4 ข้อควรระวัง! กลโกงบัตร

ขึ้นชื่อว่า "บัตรอิเล็กทรอนิกส์" ยิ่งสามารถอำนวยความสะดวกทางด้านการทำธุกรรมทางการเงินได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีกับผู้ใช้บัตรมากเท่านั้นใช่มั้ยคะ แต่ในความสะดวกสบายนั้นก็แฝงไปด้วยอันตรายที่เราควรจะต้องรู้จักระมัดระวังก็ไว้บ้าง เพราะถ้าหากมิจฉาชีพนั้นเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินที่บันทึกไว้ในตัวบัตรของเราได้แล้ว ก็จะสามารถนำไปปลอมเป็นเจ้าของบัตรแล้วทำธุรกรรมต่างๆ แทนเราก็ได้ค่ะ วันนี้เราลองมาดู 4 ข้อหลักๆ ที่ต้องรู้ทันกลโกงของแก๊งมิจฉาชีพเพื่อเป็นการป้องกันไว้ดีกว่าค่ะ

1. คัดลอกข้อมูลจากแถบแม่เหล็กของบัตร โดยเครื่องสกิมเมอร์ที่ติดตั้งไว้ที่ตู้เอทีเอ็ม

มิจฉาชีพมักติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์ที่ช่องเสียบบัตรของตู้เอทีเอ็มเพื่อคัดลอกข้อมูลจากบัตร พร้อมติดตั้งแป้นครอบกดตัวเลขเพื่อบันทึกรหัสผ่าน หรืออาจติดตั้งกล้องเพื่อแอบดูรหัสผ่าน

2. คัดลอกข้อมูลโดยเครื่องสกิมเมอร์ขนาดพกพา

เครื่องแฮนด์เฮลด์สกิมเมอร์หรือเครื่องมือขนาดเล็ก ที่ถือไว้ในมือและนำบัตรของเหยื่อมารูดพร้อมทั้งดูรหัสปลอดภัยจากหลังบัตร โดยไม่ให้เหยื่อสังเกตเห็น ซึ่งอาจเกิดขึ้นที่ร้านค้า ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน หรือแอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารยืนอยู่หน้าตู้เอทีเอ็มแล้วขอดูบัตรของเหยื่อ หรือทำทีเสนอความช่วยเหลือแล้วคัดลอกข้อมูลเมื่อเหยื่อเผลอ

3. ปลอมแปลงเอกสารสมัครบัตรเครดิต

โดยปลอมแปลง หรือใช้เอกสารส่วนตัวของเหยื่อ เช่น สำเนาบัตรประชาชน แล้วนำไปใช้สมัครบัตรเครดิตหรือแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนบัตร โดยแจ้งให้สถาบันการเงินส่งเอกสารและบัตรที่ออกใหม่ให้กับมิจฉาชีพโดยตรง เมื่อได้รับบัตรเครดิตก็นำไปใช้จ่ายในนามของเหยื่อ

4. ขโมยข้อมูลจากใบบันทึกรายการ

มิจฉาชีพจะเก็บใบบันทึกรายการตามตู้เอทีเอ็มที่มียอดคงเหลือค่อนข้างมากไปใช้ค้นหาข้อมูลสำคัญๆ ในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชน โดยใช้วิธีที่แตกต่างกันออกไป เช่น แอบอ้างเป็นข้าราชการไปขอข้อมูลทะเบียนราษฎรหรือค้นหาเลขที่บัญชีให้ครบ 10 หลัก แล้วนำไปทดลองโอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์เพื่อให้ทราบชื่อเจ้าของบัญชี แล้วปลอมแปลงบัตรโดยใช้ชื่อของเหยื่อเป็นเจ้าของบัตร แต่ติดรูปของมิจฉาชีพ ไปขอเปิดบัญชีเงินฝากและทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ของธนาคารเดียวกัน แต่คนละสาขา พร้อมทั้งขอเปิดใช้บริการธนาคารออนไลน์กับทุกบัญชีเงินฝากของเหยื่อ เพื่อโอนเงินทั้งหมดไปที่บัญชีเงินฝากที่เปิดใหม่ แล้วใช้บัตรเอทีเอ็มในการถอนเงินออกไป

(รูปภาพจาก: www.denaeyewear.com)

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: M2F