10 รุ่นบิ๊กไบค์เด่นแห่งปี 2016
รถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งบิ๊กไบค์ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในปี 2016 นี้ทุกค่ายต่างก็มีรถรุ่นต่างๆ มาประชันโฉมกันมากมายจนตาลายและเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี? เช็คราคา.คอม จึงได้รวบรวมรถมอเตอร์ไซค์ 10 รุ่นเด่น* ที่มาแรงในปี 2016 มาให้แฟนๆ มอเตอร์ไซค์ได้เลือกชมกันอย่างเต็มอิ่ม (เนื่องด้วยมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นต่างมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ข้อมูลมอเตอร์ไซค์ทางด้านล่างนี้ จึงไม่ใช่การจัดอันดับ แต่เป็นการเรียงตามลำดับตัวอักษรของแต่ละยี่ห้อครับ)
บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอส 1000 อาร์อาร์ จากคอนเซปต์มอเตอร์ไซค์แบบซูเปอร์ไบค์ เครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ และระบบวาล์วพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม บนตัวถังเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา 198 แรงม้า สู่ถนนจริง นับเป็นรุ่นที่เหล่านักบิดอยากลองควบดูสักครั้ง จากชื่อเสียงอันโด่งดังทั้งในเรื่องความแรง ความสวยและสมรรถนะที่ดีเยี่ยมคันหนึ่งของบิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตจาก BMW
BMW S 1000 RR ถ่ายทอดความแรงจากรุ่น HP4 ที่โด่งดัง มาพร้อมราคาสำหรับรุ่นประกอบในประเทศไทยที่ 820,000 บาท ไม่มากเกินไป น่าซื้อใช่ไหมครับ เบเนลลี่ ทีเอ็นที 300 เอส สปอร์ตเน็ตเก็ตสัญชาติอิตาลี รูปทรงผสมผสานความเรียบหรูและดุดัน โดดเด่นด้วยโครงตัวถังสีแดงสด แฟริ่งเล็กๆ ด้านข้าง เครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ 300 ซีซี 37 แรงม้า เกียร์ 6 จังหวะ ช่วงล่างอันแน่นหนึบจากโช้กหน้าหัวกลับ และโช้กหลังเดี่ยวแบบสวิงอาร์ม และนับเป็นแบรนด์ใหม่ในไทย (เก่าในต่างประเทศ) ที่เริ่มมีกระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยราคาที่ไม่สูงเกินเอื้อม และสรรถนะที่ไม่เป็นรองใคร
Benelli TNT 300S ถ่ายทอดความสปอร์ตจากตำนานอันเก่าแก่ไว้อย่างครบถ้วน และลงตัวในราคาโดนใจที่ 139,000 บาท ก็จะได้บิ๊กไบค์สไตล์อิตาลีมาควบให้หนำใจ
ดูคาติ สแกรมเบอร์ ซิกส์ตี้ทู บิ๊กไบค์แนวครูสเซอร์น้องเล็ก แต่จัดเต็มด้วยออปชั่นโดนๆ ทั้งเครื่องยนต์ L-Twin 2 สูบ 4 จังหวะ 399 ซีซี ระบบขับวาล์วแบบ Desmodromic กำลังสูงสุด 41 แรงม้า จุดเด่นนอกจากตัวเครื่องสูบแอลแล้วก็จะเป็นดีไซน์กึ่งย่อนยุคผสานความทันสมัย ด้วยไฟ LED วงแหวน หน้าปัด LCD แสดงผลการทำงานต่างๆ ครบถ้วน ไฟท้าย LED สีส้มสดใส และระบบเบรก ABS ท่านั่งที่ขี่สบายคล้ายท่านั่งของชอปเปอร์ และความแน่นหนึบของช่วงล่างและระบบเกียร์ 6 จังหวะที่นุ่มนวล น้ำหนักตัวรถไม่มาก เหมาะกับการขี่ทั้งในและนอกเมือง ซึ่งในช่วงหลังๆ มานี้ Scrambler Sixty2 ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งของดูคาติที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
Ducati Scrambler Sixty2 นอกจากได้ความมั่นใจจากแบรนด์ดูคาติ สมรรถนะที่ดี ออปชั่นครบครันแล้ว ราคายังไม่ไกลเกินเอื้อม เพียง 282,000 บาทเท่านั้นเอง Harley-Davidson Sportster Forty-Eight
ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ชื่อนี้บอกถึงความขลัง มีเสน่ห์ของมอเตอร์ไซค์แบบ "บิ๊กชอปเปอร์" โดยรุ่น สปอร์ตสเตอร์ โฟร์ตี้เอท ยิ่งเพิ่มความขลังของตระกูลฮาร์เลย์ให้มากขึ้น จุดเด่นนอกจากรูปทรงชอปเปอร์มาดเข้มและเครื่องยนต์ 2 สูบ V-Twin OHV เอกลักษณ์ของฮาร์เลย์แล้ว สีของถังน้ำมันยังทันสมัยพร้อมกับโครงสร้างตัวถังสีดำ ความเงางามจากชุดท่อไอเสียที่ออกข้าง ทำให้หลายคนใฝ่ฝันจะได้ครอบครอง จนมียอดเข้าชมในเว็บไซต์เช็คราคา.คอมกว่าสองแสนคน
