สินเชื่อรถแลกเงิน เป็นอีกหนึ่งรูปแบบสินเชื่อที่ได้รับความนิยม เพียงแค่เป็นเจ้าของรถไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก หรือรถจักรยานยนต์ ก็สามารถใช้เล่มทะเบียนรถมาเป็นหลักประกันในการขอกู้เงินได้ และผู้กู้สามารถนำรถกลับไปใช้งานได้ตามปกติค่ะ สินเชื่อประเภทนี้จะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระที่ชัดเจน โดยสินเชื่อรถแลกเงินในปัจจุบันมีให้บริการ 2 รูปแบบ คือสินเชื่อรถแลกเงินแบบจำนำทะเบียน (โอนเล่ม) และสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่จำนำทะเบียน (ไม่โอนเล่ม) แต่ละแบบแตกต่างยังไงบ้าง ไปดูกัน!!
สินเชื่อรถแลกเงิน แบบจำนำทะเบียน (โอนเล่ม) :
ผู้กู้จะต้องใช้ทะเบียนรถของตนเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ และจะต้องโอนเล่มทะเบียนรถฉบับจริงให้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยในสมุดทะเบียนรถ จะถูกเปลี่ยนชื่อเพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อ โดยต้องดำเนินการกับสำนักงานขนส่งทางบก เมื่อผู้กู้ผ่อนชำระสินเชื่อหมดก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์รถคืนมาได้
สินเชื่อรถแลกเงิน แบบไม่จำนำทะเบียน (ไม่โอนเล่ม) :
ผู้กู้จะต้องใช้ทะเบียนรถของตนเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเช่นกัน แต่…จะเป็นเพียงการนำเล่มทะเบียนมาฝากไว้กับผู้ให้บริการสินเชื่อ โดยจะทำเป็นเอกสารโอนลอย เพื่อไว้ใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้สินเชื่อเท่านั้น ชื่อบนสมุดทะเบียนรถยังเป็นชื่อของผู้กู้เหมือนเดิม ไม่มีการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถแต่อย่างใด เมื่อผู้กู้ผ่อนชำระสินเชื่อหมดก็สามารถรับเล่มทะเบียนรถคืนได้
สรุปแล้ว หากต้องการวงเงินกู้ที่สูงกว่า แนะนำให้ขอสินเชื่อรถแลกเงินแบบโอนเล่มทะเบียนค่ะ เพราะการที่ผู้กู้ยินยอมที่จะโอนเล่มทะเบียนเป็นหลักประกัน ทำให้ธนาคารปล่อยวงเงินกู้ที่สูงให้กับผู้กู้ได้ เพราะมั่นใจในหลักประกัน
แต่...หากต้องการเงินกู้ด่วน วงเงินไม่ต้องสูงมาก แนะนำให้ของสินเชื่อรถแลกเงินแบบไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนค่ะ อาจจะเสียดอกเบี้ยมากกว่า แต่ก็ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการดำเนินการโอนเล่มที่กรมการขนส่งทางบก สามารถดำเนินการเรื่องขอสินเชื่อจบที่ธนาคารได้เลย
ทั้งนี้ หากสนใจสินเชื่อรถแลกเงิน ควรสอบถามข้อมูล และรายละเอียดกับผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกครั้งนะคะ