การ
รีไฟแนนซ์บ้านเป็นหนึ่งในวิธีการสำหรับคนที่ต้องการลดอัตราดอกเบี้ย ต้องการปรับลด หรือขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ รวมถึงสามารถ
รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน นอกจากจะเลือกเปรียบเทียบ และศึกษารายละเอียด รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ ให้ชัดเจนแล้ว วันนี้…เราจะสรุปข้อมูลจากประสบการณ์ของผู้ที่เคยทำการรีไฟแนนซ์มาฝากกันค่ะ ว่ามีข้อควรระวังอะไรบ้าง
ข้อควรระวังในการรีไฟแนนซ์บ้าน
1. การเลือกธนาคารที่จะทำการรีไฟแนนซ์ไป
ควรเลือกเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย โปรโมชัน และเงื่อนไขต่างๆ จากหลายๆ ธนาคาร เพื่อเลือกธนาคารที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
2. ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์ นอกจากที่เราจะได้ปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงแล้ว สิ่งที่ต้องตระหนักเสมอคือ ทุกครั้งที่ทำการรีไฟแนนซ์ จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาเสมอ เช่น ค่าธรรมเนียมการประเมิน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง และค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งเราควรคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ว่าคุ้มค่าหรือไม่กับดอกเบี้ยที่ได้ลดลง
3. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
ในกรณีที่ทางเลือกอัตราดอกเบี้ยที่เลือกเป็นแบบ อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) เราอาจต้องเตรียมตัวรับความเสี่ยงจากการปรับเพิ่มของดอกเบี้ยในอนาคต ดังนั้นจึงควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ
4. ศึกษาเงื่อนไข และข้อกำหนดต่าง ๆ
เราควรศึกษา และทำความเข้าใจเงื่อนไขของสัญญารีไฟแนนซ์บ้านให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงื่อนไขการชำระเงินล่วงหน้า ค่าปรับหากผิดนัดชำระ หรือระยะเวลาที่จะสามารถรีไฟแนนซ์ไปธนาคารใหม่ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าปรับ เป็นต้น
บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากการรีไฟแนนซ์บ้าน
1. ควรการเตรียมตัว และวางแผนล่วงหน้า
หากคิดจะรีไฟแนนซ์บ้าน ควรมีการเตรียมเอกสาร และข้อมูลที่จำเป็นล่วงหน้า เพื่อช่วยให้การรีไฟแนนซ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และรวดเร็ว
2. หมั่นเช็ก และติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอยู่เสมอ
โดยปกติธนาคารก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้าน ตามรอบของโปรโมชัน เช่น ทุก 3 เดือน หรือ ทุก 6 เดือน การที่เราคอยติดตามข่าวสารการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอยู่เสมอ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจรีไฟแนนซ์ได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และได้อัตราดอกเบี้ยที่ตรงใจ
3. สามารถใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อช่วยการวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการรีไฟแนนซ์ก่อนได้
ปัจจุบันในหน้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ก็จะมีช่องสำหรับให้ผู้ที่สนใจจะขอสินเชื่อ สามารถลองเข้าไปกรอกข้อมูล และคำนวณเองได้ก่อนอย่างง่ายๆ เช่น คำนวณวงเงินกู้ที่จะได้รับ คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือน เป็นต้น ซึ่งการที่เราเข้าไปลองคำนวณเบื้องต้น ก็จะทำให้เราทราบคร่าวๆ ถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่อเดือน วงเงินที่จะได้รับ ซึ่งจะทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่าการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้คุ้มค่าหรือไม่
4. หากมีข้อสงสัยควรสอบถามข้อมูลจากธนาคาร
โดยเฉพาะมือใหม่ที่ยังไม่เคยรีไฟแนนซ์บ้านเลย หากมีข้อสงสัย ทั้งในเรื่องของเอกสาร วงเงิน อัตราดอกเบี้ย หรือเงื่อนไขต่างๆ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เราต้องการทำธุรกรรมด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจ และเพื่อให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
การรีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจค่ะ ถึงจะมีหลายขั้นตอนแต่หากเราหากมีการการเตรียมตัววางแผนอย่างรอบคอบ ศึกษาข้อมูล และ
เปรียบเทียบให้ดี การรีไฟแนนซ์บ้านก็จะเกิดประโยชน์ ช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้ไม่น้อยค่ะ และทำให้เราสามารถเป็นเจ้าของบ้านอย่างสมบูรณ์ได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