Harley-Davidson Sportster Forty-Eight ความคลาสสิกอมตะ และเป็นมอเตอร์ไซค์ที่แสดงถึงความสำเร็จในชีวิตอีกอย่างหนึ่ง กับราคา 889,000 บาท ฮอนด้า ซีบี500เอฟ สปอร์ตเน็ตเก็ตสีใหม่แสบสัน มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง DOHC น้ำหนักเบาขนาด 471 ซีซี เกียร์ 6 จังหวะ ด้วยระบบเบรก ABS และกุญแจแบบ Wave Key ฝังชิปพิเศษป้องกันการโจรกรรม โช้กหน้าใหม่เพิ่มระบบ Preload Adjuster ปรับระดับได้สำหรับการรองรับน้ำหนักหลากหลายรูปแบบ ก้านเบรกหน้าปรับได้ 5 ระดับ นุ่มนวลทุกการขับขี่จริงๆ ขี่ง่ายควบคุมรถก็คล่อง (ทีมงานได้สัมผัสมาแล้ว) แถมประหยัดอีกต่างหาก
Honda CB500F สร้างความตะลึงด้วยค่าตัวที่เร้าใจ 210,000 บาทเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัพซีซีรถจากเดิมให้ขับมันยิ่งขึ้นและออกทริปตามรถใหญ่ๆ ได้อย่างสบายไม่เหนื่อย ใครหาอยู่จัดเลย คาวาซากิ อีอาร์-6เอ็น บิ๊กไบค์ที่เป็นจุดประกายนักบิดยุคต้นๆ ในประเทศไทย เห็นได้จากมีผู้ขี่ใช้งานบนท้องถนนเต็มไปหมด เรียกว่าน้องๆ พวกรถ AT ด้วยซ้ำไป! เจ้า ER-6N โดดเด่นด้วยรูปทรงเน็กเก็ตที่ดุดันทั้งสีสันของตัวถัง โครงรถ โดยเฉพาะตัวโช้กอัพหลังที่แปลกตาทำให้เป็นที่ดึงดูดในนักบิดต่างหลงใหล นอกจากนี้สมรรถนะจากเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 649 ซีซี ก็นับว่าแรงเอาเรื่อง
Kawasaki ER-6n ABS สมรรถนะดุดัน สีสันสุดเร้าใจ กับราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม 278,000 บาท สำหรับบิ๊กไบค์เครื่องใหญ่บิดมันๆ คันนี้ต้องบอกว่าคนซื้อไปฟินแน่นอนครับ เคทีเอ็ม ดู๊ก 390 "แรง ดิบ ดุ" ต้องยกให้เลย กับบิ๊กไบค์นำเข้าจากออสเตรีย เครื่องยนต์สูบเดียว เที่ยวเพลิน 372.30 ซีซี 44 แรงม้า พลังเหลือเฟือ บิดตามรถซีซี 500 ได้ไม่เหนื่อยนัก จุดเด่นคือ น้ำหนักตัวรถเบาหวิวเพียง 139 กก. ขี่ง่ายคล่องตัวและประหยัด เทคโนโลยีเต็มคันและสีสันเจ็บๆ ไม่เหมือนใคร โดดเด่นมาแต่ไกล
KTM DUKE 390 เน็ตเก็ตไบค์ที่ตอบสนองความแรง ได้ความดิบในทุกการขับขี่ ราคาที่พอรับได้แลกกับสมรรถนะระดับนี้ในราคา 199,000 บาท สาวก KTM จัดเลย "บิดมันติดมือแน่นอน" ซูซูกิ เอสวี650 บิ๊กไบค์รุ่นประหยัดแต่ยังคงความแรง และความดุดัน เครื่องยนต์ V-Twin 2 สูบ DOHC 645 ซีซี เกียร์ 6 จังหวะ และความเพรียวบางที่เรียบง่ายและน้ำหนักเบา มาพร้อมกับเรือนไมล์แบบ Full LCD Multi-Function Instrument Panel และนับเป็นรุ่นน้องเล็กรองลงมาจาก Gradius 650 แตกต่างเพียงลดชิ้นส่วนบางจุดออกไป เช่น แฟริ่งด้านข้าง ขนาดถังน้ำมันที่เล็กลง เป็นต้น แต่ความสนุกในการขับขี่ยังคงเดิม Suzuki SV650 เพิ่มสีสันและลวดลายให้ดูทันสมัยมากขึ้นและราคาประหยัดขึ้น ราคา 298,000 บาท ที่สำคัญนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคันอีกด้วยนะครับ Triumph Street Triple R 675
ไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปอร์ อาร์ 675 แน่นอนว่าเมื่อเห็นรถรุ่นนี้แล้วต้องนึกถึงบิ๊กไบค์คู่กายใช้ขับไล่ล่า หนีตาย และสุดท้ายชนเละ (น่าเสียดายมากๆ) ของพระเอกสุดหล่อ "Tom cruise" จากเรื่อง "mission impossible" จุดเด่นก็คือ โคมไฟหน้าที่ลอยๆ ออกมาเหมือนจงใจให้รู้ว่าเป็นรถแนวเปลือยอย่างแท้จริง แต่ที่เด็ดกว่าเห็นจะเป็นเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ 675 ซีซีที่ต่อยอดเป็น DNA มาหลายรุ่นหลายยุค สุ้มเสียงที่บาดใจใครหลายคนให้หลงใหล พร้อมกับพลัง 106 แรงม้าโหดไหมครับ!
