บัตรเครดิตกับเดบิต ต่างกันยังไง ข้อดี-ข้อเสีย แบบไหนเหมาะกับเรา?

icon 25 ก.ย. 67 icon 499
บัตรเครดิตกับเดบิต ต่างกันยังไง ข้อดี-ข้อเสีย แบบไหนเหมาะกับเรา?
"บัตรเครดิต" และ "บัตรเดบิต" กลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ในขณะที่บัตรทั้งสองประเภทเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้เราใช้จ่ายอย่างสะดวกสบาย แต่บัตรเครดิตกับเดบิต ก็มีข้อแตกต่างกัน วันนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า บัตรเครดิตกับเดบิตต่างกันยังไง, บัตรเครดิต เดบิต ดูยังไง เพื่อการเลือกใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด เผื่อใครกำลังจะสมัครบัตรเครดิตได้ทำความเข้าใจมากขึ้น

บัตรเครดิต คืออะไร ? 

บัตรเครดิต (Credit Card) คือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสด จัดเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้วงเงินสินเชื่อแก่ผู้เป็นสมาชิกบัตรเครดิต สามารถนำไปใช้จ่ายล่วงหน้าก่อน แล้วค่อยชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยในภายหลัง ซึ่งมักจะเป็นรอบบิลประจำเดือน และ  จะต้องชำระยอดเรียกเก็บ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องชำระขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด แต่หากชำระไม่ตรงตามกำหนด จะมีดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 16 ต่อปีตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย. 67)

ข้อดีของบัตรเครดิต 
สมัครบัตรเครดิต มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น 
  • ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่าย สามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้ทันทีแม้ไม่มีเงินสดในมือ
  • หากบัตรสูญหายหรือถูกขโมย สามารถแจ้งอายัดได้ทันที ทำให้ปลอดภัยกว่าการพกเงินสด
  • ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพราะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย เช่น 30 - 45 วัน ซึ่งช่วยในการบริหารเงินสด
  • ได้รับคะแนนสะสมจากการใช้จ่ายผ่านบัตร โดยคะแนนสามารถใช้แทนเงินสด ใช้คะแนนแลกรับส่วนลด บริการ ส่วนลด หรือแลกรับเครดิตเงินคืนได้
  • ได้รับเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตร (ขึ้นอยู่กับโปรโมชัน)
  • ได้รับส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ 
  • มีโปรโมชันผ่อนชำระสินค้าหรือบริการผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% 
  • สามารถเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าได้ 100% จากวงเงินคงเหลือ
  • ได้รับบริการพิเศษต่างๆ เช่น สามารถใช้บริการห้องรับรองพิเศษสนามบินได้ 
  • การใช้บัตรเครดิตและชำระตรงเวลา จะช่วยสร้างเครดิตที่ดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการขอสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคต

ข้อควรระวังของบัตรเครดิต 
  • หากชำระไม่ตรงตามกำหนด ชำระขั้นต่ำ หรือชำระไม่เต็มจำนวน จะต้องเสียดอกเบี้ยตามที่ธนาคาร/สถาบันการเงินกำหนด
  • บัตรเครดิตบางประเภทมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
  • เสี่ยงในการใช้จ่ายเกินตัว หากใช้เกินความจำเป็น ดังนั้น จะต้องมีความรับผิดชอบและมีวินัยทางการเงินสูง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินภายหลัง

แนะนำบัตรเครดิต KTC ฟรีค่าธรรมเนียม 
หากคุณกำลังมองหาบัตรเครดิตที่ใช้งานง่าย ฟรีค่าธรรมเนียม แถมยังได้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า ต้องบอกเลยว่าบัตรเครดิต KTC ตอบโจทย์ให้กับคุณได้ เพราะส่วนใหญ่บัตรเครดิต KTC จะไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ เช่น 
 
 
1.   KTC DIGITAL PLATINUM MASTERCARD 
 
บัตรเครดิต KTC DIGITAL PLATINUM MASTERCARD เป็นบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ สามารถสมัครง่าย และยังเลือกรับบัตรพลาสติกไร้หมายเลขและแถบแม่เหล็กได้ ทำให้ไร้กังวลเรื่องการขโมยข้อมูล 
 
หากคุณเป็นสายช้อปออนไลน์ บอกเลยว่าตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถทำให้คุณช้อปออนไลน์ได้อย่างมั่นใจด้วย Dynamic CVV รหัสหลังบัตรจะเปลี่ยนภายใน 24 ชั่วโมงหรือทุกครั้งที่มีการขอ อีกทั้งสามารถควบคุมการใช้งานง่ายผ่านแอป KTC Mobile ที่สำคัญมาพร้อมสิทธิประโยชน์สุดคุ้มเพียบ ไม่ว่าจะเป็นรับส่วนลดร้านค้าออนไลน์ทุกเดือนกับ Mastercard® เมื่อช้อปผ่านพันธมิตรออนไลน์ที่ร่วมรายการตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมรับประกันภัยความคุ้มครองการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต KTC MASTERCARD กรณีไม่จัดส่งสินค้า และ / หรือการจัดส่งสินค้าไม่ถูกต้องและไม่ครบถ้วน ด้วยวงเงินประกันสูงสุด 200 ดอลล่าร์สหรัฐ โดย Mastercard ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 – 31 ธ.ค. 68
 
