10 อันดับรถมอเตอร์ไซค์ 10 รุ่นมอเตอร์ไซค์ Honda ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา

มีรถมอเตอร์ไซค์ Super Cub ได้รับการผลิตและส่งมอบสู่ผู้ใช้ไปกว่า 60 ล้านคันทั่วโลก นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ถึงแม้จะดูเป็นเพียงรถมอเตอร์ไซค์บ้านๆ ไม่ได้ดูสปอร์ตอย่างรถรุ่นอื่นๆ ร่วมแบรนด์ก็ตาม แต่ด้วยยอดจำหน่ายมหาศาลก็ทำให้ติดอันดับเข้ามาด้วย โดยเฉพาะรุ่น C90 ที่ราคาถูก เข้าถึงได้ง่าย ง่ายต่อการซ่อมบำรุงเพราะไม่ซับซ้อนมากนัก ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 89.5 ซีซี. ให้กำลัง 8.0 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที แรงบิด 6.6 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบ/นาที กับน้ำหนัก 85 กิโลกรัม และก็ได้มีการเผยภาพต้นแบบของรถ Super Cub แบบ EV ออกมาแล้ว (ขอบคุณภาพจาก scootercommunity.com.au)

ย้อนไปในยุค 60'S ฮอนด้ากำลังสร้างชื่อเสียงด้วยรถมอเตอร์ไซค์ในตลาดอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาไม่แพง เป็นมิตร และสะดวกสบายในการเดินทางและขนส่ง กระทั่งมีแคมเปญออกมามากมายในช่วงนั้น จนถึงช่วงปี 1969 ฮอนด้าก็ได้นำเจ้า CB750 เข้าสู่โชว์รูมด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ ขนาด 736 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยอากาศ พร้อมส่งมอบกำลัง 67 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที กับแรงบิด 60 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที ในทุกครั้งที่คุณขี่ ความเร็วสูงสุดที่รถคันนี้ทำได้อยู่ที่ 198 กม./ชม. กับเวลาควอเตอร์ไมล์ที่ 13.5 วินาที CB750 ไม่ได้เป็นแค่รถยอดนิยม แต่ยังเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เข้าขั้นคลาสสิกของฮอนด้าไปแล้ว และยังเคยได้รับการนิยามว่าเป็นต้นแบบของดีไซน์แบบมาตรฐานในรถยุคต่อมา และยังถูกเรียกว่าเป็นรถ Superbike คันแรกเลยก็ว่าได้ (ขอบคุณภาพจาก silodrome.com)

รถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับแบรนด์คู่แข่งในช่วงนั้น ด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 748 ซีซี. ให้พละกำลัง 106 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที แรงบิด 726 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที เฟรมเป็นแบบอลูมีเนียม ทำความเร็วสูงสุดได้ 232.7 กม./ชม. และเวลาควอเตอร์ไมล์ที่ 11.3 วินาที ยิ่งผสมผสานกับดีไซน์ที่โดดเด่นทำให้ VFR750F ได้รับความสนใจไม่น้อยเลยในช่วงที่เปิดตัวสู่ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ (ขอบคุณภาพจาก motorcyclespecs.co.za)

Fireblade จัดเป็นหนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุด เปิดตัวอออกสู่ตลาดในช่วงปี 1995 ด้วยขุมกำลัง 893 ซีซี. 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลัง 122 แรงม้า ที่ 10,500 รอบ/นาที ทำความเร็วได้ถึง 264 กม./ชม. สถิติเวลาควอเตอร์ไมล์อยู่ที่ 10.3 วินาที ที่ความเร็ว 211.5 กม./ชม. (ขอบคุณภาพจาก cycleworld.com)

ถ้าจะบอกว่า RC213V-S คือรถมอเตอร์ไซค์ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของ Moto GP ถ้าอย่างนั้น RC30 ที่เปิดตัวก่อนหน้านั้นก็เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของฮอนด้าในวงการมอเตอร์สปอร์ตที่เข้าร่วมการแข่งขันในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน โดยทางฮอนด้าได้เปิดตัว RC30 ในช่วงต้นยุค 90'S โดยมาพร้อมกับความร้อนแรงจากเครื่องยนต์ขนาด 748 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 246 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยพละกำลัง 118 แรงม้า ที่ 11,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด (ขอบคุณภาพจาก en.wikipedia.org)

