หยุด! คิดให้ดีก่อนค้ำประกันให้ใคร ถ้าไม่อยากจ่ายหนี้แทนเขา

icon 30 เม.ย. 67 icon 1,214
หยุด! คิดให้ดีก่อนค้ำประกันให้ใคร ถ้าไม่อยากจ่ายหนี้แทนเขา
อยู่ๆ ก็เป็นหนี้โดยไม่ทันได้เตรียมตัว เป็นผลจากการค้ำประกันหนี้ให้กับผู้อื่น มีหลายเคสที่เกิดขึ้นในสังคม เรื่องของการค้ำประกันให้กับผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยความเชื่อใจ ความไว้ใจ หรือเพราะความสงสารก็ตาม แต่ผลสุดท้าย หากลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด หรือหนีหนี้ไป ภาระหนี้ก้อนนั้นก็จะตกมาถึงผู้ค้ำประกันนั่นเองค่ะ
 
การค้ำประกันคืออะไร?
 
การค้ำประกัน คือ กระบวนการที่บุคคลหนึ่งจะยอมรับผูกพันตัวเพื่อให้ประกันความเสียหายหรือหนี้สินของบุคคลอื่นในกรณีที่บุคคลนั้นไม่สามารถชำระหนี้หรือจ่ายค่าเสียหายได้ตามข้อตกลงในสัญญา เช่น "ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้ค้ำประกันจะชำระหนี้นั้นแทน" ซึ่งเมื่อมีการทำสัญญาลักษณะนี้เจ้าหนี้ก็จะมีสิทธิเรียกร้อง หรือฟ้องให้คนค้ำประกันรับผิดแทนได้ เพราะเป็นการประกันการชำระหนี้ให้บุคคลอื่น
 
ควรพิจารณาอะไร ก่อนตัดสินใจค้ำประกัน
 
ก่อนตัดสินใจค้ำประกันให้คนอื่น เราควรถามตัวเองว่าเรามีความพร้อมที่จะรับภาระหนี้ก้อนนั้นมากแค่ไหน หากลูกหนี้ตัวจริงเบี้ยวหนี้ พร้อมทั้งควรสังเกตุดูด้วยว่าลูกหนี้ที่เราจะค้ำประกันให้นั้น น่าจะมีความสามารถในการชำระหนี้เพียงพอที่จะไม่เบี้ยวหนี้จริงหรือไม่ ซึ่งต่อให้เราพิจารณาเบื้องต้นเรื่องเหล่านี้แล้ว ก็ยังอาจมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้คืนได้ เช่น ตกงาน ร้านเจ๊ง เก็บเงินไม่ได้ ลูกค้าไม่จ่าย เป็นต้น 
ดังนั้น...เราขอสรุปข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ไว้ ดังนี้ค่ะ 
 
  1. สอบถามวัตถุประสงค์ของการค้ำประกันเงินกู้ เราควรสอบถามรายละเอียดต่างๆ จากคนที่จะให้เราเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ ว่าต้องการเงินไปทำอะไร วงเงินเท่าไร เหตุใดจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากเรา เช่น เงินไม่พอใช้จ่าย หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เป็นต้น 
     
  2. ประเมินความสามารถในการชำระหนี้คืนของผู้กู้ โดยเราอาจดูภาพรวมเบื้องต้นว่าคนที่จะให้เราค้ำประกันเงินกู้มีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ สอบถามข้อมูลต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ เพราะหากเราดูแล้วว่าเขาไม่น่าจะสามารถจ่ายหนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการค้ำประกัน เพราะมีโอกาสสูงที่เราจะต้องรับผิดชอบแทน
     
  3. ประเมินสถานะทางการเงินของตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจค้ำประกันหนี้ให้ใคร ควรคำนึงไว้เสมอว่า ถ้าเราช่วยเขาแล้ว เราจะมีโอกาสกลายเป็นคนที่เดือดร้อนไปด้วยหรือไม่ เช่น หากเขาเบี้ยวหนี้เราจะจ่ายแทนไหวไหม ภาระที่ต้องรับผิดชอบหนี้แทนคนอื่นจะทำให้กระทบกับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือกระทบเงินเก็บยามฉุกเฉินของเราหรือไม่
     
