ใครๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งบ้านหรือคอนโดก็มีตัวเลือกเยอะแยะไปหมดเลยล่ะค่ะ ทั้งมือหนึ่ง และมือสอง วันนี้ขอพูดถึงข้อมูลสำหรับคนกำลังมองหาบ้านมือสอง เพราะจริงๆ แล้วบ้านมือสองค่อนข้างจะโดดเด่นในเรื่องทำเล บางโครงการอยู่กลางเมืองที่เดินทางสะดวกกว่าบ้านมือหนึ่งที่อยู่ชานเมืองเสียอีก แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยการซ่อมแซมครั้งใหญ่ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง... ลองไปดูกันค่ะว่าหากจะกู้ซื้อบ้านมือสอง ดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์ไหนดี รวมถึงวิธีเตรียมพร้อมก่อนซื้อบ้านหรือคอนโดมือสองแบบง่ายๆ กันค่ะ
เช็กข้อควรรู้ก่อนซื้อบ้านมือสอง
1. สินเชื่อบ้านมือสองไม่ได้วงเงินเต็ม 100%
ธนาคารส่วนใหญ่จะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 80 – 90% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน ต่างจากบ้านมือหนึ่งที่มีโอกาสได้เต็ม 100%
2. ไม่สามารถผ่อนดาวน์ได้
ต้องเตรียมเงินสดไว้ ประมาณ 5 – 20 % ของราคาซื้อขายบ้าน สำหรับวันที่นัดไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์
3. การซื้อบ้านมือสองมีขั้นตอนมากกว่าซื้อบ้านมือหนึ่ง
- ก่อนขอสินเชื่อ - ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเจรจาเพื่อตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายเอง
- หากบ้านติดจำนองกับธนาคาร- เจ้าของสินทรัพย์หรือผู้ขายจะต้องไถ่ถอนจำนองกับธนาคารที่ติดจำนองอยู่ก่อน
- การโอนกรรมสิทธิ์ - ผู้ซื้อ ผู้ขาย และธนาคารจะต้องทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ให้สำเร็จภายในวันเดียว รวมไปถึงเรื่องย้ายทะเบียนบ้าน, มิเตอร์น้ำ – ไฟ ให้เรียบร้อย การซื้อขายจึงจะถือว่าเสร็จสมบูรณ์
4. ต้องตกลงค่าใช้จ่ายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายให้ดี
- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (แบ่งกันชำระได้ตามตกลง)
- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% (ควรเป็นภาระของผู้ขาย)
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ควรเป็นภาระของผู้ขาย)
- ค่าจดจำนอง 1% (ควรเป็นภาระของผู้ซื้อ)
5. ควรเตรียมเงินค่าซ่อมแซมบ้าน
การซื้อบ้านมือสอง นอกจากค่าดาวน์ 5 – 20% ก็ควรเตรียมเงินสำรองสำหรับค่าซ่อมแซมบ้านไว้ด้วย เพราะบ้านที่ได้จะเป็นบ้านในสภาพที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว และสินเชื่อบ้านมือสองไม่รวมวัตถุประสงค์การซ่อมแซมและต่อเติม
เข้าใจข้อควรรู้ทั้งหมดของการซื้อบ้านมือสองกันแล้วใช่มั้ยคะ สิ่งสำคัญเลยก็คือต้องมีเงินสดไว้สักก้อน และต้องเจรจาพูดคุยกับเจ้าของเก่าให้เรียบร้อยนะคะ อีกเรื่องคืออย่าลืมเช็กข้อมูลสินเชื่อบ้านที่จะกู้ด้วย ว่าตอนนี้ดอกเบี้ยงพุ่งไปเท่าไหร่กันแล้ว เช็ก
อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านล่าสุดได้เลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูล : ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)