จบไตรมาสหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยสำหรับปี 2567 หลายคนต่างก็ให้ความสนใจเรื่องผลการดำเนินงานของธนาคาร ว่าธนาคารไหนผลประกอบการเป็นอย่างไร มีกำไร ขาดทุน มีเงินฝากเท่าไหร่ มีสินทรัพย์ หนี้สินเท่าไหร่ ซึ่งนอกเหนือจากข้อมูลเหล่านี้ที่เราจะนำมาฝากกัน เราจะพาไปเปิดอายุจริงธนาคารไทยด้วยว่าธนาคารไหนเป็นพี่ใหญ่สุด มาดูกันค่ะ ว่าอายุของธนาคารแปรผันไปในทิศทางเดียวกันกับผลประกอบการด้วยหรือไม่
เปิดอายุจริง 5 ธนาคารใหญ่
ข้อมูลจากเว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจที่มีการจัดอันดับผลการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 ของธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ 5 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ วันนี้...เราจะพามาเปิดอายุจริงกันก่อนว่า ธนาคารเอกชนขนาดใหญ่ 5 แห่งนี้ธนาคารไหนเป็นพี่ใหญ่สุดกันนะ
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารไทยแห่งแรก ก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2449 เป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินครบวงจร นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย นอกจากนี้ธนาคารมีบริษัทในเครือที่สำคัญ ซึ่งให้บริการทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะเป็น "ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Bank)"
อายุปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าสู่ปีที่ 118
2. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2487 และเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2518 ซึ่งธนาคารยึดมั่นในเจตนารมณ์ของการเป็น "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน" เคียงข้างลูกค้าและสังคมไทยมาตลอดกว่า 7 ทศวรรษที่ผ่านมา
อายุปัจจุบันธนาคารกรุงเทพ เข้าสู่ปีที่ 80
3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2488 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมีสาขาสำนักถนนเสือป่าในปัจจุบันเป็นที่ทำการแห่งแรก ซึ่งเริ่มด้วยพนักงานเพียง 21 คน แต่เพียงงวดบัญชีแรกที่สิ้นสุดหรือเพียง 6 เดือน ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2488 ก็มียอดเงินฝากสูงถึง 12 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 15 ล้านบาท และตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้บริการที่เป็นเลิศ ภายใต้คำขวัญ "บริการทุกระดับประทับใจ"
อายุปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย เข้าสู่ปีที่ 79
4. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2488 และได้นำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2520 ปัจจุบันเป็นธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีเงินให้สินเชื่อ และเงินฝากใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ และเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรแก่ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล
อายุปัจจุบันธนาคารกรุงศรีอยุธยา เข้าสู่ปีที่ 79
5. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เริ่มเปิดดำเนินกิจการ ก่อตั้งสาขาแรกเมื่อปี 2509 โดยรวม 2 ธนาคาร ที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในขณะนั้น ได้แก่ ธนาคารเกษตร จำกัด และธนาคารมณฑล จำกัด สำนักงานตั้งอยู่บนถนนเยาวราช ถนนสายเศรษฐกิจเส้นสำคัญในขณะนั้น เพื่อให้มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงสามารถคุ้มครองผู้ฝากเงิน และบริการลูกค้าได้กว้างขวาง และมีบทบาทช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้มากขึ้นด้วย