  4. พิจารณาความจำเป็นในการใช้เงินในอนาคต หากเรามีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน หรือมีเงินเก็บเพื่อสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น ค่าเทอมลูก ค่าผ่อนรถ แต่วันใดวันหนึ่งที่ผู้กู้เบี้ยวหนี้ จนเราซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ต้องช่วยชำระหนี้ก้อนนั้นแทน โดยเราอาจจะต้องเอาเงินสำรองเพื่อใช้จ่ายในอนาคต มาจ่ายหนี้แทนไปก่อน ถึงตอนนั้น เราจะกลายเป็นผู้เดือนร้อนเสียเอง 

    พึงคิดไว้เสมอว่า หากเรายังมีภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วเกิดเหตุไม่คาดคิดจนทำให้เราต้องมาเป็นหนี้ เราจะมีหนทางแก้ไขอย่างไร หรือจะปิดโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงเรื่องเหล่านี้ โดยหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ค้ำประกันไปเลย
วิธีป้องกันความเสียหาย หรือลดความเสี่ยงจากการเป็นผู้ค้ำประกัน ​ 
 
หากพิจารณาเรื่องข้างต้นแล้วเรายังตัดสินใจที่จะเป็นผู้ค้ำประกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เราควรหาวิธีป้องกันความเสียหาย หรือลดความเสี่ยงเรื่องการค้ำประกัน ดังนี้ค่ะ 
  1. กำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่จะช่วยเหลือ เช่น ค้ำประเงินกู้ไม่เกิน 20,000 บาท (เรารับภาระได้เท่านี้ โดยไม่เดือดร้อน) การกำหนดจำนวนเงินสูงสุดแบบนี้ จะช่วยป้องกันความเสียหายเท่าที่เรายอมรับได้ หากไม่ได้เงินที่ให้ยืมไปคืนหรือต้องจ่ายหนี้แทน
     
  2. อ่านเงื่อนไขการค้ำประกันให้ครบถ้วน ก่อนที่จะลงชื่อในสัญญาค้ำประกันใดๆ ควรอ่านรายละเอียดในสัญญาให้ครบถ้วนก่อนลงชื่อทุกครั้ง ว่าเป็นการค้ำประกันหนี้อะไร จำนวนเท่าไร (เป็นไปตามที่ตกลงหรือไม่) รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ของการค้ำประกันเงินกู้เพราะหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิ์เรียกร้องให้เราชำระหนี้แทนลูกหนี้ตามสัญญาค้ำประกัน
     
  3. เก็บสัญญาการค้ำประกันเงินกู้ไว้เป็นหลักฐาน ควรเก็บสำเนาสัญญาหนังสือค้ำประกันเงินกู้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ทราบถึงสิทธิ์ และขอบเขตความรับผิดชอบจากการค้ำประกันเงินกู้ตามสัญญา
สุดท้ายแล้ว การช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจช่วยเหลือใคร เราก็ควรหันมามองดูตัวเองก่อนว่าสามารถช่วยเหลือได้เต็มที่แค่ไหน จะเดือดร้อนหรือไม่ หากถึงเวลาที่เราเดือดร้อนบ้างเราจะหันหน้าไปพึ่งใคร นึกถึงใจเขา ใจเรา ช่วยเต็มที่เท่าที่เราจะพอทำได้นะคะ ถ้าตอนนี้ยังช่วยไม่ไหวก็อาจจะให้คำปรึกษา หรือคำแนะนำไปก่อน หรือช่วยตามสมควรนะคะ
 
ดูเพิ่มเติม >> เรื่องต้องรู้ก่อนกู้เงิน - 5 หลักประกันสุดฮิต ที่คนมักนำมาใช้ค้ำประกันสินเชื่อ และการเตรียมตัวก่อนเป็นผู้ค้ำประกัน
 
ขอบคุณข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ค้ำประกัน ค้ำประกันหนี้ บุคคลค้ำประกัน
Money Guru
เขียนโดย ชนานาถ จินตกสิกรรม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)