เร็วเกินไปที่จะให้คะแนนกับ RC213V-S คันนี้ แต่ที่บอกได้ชัดเจนเลยก็คือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้รับการถ่ายทอด DNA จากรถแข่งของฮอนด้าในรายการ MotoGP เอาไว้ ซึ่งเป็นรายการที่ฮอนด้าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยได้ RC213V รถแข่งของ มาร์ค มาร์เกวซ แชมป์โลก MotoGP มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาภายใต้ความร่วมมือของ Honda ประเทศญี่ปุ่น และ HRC Honda ที่สำคัญมันถูกผลิตขึ้นมาตามชื่อรุ่นซึ่งก็คือเพียง 213 คันเท่านั้น (สำหรับในประเทศไทยมี 10 คัน ราคา 8,700,000 บาท)

มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เปิดตัวในปี 1996 เพื่อแสดงให้เห็นว่าฮอนด้าสามารถแก้ปัญหาหนักอกในช่วงยุค 90'S ได้แล้ว เพราะในอดีตรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าจะมีภาพลักษณ์ติดลบอยู่ไม่น้อย ทั้งยังมีช่วงที่ไม่ประสบความสำเร็จในวงการมอเตอร์สปอร์ตอยู่ด้วยแล้วยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ฮอนด้าดูจะขุ่นมัวไปสักหน่อย จนเจ้า CBR1100XX Super Blackbird เปิดตัวนี่แหละอิศวินขี่ม้าขาวที่มากู้ชื่อเสียงถึงแม้ทรวดทรงจะค่อนข้างใหญ่ไปสักนิด แต่ก็ไม่ได้ทำให้สมรรถนะของมันด้อยลงไปเลย ทั้งยังดีไซน์ในหลายๆ ส่วนใหม่ พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ 1,137 ซีซี. ที่ให้กำลัง 164 แรงม้า พร้อมไปถึงทุกจุดหมายตามต้องการ (ขอบคุณภาพจาก motorcyclespecs.co.za)

จากวิสัยทัศน์ที่ต้องการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์แบบทัวร์ริ่งของฮอนด้า จนเกิดเป็นเจ้า Goldwing ที่ได้ชื่อว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบทัวร์ริ่งที่ดีที่สุด และสามารถไปสร้างชื่อได้ถึงในตลาดอเมริกา Goldwing ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ให้พละกำลัง 117 แรงม้า จากการออกแบบของทีมวิศวกรทำให้ Goldwing ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายเพื่อรองรับการเดินทาง ทั้งเครื่องเสียง, เบาะนั่งที่ดีไซน์รองรับกับสรีระ ด้วยท่าทางการขับที่สะดวกสบายควบคุมรถง่ายถึงแม้รถจะมีน้ำหนักมาก เรียกว่าถ้าคุณต้องการรถมอเตอร์ไซค์สำหรับทัวร์ริ่งสักคัน Goldwing นี่แหละที่คุณไม่ควรมองข้าม (ขอบคุณภาพจาก doogri.co.il)

ยังเป็นข้อสงสัยว่า NR750 เป็นรถที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวของฮอนด้ากันแน่? เพราะด้วยราคาค่าตัวที่แพงเอาเรื่อง แต่ก็ได้มาซึ่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่แปลกใหม่ในยุคนั้น ในตอนแรกฮอนด้าตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะผลิต NR750 เพื่อใช้เข้าร่วมการแข่งในรายการ GP500 เพราะกติกาได้ถูกปรับเปลี่ยนทำให้เครื่องยนต์ 2 จังหวะมีความได้เปรียบเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ที่ฮอนด้าใช้อยู่ในขณะนั้น ทีมงานวิศวกรเลยพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ จนกลายเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบ 32 วาล์ว (8 วาล์ว/สูบ) หัวเทียน, ก้านลูกสูบ 2 ตัว/สูบ แต่ผลที่ตามมาคือความทนทานที่ลดลง และความร้อนสะสมของเครื่องยนต์ ถึงแม้ว่าจะได้รับการพัฒนาต่อมาอีกระยะแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในวงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้ ท้ายที่สุดฮอนด้าก็หันไปพัฒนาเครื่องยนต์แบบอื่นแทน และเพื่อเป็นการรำลึกถึง มร.โซอิจิโร่ ทางฮอนด้าก็ได้ผลิต NR750 เพื่อจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปด้วยจำนวนจำกัดเพียง 200 คันเท่านั้น (ขอบคุณภาพจาก classic-motorbikes.net)