 
2. KTC VISA PLATINUM 
 
หากคุณเป็นสายเที่ยวหรือสายช้อปปิ้งออนไลน์ บัตรเครดิต KTC VISA PLATINUM เป็นอีกหนึ่งบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ นอกจากจะไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพแล้ว ยังมาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย

เช่น ประกันการเดินทาง 8 ล้านบาท รับสิทธิ์ผ่อนชำระสินค้า/บริการด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% สูงสุด 10 เดือน หรือสามารถเปลี่ยนยอดชำระรายการซื้อสินค้า/บริการของเดือนถัดไปเป็นยอดผ่อนชำระได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% สูงสุด 10 เดือน และยังได้รับส่วนลดที่ห้องอาหารในโรงแรมชั้นนำตลอดปีอีกด้วย
 
 
3. KTC JCB PLATINUM 
 
สำหรับผู้ที่หลงใหลประเทศญี่ปุ่น บัตรเครดิต KTC JCB PLATINUM พร้อมเติมเต็มความสุขในแบบ Japanese Lifestyle ให้กับคุณได้ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย อย่าง รับคะแนน KTC FOREVER / ROP x2 แบบไม่จำกัดยอดรับคะแนนสูงสุด สำหรับทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ประเทศญี่ปุ่น (ยกเว้นยอดการใช้จ่ายที่เป็นสกุลเงินไทย) อีกทั้งยังได้บริการห้องรับรองในสนามบินญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฮาวาย อีกด้วย
 
 
4. KTC UNIONPAY PLATINUM
 
บัตรเครดิต KTC UNIONPAY PLATINUM เป็นบัตรเครดิตที่มาพร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ที่ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน เป็นสกุลเงินท้องถิ่น HKD/MOP/TWD จะรับคะแนน KTC FOREVER x2, รับส่วนลดและสิทธิพิเศษจากร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ท่องเที่ยว ระดับพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศ, รับ e-Coupon ส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ผ่าน U Plan Platform จากร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่าน UnionPay International WeChat Official Account และหน้าร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ ฯลฯ

บัตรเดบิต คืออะไร ?
บัตรเดบิต (Debit Card) เป็นบัตรที่เชื่อมต่อกับบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตร โดยทุกครั้งที่ใช้จ่ายเงินจะถูกหักออกจากบัญชีทันทีตามจำนวนที่ใช้จ่าย ทำให้ใช้จ่ายได้เท่าที่มีเงินในบัญชีเท่านั้น 
ข้อดีของบัตรเดบิต
  • ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการใช้เงินได้ดี เพราะบัตรเดบิตจะใช้จ่ายได้เฉพาะเงินที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น ไม่สามารถใช้เงินเกินวงเงินได้ ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นหนี้
  • ไม่มีดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นการใช้เงินของตัวเอง จึงไม่มีดอกเบี้ยเหมือนบัตรเครดิต
  • สะดวกและรวดเร็ว เพราะสามารถใช้ซื้อสินค้าหรือเบิกถอนเงินสดที่ตู้ ATM ได้ง่ายและรวดเร็ว 

ข้อเสียของบัตรเดบิต
  • สิทธิประโยชน์น้อย เพราะมักไม่มีคะแนนสะสมหรือสิทธิพิเศษเทียบเท่าบัตรเครดิต
  • บัตรเดบิตจะหักเงินจากบัญชีทันทีเมื่อใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถยืดเวลาการชำระค่าสินค่าหรือบริการได้เหมือนบัตรเครดิต
  • ต้องมีเงินพร้อมในบัญชีเสมอเมื่อต้องการใช้จ่าย
  • ความปลอดภัยที่น้อยกว่าบัตรเครดิต เพราะหากบัตรเดบิตสูญหายและมีการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต เงินจะถูกหักจากบัญชีทันที ซึ่งการเรียกคืนเงินทำได้ยากกว่า
  • ไม่สามารถสร้างเครดิตได้ เพราะการใช้บัตรเดบิตจะไม่ส่งผลต่อประวัติเครดิต ทำให้ไม่มีผลต่อการขอสินเชื่อใดๆ จากธนาคารในอนาคต

เมื่อทราบแล้วว่าบัตรเครดิตกับเดบิต ต่างกันยังไง การจะเลือกใช้บัตรประเภทใดก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้จ่ายและวินัยทางการเงินของแต่ละบุคคล หากคุณเป็นคนที่มีวินัยทางการเงินดี สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้ ต้องการสิทธิประโยชน์พิเศษ และต้องการสร้างเครดิต บัตรเครดิตถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะคุณจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายที่ผลตอบแทนอาจมากกว่าเงินที่ใช้จ่ายออกไปด้วยซ้ำ แต่หากคุณต้องการควบคุมการใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องการมีภาระดอกเบี้ย บัตรเดบิตอาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้จ่ายอย่างมีสติและรับผิดชอบ เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาว สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านทางออนไลน์ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ https://www.ktc.co.th/credit-card

* ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
แท็กที่เกี่ยวข้อง สมัครบัตรเครดิต ktc บัตรเครดิต ktc บัตรเดบิต สมัครออนไลน์
Money Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)