งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39" หรือ MOTOR EXPO 2022 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ได้เวลา…สัมผัสอนาคต It’s TIME…Come Touch the FUTURE" ถือเป็นงานมหกรรมยานยนต์ที่ใครๆ ก็หลั่งไหลพากันไปดู ภายในงานมีทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์รุ่นใหม่ๆ ที่แต่ละค่ายก็แข่งกันดุในเรื่องของ รูปลักษณ์ สมรรถนะ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ก้าวล้ำ และน่าสนใจ และหากใครที่กำลังคิดจะไปเลือกซื้อรถยนต์เพื่อใช้สักคัน ในงานอาจจะตัดสินใจได้ยากพอสมควรเลยค่ะ เพราะในงานจะมีรถมาโชว์ กันหลากหลายค่ายมากๆ
วันนี้ เราจะพามาพูดคุยกับ "GURU ช้าง (คุณสินธนุ จำปีศรี)" GURU ผู้รอบรู้ และมีความเจนจัดเรื่องรถยนต์รูปแบบต่างๆ จากเพจ Car GURU Thailand by CheckRaka.com ค่ะ โดย GURU ช้างจะมาแนะนำให้ว่า ถ้าจะหอบเงินแสนจะไปดาวน์รถเพื่อใช้ขับในเมืองสักคัน ในงาน Motor Expo 2022 ควรต้องเลือกรุ่นไหน และแต่ละรุ่นมีความคุ้มค่ายังไงนะคะ

คุณสมบัติสำคัญของรถที่ใช้ขับในเมือง
ก่อนอื่นเลยอยากให้ GURU ช้าง แนะนำคุณสมบัติ หรือสมรรถนะของรถยนต์ที่เหมาะสำหรับใช้ในเมือง ว่าควรเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
GURU ช้าง : รถยนต์ที่จะใช้ขับในเมือง กับเรื่องที่ควรคำนึงถึงคือ ความคล่องตัว จอดง่าย ขับง่าย ไม่ลำบาก ประหยัดน้ำมัน ดูแลรักษาง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่เพียงพอต่อการใช้งานครับ เช่น รถอีโค่คาร์ หรืออาจจะขยับเซกเมนต์เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยให้เหมาะสมกับงบประมาณ และที่สำคัญคือ ต้องสะดวกในการใช้งานทุกวันด้วยครับ
GURU ช้าง แนะนำ ถ้ามีงบ 100,000 บาท ควรดาวน์รถรุ่นไหนดี
สำหรับน้องๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานมาได้สักระยะ มีเงินเก็บยังไม่มากนัก แต่มีความจำเป็นต้องใช้รถ อยากให้ GURU ช้างแนะนำ รุ่นที่ราคาประหยัด หรือรุ่นที่จะเหมาะกับการใช้ในเมือง อัตราประหยัดน้ำมันคุ้มค่า หรือจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าถ้าเรามีงบเท่านี้ จะสามารถเอื้อมถึงมั๊ยคะ
GURU ช้าง : สำหรับการดาวน์จริงๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละแห่งว่ากำหนดขั้นต่ำเท่าไหร่ครับ เช่น 10 - 25% ถ้าใช้เงินดาวน์ 1 แสนบาท ก็ยังพอที่จะซื้อรถได้โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นตั้งตัวต้องการใช้รถในงบประหยัด ผมแนะนำ
คันต่อไปคือ
NETA V ราคา 549,000 บาท
ที่มาพร้อมระยะวิ่งสูงสุดถึง 300 กว่ากม. ต่อชาร์จ 1 ครั้ง นับว่าประหยัดคุ้มและบำรุงรักษาต่ำกว่ารถยนต์สันดาป
เลือก 1 รุ่น จาก 3 รุ่นที่แนะนำ รถคันไหนถูกใจ GURU ช้าง ที่สุด เพราะอะไร?
