับ
ขอขอบคุณ ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อมอเตอร์ไซค์ในครั้งนี้