มอเตอร์ไซค์สไตล์ "วิบาก" มีกี่แบบกันแน่?
รถมอเตอร์ไซค์ประเภทลุยป่า ขึ้นเขา ลงห้วยที่เราเรียกกันว่า "มอเตอร์ไซค์วิบาก" นั้น เป็นรถที่มีลักษณะสูงๆ คันผอมๆ ล้อมีตุ่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ได้มีมากมาย แต่ในความจริงนั้นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีรูปร่างลักษณะนี้ยังมีอีกมากมายหลากรุ่นหลายรูปแบบ ล้วนเรียกให้เป็นรถวิบากได้เกือบหมด มาดูว่ารถสไตล์วิบากนั้นมีแบบไหนกันบ้าง
1. Motorcross - มอเตอร์ครอส "วิบากแท้เน้นแข่ง"
รถจักรยานยนต์แบบมอเตอร์ครอส จะมีลักษณะเล็ก กะทัดรัด และน้ำหนักเบา ใช้เพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ หรือขับขี่สถานที่โหดๆ เช่น ไต่หุบเขา ลุยโคลน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็วที่สุด ตัวรถจะต้องเบา คล่องตัว มีกำลังเพียงพอ โดยส่วนมากมักจะตัดระบบที่ไม่จำเป็นสำหรับการแข่งขันออกไป เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว แฟริ่งบางส่วน บางครั้งก็ตัดมาตรวัดออกไปด้วย เพื่อให้รถเบาที่สุดและไม่ให้มีชิ้นส่วนเสียหายเมื่อเกิดการล้ม และมักจะใช้ล้อซี่ลวดที่รองรับน้ำหนักและลดแรงสะเทือนได้ดี รวมถึงยางที่ใช้ก็เป็นตุ่ม ดอกยางหนาและใหญ่อีกด้วย รถสไตล์มอเตอร์ครอสจึงเน้นขับทางฝุ่นหรือเอาไว้แข่งมากกว่า เพราะดอกยางแบบตุ่มจะจมและยึดเกาะกับทางฝุ่น ดิน เลน และทรายได้ดีกว่า ถูกใจขาลุยป่าอย่างแท้จริง ในประเทศไทยน่าจะเหลือเพียงยามาฮ่าและซูซูกิที่มีขายรถประเภทนี้
2. Enduro - เอ็นดูโร่ "รถทางฝุ่นเพิ่มระบบไฟ"
รถจักรยานยนต์เอ็นดูโร่เป็นการผสานความลุยดิบๆ และความสะดวกสบายในการใช้งานเข้าด้วยกันมากขึ้น เป็นรถที่เน้นรูปแบบทั้งการแข่งขันในป่าเขาที่มีแสงน้อย หรืออาจนำมาใช้งานได้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งมีความแตกต่างเล็กน้อยในบางชิ้นส่วนที่เห็นได้ชัดเจนนั่นคือ ยางแบบมีตุ่มเหมือนพวกมอเตอร์ครอส เพิ่มไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และระบบมาตรวัดเข้ามา แต่ตัวรถยังคงสไตล์วิบากที่พร้อมลุยได้เช่นเดิม มีน้ำหนักเบา และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเท่าที่จำเป็น หรืออาจมีมากขึ้นกว่าแบบมอเตอร์ครอส เรียกว่า "วิ่งทางฝุ่นก็ได้ ทางเรียบก็ดี"
3. Motard - โมตาร์ด "วิบากใส่ยางทางเรียบ"
รถจักรยานยนต์แบบโมตาร์ดเป็นรูปแบบของการขับขี่ที่เพิ่มความสะดวกสะบายมากขึ้นไปอีก เพราะเน้นขับขี่บนทางเรียบ มีการออกแบบรูปทรงที่สวยงามและมีแฟริ่งมากขึ้น ระบบไฟฟ้าต่างๆ มีให้ครบ เน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและนิยมใช้ขับขี่ในเมืองหรือทางเรียบมากกว่านำไปลุยทางฝุ่น ใช้ออกทริปยาวๆ และมีสาวๆ นั่งซ้อนได้อย่างสบายใจ ระบบช่วงล่างมีความทนทานและยางแบบทางเรียบ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมของเหล่านักบิดมากขึ้น เพราะความสูงผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้สะดวก ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ชอบเดินทางออกทริปในวันหยุดสุดสัปดาห์และเหมาะกับถนนเมืองไทยที่มักเป็นหลุมเป็นบ่อและน้ำท่วมขังบ่อยๆ เจ้าโมตาร์ดก็ไม่หวั่นพร้อมลุยได้ทุกสภาพถนน
รถมอเตอร์ไซค์แนว "วิบาก" ที่เราเห็นกันบ่อยๆ จนชินตา นอกจากสามารถแบ่งรูปแบบย่อยออกเป็น 3 แบบแล้ว อันที่จริงก็ยังมีรถที่มีรูปแบบคล้ายๆ กับรถแนววิบากอีกมากมาย เช่น Adventure เป็นต้น แต่รถระดับนั้นคงไม่เหมาะนำมาลุยทางฝุ่นโหดๆ สักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากเน้นการเดินทางและการขับทางเรียบมากกว่า คราวนี้คงสังเกตง่ายขึ้นแล้วระหว่าง Motocross, Enduro และ Motard นะครับ