พาเช็ก…นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เงื่อนไขเป็นอย่างไร ใครได้บ้าง

กระแสที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกระเป๋าเงินดิจิตอล 10,000 จากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่หลังจากที่ได้รับการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คำถามเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ฮอตฮิตติดเป็นไวรัลทันที บ้างก็มีคำถามว่าจะได้จริงหรือไม่ ใช้เป็นเงินสดได้มั๊ย ได้เมื่อไหร่ ใครได้บ้าง และจะใช้อย่างไร วันนี้เราจะพามาเช็กเงื่อนไขนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทกันค่ะ 

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย นโยบายเรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยให้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยมีรายละเอียด ดังนี้

 

 

กระเป๋าเงินดิจิทัล คือ เหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain ที่มีความปลอดภัยสูงสุด เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร ไม่มีการถูกทุบ ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตก-ราคาขึ้น เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่าเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล

ซึ่งการใช้ระบบ Blockchain จะทำให้รู้เส้นทางการเงินทุกธุรกรรม รู้ผู้รับ รู้ผู้จ่าย เป็นระบบที่มีความโปร่งใสสูงสุด ตรวจสอบได้

 

 

คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยทำงานตามกฎหมาย จะได้ "กระเป๋าเงินดิจิทัล" (Digital  Wallet) และสำหรับประชาชนที่มีสวัสดิการอื่นๆ เช่น คนพิการ คนชรา ก็จะได้รับเต็มจำนวน ไม่หักส่วนลด
 
กระเป๋าเงินดิจิทัลใช้ได้ถึงเมื่อไหร่ 

 

กระเป๋าเงินดิจิทัลจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือน สำหรับจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุขโดยเฉพาะ ยาเสพติดและการพนัน และไม่สามารถซื้อของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้

 

 

เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชนและบริการที่ "อยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร" เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ส่วนในพื้นที่ห่างไกลจะมีการพิจารณาเป็นกรณีด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน และร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารในโครงการในภายหลัง

 

 

คาดว่าจะสามารถเริ่มโครงการเงินดิจิทัลภายในวันที่ 1 มกราคม 2567

---

นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลถือเป็นมาตรการเฉพาะหน้าเพื่อต่อยอดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จ่ายไปจะหมุนเวียนเข้ามาเป็นภาษีของรัฐบาลเพื่อเอา เงินไปสนุบสนุนประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ในระยะยาวเพื่อนำประเทศเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางของ FinTech

 

อย่างไรก็ตามในทุกๆ การใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นเงินประเภทไหน เราก็ควรใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควรมีการวางแผนการใช้จ่าย ใช้ในเรื่องที่จำเป็น และเหมาะสมด้วยนะคะ

สอบถามข้อมูลรู้เรื่องการเงินอื่นๆ เพิ่มเติม ทักมาพูดคุยกับ GURU ได้ที่นี่!! https://page.line.me/uht3147t