นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากตัวใหม่ "เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษปันน้ำใจ" มีจุดเด่น คือ ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าปกติ เพื่อให้ผู้ฝากได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม ด้วยการปันดอกเบี้ยส่วนหนึ่งบริจาคให้กับมูลนิธิต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสหรือดูแลสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการส่งต่อสิ่งดี ๆ กลับคืนสู่สังคมผ่านบริการเงินฝากของธนาคารออมสิน อีกทั้งยังได้ลดหย่อนภาษีด้วย
นายวิทัย กล่าวว่า การออกแบบผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ ได้นำภารกิจเชิงสังคมมาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงานเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ลดผลกระทบเชิงลบต่อสังคม (Social Mission Integration) เพื่อร่วมกับลูกค้าหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการขับเคลื่อนการดำเนินการด้านความยั่งยืน ตามกรอบ ESG ให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ผู้ฝากสามารถเลือกบริจาคให้กับมูลนิธิที่เข้าร่วมโครงการรวม 4 แห่ง (เลือกได้มากกว่า 1 แห่ง) ได้แก่
1. มูลนิธิบ้านนกขมิ้น 2.มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท 3.มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ 4.มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มีแนวทางสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ด้านขจัดความยากจน ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ด้านลดความเหลื่อมล้ำ และด้านการปกป้อง ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เงินที่บริจาคจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีอีกด้วย โดยมูลนิธิที่ผู้ฝากเลือกบริจาคจะบันทึกข้อมูลการบริจาคผ่านระบบ e-Donation ผู้ฝากสามารถตรวจสอบการบริจาคได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการลงทะเบียนเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)
- ผู้ลงทะเบียนที่ประสงค์เปิดบัญชีเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ) เพื่อใช้บริการ ณ ธนาคารออมสินสาขา (“ผู้ลงทะเบียน”) สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ http://www.gsb.or.th หรือ line Official : GSB Society (“ลงทะเบียน”) โดยธนาคารเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2566 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และภายหลังการลงทะเบียนการฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
- ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกข้อมูลตามที่ธนาคารกำหนดให้ครบถ้วน โดยระบุจำนวนเงิน และเลือกมูลนิธิ ที่ต้องการบริจาค
- ธนาคารเปิดรับฝาก "เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)" ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2566 จำนวนเงินในการลงทะเบียนขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนเงินสูงสุด
- ผู้ลงทะเบียนใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 1 หมายเลข ทำการลงทะเบียนได้ 1 ครั้งเท่านั้น
- ผู้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนแทนผู้อื่นได้ โดยต้องระบุข้อมูลหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลนั้น ๆ
- ผู้ลงทะเบียนตกลงและยอมรับ เมื่อมีการลงทะเบียนผ่านช่องทางของธนาคาร และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนดไว้จนปรากฏหน้าจอการลงทะเบียนการฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” แล้ว ให้ถือเป็นการลงทะเบียน โดยผู้ลงทะเบียนเอง และผู้ลงทะเบียนตกลงตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลการลงทะเบียนก่อนการยืนยันสำเร็จ
- เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ผู้ลงทะเบียนถ่ายภาพหน้าจอการลงทะเบียนสำเร็จเพื่อเป็นหลักฐานในการติดต่อ รับบริการฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” กับธนาคาร ซึ่งเมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ผู้ลงทะเบียนสามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้
- ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เงื่อนไขการลงทะเบียนเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ) ตามความเหมาะสม โดยธนาคารจะแจ้งหรือประกาศให้ทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามที่ธนาคารเห็นสมควร
เงื่อนไขเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)
- ผู้ฝากจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป ที่มี ชื่อ – สกุล ตรงกับผู้ลงทะเบียนฝากเงิน และมีหลักฐานการบันทึกภาพหน้าจอการลงทะเบียนฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” สำเร็จจากธนาคารเท่านั้น
- ผู้ฝากเปิดบัญชีได้คนละ 1 บัญชี เท่านั้น
- ไม่รับฝากบัญชีเพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์ บัญชีร่วม บัญชีคณะบุคคล และบัญชีนิติบุคคล
- ต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอน
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท และฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ได้ไม่เกินวันที่ 31 ตุลาคม 2566
- อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.20 ต่อปี ผู้ฝากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี และบริจาคเงินในอัตราร้อยละ 0.20 ต่อปี ให้กับมูลนิธิช่วยเหลือสังคม
- จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน โดยโอนเข้าบัญชีเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน ทุกวันสิ้นเดือน
- จ่ายดอกเบี้ยเมื่อฝากครบ 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ฝาก ธนาคารจะโอนยอดเงินฝากและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอนที่ผู้ฝากแจ้งไว้ ชนวันตามวันที่ฝาก
- ถอนครั้งละเท่าใดก็ได้
- ถอนหรือปิดบัญชีก่อนฝากครบ 6 เดือน จำนวนเงินที่ถอนจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.20 ต่อปี
- ไม่หักภาษี ณ ที่จ่าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1115 หรือ www.gsb.or.th