GURU ช้าง : สำหรับผมด้วยงบประมาณที่มี รวมถึงเรื่องของความเหมาะสมในการใช้งาน แล้ว ผมเลือก
"Toyota Yaris Ativ Premium" ราคา 659,000 บาท ครับ เพราะว่าเหมาะกับการใช้งานทั้งในเมือง และนอกเมือง กว้างขวางนั่งสบาย เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ประหยัดไม่จุกจิก ระบบความบันเทิง และความปลอดภัยแน่นเต็มคัน น่าจะเป็นรถที่ตอบสนองการใช้งานได้แบบครบถ้วนทั้ง คล่องตัว ประหยัด ดูแลง่าย และงบประมาณไม่สูงนัก

"Toyota Yaris Ativ Premium" ทั้งเท่ สวย ประหยัด กว้างขวางสะดวกสบายในคันเดียว
"Toyota Yaris Ativ Premium" คันนี้ออปชั่นจัดเต็มครบครัน ทั้งความบันเทิง และพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบายในราคาคุ้มค่า
เป็นเจ้าของรถยนต์ 1 คัน มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกบ้างที่ต้องเตรียม นอกเหนือจากเงินดาวน์
เมื่อการออกรถ 1 คัน ไม่ได้จบตรงที่แค่มีเงินดาวน์ อยากให้ GURU ช้าง แนะนำ ว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์ 1 คัน จะมีค่าใช้จ่ายอะไรที่ตามมาอีกบ้าง เผื่อน้องๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่ จะได้เตรียมตัววางแผนการเงินล่วงหน้าได้นะคะ
GURU ช้าง : หลังจากที่จ่ายเงินดาวน์ และค่าใช้จ่ายควบอื่นๆ เช่น ประกันป้ายแดง ฯลฯ แล้ว ควรเตรียมเงินสำรองในการใช้งานเอาไว้ด้วย เช่น ค่าน้ำมัน, ประกันภัยในปีถัดไป, ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง, ค่าเปลี่ยนชิ้นส่วนสิ้นเปลือง (ยาง/ผ้าเบรก) ซึ่งอาจจะไม่รวมอุปกรณ์ที่มีความต้องการเพิ่มเติมอีกอย่างเช่น กล้องติดรถยนต์ อุปกรณ์เสริม/ตกแต่งต่างๆ เป็นต้น
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้านั้นก็จะประหยัดค่าดูแลรักษาลงมาอีกเกินครึ่งเพราะไม่มีระบบเครื่องยนต์กลไลใดๆ มากนัก เหลือเพียงแค่ชิ้นส่วนสิ้นเปลืองนั่นคือ ยาง, ผ้าเบรก, ระบบของเหลวที่ใช้เกี่ยวกับชุดขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น จะเห็นว่าหลังจากรับรถมาแล้ว จะต้องเตรียมความพร้อมในการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ อีกมากมายครับ อย่าลืมวางแผนเอาไว้ในอนาคตด้วยนะครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับคำแนะนำของ GURU ช้าง น่าจะเป็นตัวช่วยให้คนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถได้ตัดสินใจง่ายขึ้นนะคะ แต่ยังไงก็ตาม จากที่ GURU ช้างแนะนำ จะเห็นได้ว่าการจะเป็นเจ้าของรถยนต์สัก 1 คัน ไม่ใช่แค่เรามีเงินดาวน์ก็จะจบนะคะ เพราะหลังจากวางเงินดาวน์ ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ แถม เรายังต้องรับภาระผ่อนไปอีกอย่างน้อย 48 หรือ 60 เดือน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ก็ควรวางแผนการเงิน และคิดคำนวณให้ดีก่อนนะคะ เพราะในชีวิตประจำวันของเรายังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าภาษีสังคม และค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจตามมาได้อีก และอย่าลืมว่าการจะดำเนินชีวิตแบบราบรื่นไม่ติดขัดเรื่องการเงิน ก็ไม่ควรมีหนี้ที่ต้องผ่อนชำระเกิน 40% ของรายได้นะคะ