หลอกตัวเองยังไง? ไม่ให้เป็นหนี้

บางคนทำงานเหนื่อยๆ ก็อยากตบรางวัลให้ตัวเองด้วยของสักชิ้น ที่อาจจะต้องใช้เวลาในการผ่อนหลายๆ เดือน ซึ่งการตลาดสมัยนี้ก็ล้ำมากเหมือนกัน จากเมื่อก่อนที่แค่โฆษณาให้เรารู้สึกอยากได้ แต่ปัจจุบันทำให้เรา "ไม่มีไม่ได้" และบวกกับธนาคารที่ทำการตลาด จัดโปรโมชั่นผ่อน 0% นานกว่า 10 เดือนอีก ยิ่งทำให้เรายิ่งอยากได้มากขึ้น แต่สำหรับคนที่รู้ตัวไม่อยากเป็นหนี้ วันนี้เรามีเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า "การหลอกตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากการเป็นหนี้" มาฝากกันค่ะ จะหลอกด้วยเทคนิคที่แพรวพราวขนาดไหน มาดูกัน

1. เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าการใช้เงิน

การไม่มีหนี้คือลาภธรรมดา แต่การมีเป้าหมายที่ต้องตามหาแล้วไปถึงคือสุดยอดของโชคลาภ เราอาจจะสะกดอารมณ์อยากของเราด้วยคำถามว่า "ถ้าเราใช้เงินในอนาคตก่อนนี้ เราจะไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้นหรือช้าลง" ถามตัวเองก่อนใช้เงินเสมอ และพยายามสะกดตัวเองให้อยู่

2. อีกใน 1 - 2 ปีข้างหน้า มันจะมีสิ่งใหม่ที่ดีกว่าและฮิตกว่า

เป็นสัจธรรมของโลกยุคใหม่ที่ต้องสรรหาของสด ใหม่ และโดดเด่นอยู่เสมอ ไม่งั้นจะไม่ทันยุค ทันสมัยเอาได้ และนี่คือโอกาสทองของคนที่ไม่อยากเป็นหนี้ เพียงแค่คิดว่า "เดี๋ยวก็มีรุ่นใหม่ออกมาอีก" ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น โทรศัพท์มือถือราคาแพง เป็นต้น

3. เราไม่ได้อยากได้มันจริงๆ หรอก มันก็เป็นแค่กระแสอ่ะ

เอาจริงๆ แล้ว ความต้องการบางอย่างมันก็คล้ายพายุฝน มาแป็บเดียว เดี๋ยวก็ซาและก็จากไป ของบางอย่างเราอยากได้แทบตาย แต่พอเวลาผ่านไป ความอยากได้นั้นแทบไม่มีเลย ดังที่นักปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า ถ้าคุณจ่ายเงินซื้อของแล้วคิดในมุมของเขาว่าจะชื่นชมคุณ นั่นแสดงว่าคุณมีปัญหาแล้ว!

4. เงินทองเป็นของนอกกาย ถ้ายังไม่ตายก็ต้องหากันจนตาย

อย่าลืมว่าเงินแต่ละบาทนั้นหาไม่ได้ง่ายๆ กว่าจะได้มานั้นต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย ทนการโขกสับสารพัด ทุกครั้งทีจะใช้จ่ายมันไปหมายถึงเรากำลังเอาหยาดเหงื่อนั้นไปแลก ดังนั้นถ้าเรากำลังอยากได้ของอะไรที่ฟุ่มเฟือยสักอย่าง ลองอดใจไว้ก่อน แล้วนำเงินไปลงทุน เรียนรู้วิธีการขยับฐานะของตัวเองก่อน หลังจากที่ประสบความสำเร็จแล้ว มีรายได้เข้ามามากมายแล้ว ถึงตอนนั้นจะตบรางวัลให้ตัวเองสักกี่อย่างก็ไม่มีใครว่า

การเป็นหนี้จะทำให้ความมั่นคงทางการเงินถูกผลัดออกไปตามจำนวนเดือนที่เราต้องผ่อน ไม่มีใครสามารถทำงานได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรทำงานหนักแล้วตอบแทนตัวเองด้วยหนี้สิน เพื่อให้ตัวเองต้องทำงานหนักกว่าเดิม ก่อนจะเป็นหนี้ ใจเย็นลงสักนิด ถามใจตัวเองดีๆ หนี้สินจากของไม่จำเป็นกับเป้าหมายชีวิต เราต้องการอะไรกันแน่?

ขอขอบคุณ: www.vittarot.com, blog.eduzones.com, www.komepeeonline.com