ปัจจุบัน ธนาคารกรุงไทยยังคงเติบโต และพร้อมเดินเคียงข้างสังคมไทย โดยได้ปรับวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขัน โดยเปลี่ยนจาก "ธนาคารแสนสะดวก" หรือ "The Convenience Bank" ที่ถือเป็นมาตรฐานบริการของธนาคารในปัจจุบัน สู่แนวคิด "Growing Together for Sustainability" หรือ "กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน" อันเป็นความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและสร้างการบริการที่มีคุณค่า เพื่อสนับสนุนการเติบโตและความมั่งคั่งแก่ลูกค้า สร้างคุณภาพที่ดีขึ้นแก่สังคม ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น
อายุปัจจุบันธนาคารกรุงไทย เข้าสู่ปีที่ 58
ทราบอายุจริงของแต่ละธนาคารกันไปแล้ว เราลองมาดูด้านผลประกอบการกันบ้างนะคะ ว่าแต่ละธนาคารมีสินทรัพย์รวม หนี้สินรวม ยอดเงินฝากรวม และกำไรสะสมเมื่อสินไตรมาส 1/2567 เป็นเท่าไหร่กันบ้าง
รายการสินทรัพย์ หนี้สิน และยอดเงินฝากรวม ไตรมาส 1 /2567
ข้อมูลจากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย เราลองจัดอันดับรายการย่อแสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และยอดเงินฝากรวม ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2567 ของ 5 ธนาคารใหญ่ คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ดังนี้
ข้อมูลสรุปจากตารางข้างต้น
ข้อมูลเรียงลำดับตามจำนวนสินทรัพย์รวม สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 อันดับ 1 คือ ธนาคารกรุงเทพ มีสินทรัพย์รวมสูงที่สุด คือ 3,968,893,347 พันบาท ถัดมาเป็นธนาคารกรุงไทยที่มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3,624,082,267 พันบาท ธนาคารกสิกรไทย มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3,581,974,224 พันบาท ธนาคารไทยพาณิชย์มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3,407,138,135 พันบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 2,610,113,890 พันบาท ตามลำดับค่ะ
ข้อมูลเรียงตามจำนวนหนี้สินรวม สิ้นไตรมาส 1/2567 อันดับ 1 คือ ธนาคารกรุงเทพ ที่มีหนี้สินรวม 3,446,380,737 พันบาท ถัดมาเป็นธนาคารกรุงไทยที่มีหนี้สินรวม 3,232,641,159 พันบาท ธนาคารกสิกรไทย มีหนี้สินรวม 3,091,681,568 พันบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ มีหนี้สินรวม 2,911,894,927 พันบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีหนี้สินรวม 2,337,677,476 พันบาท ตามลำดับค่ะ
ข้อมูลเรียงตามจำนวนยอดเงินฝากรวม สิ้นไตรมาส 1/2567 อันดับ 1 คือ ธนาคารกรุงเทพ ที่มียอดเงินฝากรวม 2,722,564,621 พันบาท ถัดมาเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มียอดเงินฝากรวม 2,410,605,706 พันบาท ธนาคารกสิกรไทย ที่มียอดเงินฝากรวม 2,673,980,996 พันบาท ธนาคารกรุงไทย ที่มียอดเงินฝากรวม 2,607,810,636 พันบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่มียอดเงินฝากรวม 1,976,382,986 พันบาท ตามลำดับค่ะ
รายการกำไรสะสม ไตรมาส 1/2567
ในด้านของกำไรสะสมเมื่อสิ้นไตรมาส 1/2567 เห็นได้ว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีกำไรสะสมอยู่ที่ 423,962,051 พันบาท ถัดมาเป็นธนาคารกสิกรไทย มีกำไรสะสมอยู่ที่ 410,975,889 พันบาท ธนาคารกรุงเทพ มีกำไรสะสมอยู่ที่ 390,825.610 พันบาท ธนาคารกรุงไทย มีกำไรสะสมอยู่ที่ 277,145,480 พันบาท และธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีกำไรสะสมอยู่ที่ 139,820,733 พันบาท ตามลำดับค่ะ
สรุปแล้ว...เมื่อเทียบข้อมูลจากกำไรสะสมในไตรมาส 1/2567 ของแต่ละธนาคาร เห็นได้ว่าธนาคารพี่ใหญ่อย่างไทยพาณิชย์ ก็ยังมีกำไรสะสมสูงสุดค่ะ แต่ทั้งนี้ ผลประกอบการของแต่ละธนาคารก็ขึ้นอยู่กับการบริหารงานของผู้บริหาร ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการ รวมถึงความเชื่อใจ และความไว้วางใจของลูกค้าผู้ใช้บริการเป็นสำคัญด้วยนะคะ หากธนาคารใดมีบริการที่ตอบโจทย์การใช้งาน สามารถใช้งานได้สะดวก รวดเร็ว มีบริการให้ความช่วยเหลือที่ถึงพร้อมทุกสถานการณ์ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้บริการค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย และ www.thansettakij.com