เดี๋ยวนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าการช้อปปิ้งนั้นง่ายเพียงแค่เอื้อมมือจริงๆ แค่มีอินเทอร์เน็ต หรือเปิดโทรศัพท์ ก็สามารถเอฟของได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงห้างแล้ว ยิ่งอยู่ในช่วงโปรโมชันประจำเดือน หรือช่วงลดราคาพิเศษของแอปพลิเคชันช้อปปิ้ง ก็ยิ่งเสียเงินง่ายขึ้น (แม้ตอนแรกจะไม่มีของที่อยากได้เลยก็ตาม รู้ตัวอีกทีก็เงินปลิวไปซะแล้ว) พอทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นอุปนิสัย ขอบอกเลยว่าจากเดิมที่เป็นแค่นักช้อป อาจกลายมาเป็นโรคเสพติดการช้อปปิ้ง หรือ "Shopaholic" ได้ค่ะ โดยในบทนี้เราจะมาทำความรู้จักโรคนี้กันค่ะ
โรค Shopaholic คืออะไร
Shopaholic เป็นชื่อโรคทางจิต ใช้เรียกบุคคลที่มีพฤติกรรมเสพติดการซื้อของมากเกินความจำเป็น บางรายอาจเป็นหนักถึงขั้นก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาทางด้านการเงิน ปัญหาความขัดแย้งกับคนในครอบครัว หรืออาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น พยายามหลบซ่อน หรือปกปิดราคาของที่ซื้อมา แม้โรคนี้จะเกิดขึ้นบ่อยในเพศหญิง แต่ในความเป็นจริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ เนื่องจากขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการช้อปของแต่ละคนค่ะ
สาเหตุของโรค Shopaholic
โรคเสพติดการช้อปปิ้งเกิดได้จากทั้งตัวบุคคลเอง และเกิดจากสิ่งกระตุ้นจากรอบตัว ซึ่งสาเหตุที่มาจากตัวบุคคลเองก็จะได้แก่ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล สมาธิสั้น ขาดความมั่นใจในตนเอง หรือเกิดความเครียด ทำให้ต้องซื้อของเพื่อเป็นการบรรเทาอารมณ์เชิงลบออกไป ส่วนสิ่งกระตุ้นรอบตัวที่ส่งผลอย่างชัดเจนคือสื่อโฆษณาที่ดึงดูดทำให้เราอยากซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ รวมถึงความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง อย่างการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์
แบบไหนถึงเข้าข่ายเป็นโรค Shopaholic
หากไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในสภาวะของการเป็นโรค Shopaholic หรือไม่ ผู้เขียนแนะนำให้ลองประเมินตัวเองจากพฤติกรรมที่ยกตัวอย่างโดยกรมสุขภาพจิต ดังนี้ค่ะ
- เสพติดการช้อปปิ้ง หยุดช้อปปิ้งไม่ได้ ช้อปปิ้งเป็นประจำทุกวัน หรือทุกสัปดาห์
- เมื่อเกิดความเครียด มักบรรเทาด้วยการซื้อของ
- ใช้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน หรือเปิดบัตรเครดิตใบใหม่ ทั้งที่ยังไม่ได้ชำระหนี้เก่า
- รู้สึกดี หรือรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ช้อปปิ้ง
- ซื้อแต่ของที่ไม่จำเป็น หรือไม่ได้ใช้
- โกหกหรือลักขโมยเพื่อให้ได้ช้อปปิ้งต่อ
- รู้สึกผิดหลังได้ช้อปปิ้ง แต่ไม่สามารถหยุดช้อปปิ้งได้
- ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารการใช้จ่ายของตนเอง หรือไม่สามารถใช้หนี้ที่เกิดจากการช้อปปิ้งได้
- ยับยั้งพฤติกรรมการช้อปปิ้งของตนเองไม่ได้
แก้นิสัย Shopaholic ได้ง่ายๆ ด้วยวิธีดังนี้
การแก้ไขพฤติกรรม Shopaholic อาจจะต้องลงลึกไปที่สาเหตุหลัก อย่างปัญหาทางจิตต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรคกังวลต่อการเข้าสังคม และโรคย้ำคิดย้ำทำ โดยผู้ที่มีปัญหานี้อาจจะต้องเข้ารับคำปรึกษาและรับการบำบัดจากจิตแพทย์โดยตรง ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนอยู่ในสภาวะที่รุนแรงมากแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่ได้รุนแรงมาก อาจจะเริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น คำนึงถึงความจำเป็นก่อนที่จะซื้อ วางแผนการใช้จ่ายอย่างจริงจัง ควบคุมอารมณ์และมีสติในการช้อปปิ้งแต่ละครั้ง รวมทั้งพยายามลดความถี่ในการช้อปปิ้งให้น้อยลง ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็คือความเข้าใจและกำลังใจจากคนรอบข้างค่ะ
จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ยอมรักษาโรค Shopaholic
หากเราปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอาการเสพติดการช้อปปิ้งไปนานๆ ผลที่ตามมาอาจไม่ได้แค่ส่งผลกระทบต่อตนเองเพียงอย่างเดียว อาจส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างด้วย อย่างเช่นการติดหนี้สินจนส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัว และที่หนักที่สุดคือการลักเล็กขโมยน้อยเพื่อตอบสนองความอยากได้ของตนเอง จนนำไปสู่การดำเนินคดีตามกฎหมายในที่สุด
ทางที่ดีหากไม่อยากให้การช้อปปิ้งกลายมาเป็นการเสพติดจนเกิดปัญหาตามมาทีหลัง ผู้เขียนก็ขอแนะนำให้หมั่นมีสติ และคิดก่อนช้อปทุกครั้งนะคะ ?