เครดิตไม่ดี! รีไฟแนนซ์บ้านยังไงให้ผ่านง่าย

icon 7 ต.ค. 67 icon 300
เครดิตไม่ดี!  รีไฟแนนซ์บ้านยังไงให้ผ่านง่าย
การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นการย้ายไปขอสินเชื่อกับธนาคารใหม่ที่ให้ข้อเสนออัตราดอกเบี้ยถูกลงกว่าธนาคารเดิม โดยธนาคารจะใช้หลายๆ ปัจจัยประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และเรื่องของคะแนนเครดิตก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณาค่ะ ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีเครดิตไม่ดี การรีไฟแนนซ์บ้านอาจดูเป็นเรื่องยากสักหน่อย วันนี้เราจะพามาดูวิธีการ และเทคนิคที่จะช่วยให้การขอรีไฟแนนซ์บ้านสำหรับคนที่เครดิตไม่ดี ให้ผ่านได้ง่ายขึ้นมาฝากกันนะคะ 
 
คะแนนเครดิตไม่ดี หมายถึง คนที่มีประวัติทางการเงินที่แสดงถึงความไม่สามารถจัดการหนี้สินได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายหนี้ล่าช้า การผิดนัดชำระหนี้ หรือการมีหนี้สะสมมากเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ ส่งผลให้คะแนนเครดิตต่ำหรือเครดิตไม่ดี โดยปกติคะแนนเครดิตจะถูกใช้เป็นตัวบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นมีความน่าเชื่อถือทางการเงินเพียงใด ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินจะตรวจสอบคะแนนเครดิตก่อนการอนุมัติสินเชื่อ หรือการให้บริการทางการเงินต่างๆ 
 
คะแนนเครดิตไม่ดี ทำได้แบบนี้ รีไฟแนนซ์บ้าน ผ่านฉลุย 

1. ปรับปรุงคะแนนเครดิต เข้าใจง่ายๆ เลยคือ ถ้าคะแนนเครดิตไม่ดี ก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่านั้นเองค่ะ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอน ดังนี้
 
  • ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้ตรงตามกำหนดเวลา
  • ลดจำนวนบัตรเครดิตที่เปิดใช้งาน และพยายามลดภาระหนี้สินที่มีอยู่
  • หลีกเลี่ยงการสมัครสินเชื่อใหม่ในช่วงที่กำลังเตรียมการรีไฟแนนซ์บ้าน
  • หมั่นเช็กเครดิตบูโร หรือตรวจสอบรายงานเครดิตเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หากพบข้อผิดพลาด หรือมีหนี้งอกโดยไม่รู้ตัว ให้รีบติดต่อแก้ไข
2. เลือกธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีเงื่อนไขยืดหยุ่น โดยบางธนาคารอาจมีการให้บริการสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่มีคะแนนเครดิตต่ำ เช่น สินเชื่อแก้หนี้ สินเชื่อฟื้นฟูเครดิตต่างๆ หรือสินเชื่อเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยอาจจะสูงกว่าลูกค้าที่มีคะแนนเครดิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ก็จะช่วยเป็นอีกทางเลือกให้สามารถรีไฟแนนซ์บ้านผ่านได้ง่ายขึ้น และเมื่อคะแนนเครดิตดีขึ้นธนาคารอาจมีการขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในอนาคต
 
3. หาผู้ค้ำประกัน หรือผู้กู้ร่วมที่มีเครดิตดี การหาผู้ค้ำประกันหรือผู้กู้ร่วมที่มีประวัติการเงินดี มีรายได้มั่นคง หนี้สินต่ำ และมีความน่าเชื่อถือ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้การขอรีไฟแนนซ์บ้านผ่านได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้ค้ำประกันหรือผู้กู้ร่วมสามารถช่วยให้ธนาคารมั่นใจได้ว่า สินเชื่อก้อนนี้จะมีผู้ที่พร้อมรับผิดชอบหนี้ หากเกิดกรณีที่ผู้กู้หลักไม่สามารถชำระหนี้ต่อได้ 
 
4. แสดงหลักฐานทางการเงินที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารแสดงรายได้ เช่น ใบแจ้งรายได้หรือสลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือเอกสารเกี่ยวกับการถือครองทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน ที่ดิน หรือเงินฝาก เพราะหากมีรายได้เพียงพอ หรือมีการถือครองทรัพย์สินที่มีมูลค่า ก็สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธนาคาร จนอาจมองเห็นโอกาสในการพิจารณาให้รีไฟแนนซ์ได้
 
5. ลดภาระหนี้อื่นๆ ก่อนการยื่นรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงินให้กับผู้ขอสินเชื่อ  และช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติจากธนาคาร รวมถึงอาจจะช่วยให้เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ขอสินเชื่อจะดูมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดภาระหนี้ เช่น หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง หรือการรวมหนี้ให้เหลือเพียงสินเชื่อเดียวที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ที่คงเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
สรุปแล้ว การรีไฟแนนซ์บ้านสำหรับผู้ที่มีเครดิตไม่ดีก็สามารถทำได้ แต่ควรมีการวางแผนอย่างดี และเตรียมความพร้อมในเรื่องเอกสาร มีการทบทวน และปรับปรุงเครดิตของตนเอง รวมถึงการเลือกธนาคารที่เหมาะสม นอกจากนี้การแสดงสถานะทางการเงินที่มั่นคง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรีไฟแนนซ์บ้านให้สำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
แท็กที่เกี่ยวข้อง รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ที่ไหนดี รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ทุกธนาคาร รีไฟแนนซ์บ้าน refinance บ้าน refinance บ้าน 2567
Money Guru
เขียนโดย ชนานาถ จินตกสิกรรม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)