Triumph Street Triple R 675 บิ๊กไบค์แบบเน็กเก็ตแท้ๆ ที่นับเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั่วโลกหันมาสนใจรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้กันมากขึ้น และอาจเป็นรุ่นแรกๆ ที่เราได้รู้จักคำว่า "เน็กเก็ตไบค์" ก็เป็นได้ครับ ส่วน
ราคาค่าตัวอยู่ที่ 460,000 บาท อาจดูสูงไปหน่อยแต่ก็คุ้มถ้าได้สัมผัส Yamaha MT-10
ยามาฮ่า เอ็มที-10 ซูเปอร์ไบค์หรือบิ๊กไบค์สายพันธุ์เน็กเก็ต สปอร์ตดุดันและโฉบเฉี่ยวทุกมุมมอง นับเป็นรถในตระกูล MT ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุด หรือใช้เครื่องยนต์เดียวกับ ยามาฮ่า อาร์วัน (Yamaha R1) ความจุ 998 ซีซี จากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว เกียร์ 6 จังหวะ พลัง 160.4 แรงม้า รูปทรงที่ให้อารมณ์ความดิบ และเทคโนโลยีเต็มคัน ทั้งไฟหน้า LED ระบบอิเล็กทรอนิกส์คอนโทรล ระบบครูซคอนโทรล ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบสลิปเปอร์คลัตช์ ดิสก์เบรกจานคู่และลูกสูบคู่พร้อม ABS เป็นต้น
Yamaha MT-10 นับเป็นรถที่นำเข้าญี่ปุ่นเพื่อแฟนๆ ชาวไทยให้ได้เป็นเจ้าของ ในราคา 619,000 บาท นับว่าราคาไม่โหดเกินไปสำหรับรุ่นท็อปไลน์ของบิ๊กไบค์สไตล์เน็ตเก็ตจากยามาฮ่า
มอเตอร์ไซค์ทั้งหมดนี้ นับว่ามีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป ตามแบบรถและประเภทของรถ ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีสมรรถนะ การขับขี่ รวมถึงประโยชน์ใช้สอยที่คุ้มค่า ขึ้นกับว่าใครจะชอบรถสไตล์แบบไหน มีงบประมาณเท่าไหร่ ก็สามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการครับ ใครอยากได้รุ่นไหน ก็เก็บตังค์รอเลย!
*หมายเหตุ - การรวบรวมรุ่นมอเตอร์ไซค์ข้างต้นเป็นการพิจารณาปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีที่น่าสนใจเป็นหลัก ประกอบกับความเชื่อมั่นในแบรนด์ และข้อมูลจากการทดสอบจริงจากทีมงาน Checkraka และนำมาเรียบเรียงตามลำดับก่อนหลังตามตัวอักษรของแบรนด์ และรุ่นนั้นๆ อย่างไรก็ดี การรวบรวมเหล่านี้ไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ และจึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงได้ และผลการรวบรวมเหล่านี้จึงอาจแตกต่างจากดุลยพินิจ หรือความเห็นส่วนตัวของท่านผู้อ่านได้
- เนื่องจากข้อจำกัดด้านความยาวของบทความ จึงเลือกเพียง 10 รุ่น และอาจมีรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจและไม่ได้อยู่ในบทความนี้อีกหลายรุ่น
- บทความนี้เป็นการแนะนำรุ่นที่เด่นๆ ในช่วงปี 2016 และรวมถึงรุ่นที่ยังเป็นรถรุ่นปีก่อนหน้านี้
- การรวบรวมข้างต้นเป็นการรวบรวมรุ่นที่ยังมีขายอยู่ ณ ปี 2016 โดยอ้างอิงจากข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2016 ดังนั้น หลังจากเวลานี้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลสินค้าที่เปลี่ยนไป รถรุ่นใหม่ที่อาจเปิดตัวเพิ่มในปีนี้ และอื่น ๆ