การขอสินเชื่อรถแลกเงิน โดยปกติจะมีให้บริการ 2 รูปแบบ คือสินเชื่อรถแลกเงินแบบจำนำทะเบียน และสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่จำนำทะเบียน ซึ่งทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างกัน คือ (1) สินเชื่อรถแลกเงิน แบบจำนำทะเบียน ที่ผู้กู้จะต้องโอนเล่มทะเบียนรถฉบับจริงให้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยในสมุดทะเบียนรถ จะถูกเปลี่ยนชื่อเพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อ และ (2) สินเชื่อรถแลกเงิน แบบไม่จำนำทะเบียน โดยผู้กู้ทำเพียงนำเล่มทะเบียนมาฝากไว้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยจะทำเป็นเอกสารโอนลอย เพื่อไว้ใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อเท่านั้น ซึ่งหากต้องการเงินด่วน เลือก "สินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม" ดีกว่าจริงหรือ? ไปหาคำตอบกันค่ะ
สินเชื่อรถแลกเงิน แบบไม่จำนำทะเบียน (ไม่โอนเล่ม) : ผู้กู้เพียงนำเล่มทะเบียนมาฝากไว้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยจะทำเป็นเอกสารโอนลอย เพื่อไว้ใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อเท่านั้น ชื่อบนสมุดทะเบียนรถยังเป็นชื่อของผู้กู้เหมือนเดิม ไม่มีการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถแต่อย่างใด เมื่อผู้กู้ผ่อนชำระสินเชื่อหมดก็สามารถรับเล่มทะเบียนรถคืนได้
ข้อดี-ข้อเสีย ของสินเชื่อรถแลกเงิน แบบไม่จำนำทะเบียน
ข้อดี
- ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ยังเป็นชื่อของเราเอง ไม่ต้องโอนไปโอนมาระหว่างผู้ให้บริการ และตัวเจ้าของ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องนำเล่มไปไว้ที่ผู้ให้บริการสินเชื่อ หรือสถาบันการเงินเก็บไว้เพื่อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
- ได้รับอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ถ้าหากเราต้องการปิดบัญชีก่อนกำหนด ผู้ให้บริการสินเชื่อก็จะคิดดอกเบี้ยสิ้นสุด ณ วันที่ปิดบัญชีเท่านั้น ไม่ต้องรวมกับดอกเบี้ยในปีที่เหลือ
- ไม่ต้องเสียค่าโอนรถ ค่าอากรโอนรถ ให้ยุ่งยากและสิ้นเปลือง
- ไม่ต้องแบกรับภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งแบบโอนเล่มนั้นจะนำ VAT 7%ไปรวมกับยอดผ่อนชำระด้วย
ข้อเสีย
- อัตราดอกเบี้ยอาจจะสูงกว่าแบบโอนเล่ม แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่า แต่ยอดผ่อนชำระรายเดือน จะไม่ถูกคิด VAT 7%
- วงเงินกู้ที่ได้รับอาจน้อยกว่าแบบโอนเล่มทะเบียน เนื่องจากหลักประกันแตกต่างกับการโอนเล่ม
สรุปแล้ว หากวัตถุประสงค์ของผู้ขอสินเชื่อ คือ ต้องการเงินด่วน การตัดสินใจเลือกสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่โอนเล่ม ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องเอกสารการโอนเล่มที่กรมขนส่งทางบก แต่ก็อาจจะได้วงเงินกู้ที่น้อยกว่า และเสียดอกเบี้ยมากกว่า การขอสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มสักหน่อยนะคะ และอาจจะต้องเสียดอกเบี้ยมากกว่า
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก www.tiscoautocash.com