เวลาจะซื้อประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต เคยสงสัยกันมั้ยว่าตารางกรมธรรม์มีความหมายอย่างไร อ่านอย่างไร ไม่เข้าใจคำศัพท์ที่ใช้ในกรมธรรม์ ซึ่งหากเราไม่รู้ความหมายเบื้องต้นเลย อาจจะทำให้เราเข้าใจเงื่อนไขของประกันผิดไป และทำให้เกิดความเข้าใจผิด หลายครั้งเรามักจะเจอเคสที่ว่า ทำประกันแล้วเคลมไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ผู้เอาประกันไม่เข้าใจเงื่อนไข หรือตัวแทนอาจจะอธิบายไม่ชัดเจน เช่น คำว่า "ความรับผิดส่วนแรก" ประกันสุขภาพมักชอบใช้แปลว่า ลูกค้าต้องจ่ายเงินค่ารักษาเองเป็นจำนวนเงินที่ระบุตกลงกันไว้ เงินส่วนที่เกินจากนี้ บริษัทประกันจะจ่ายให้ ... ซึ่งถ้าเราไม่ศึกษาให้ดี ว่าเงื่อนไขประกันเป็นอย่างไร สุดท้ายอาจจะมีปัญหาได้ตอนที่ต้องเคลมประกันค่ะ
วันนี้จะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ กันก่อนค่ะ ว่าเล่มกรรมธรม์ประกันชีวิต มีส่วนไหนที่เราต้องให้ความสำคัญบ้าง
ส่วนที่ 1 ส่วนสรุปข้อมูล
ส่วนนี้สำคัญ เป็นตัวสรุปทุกอย่าง ว่าเราทำประกันอะไร จะเป็นส่วนที่อยู่ในหน้าแรก เมื่อเปิดเอกสารกรมธรรม์ขึ้นมา ส่วนบนจะมีรายละเอียด เช่น ชื่อ-นามสกุล อายุขณะที่ทำประกันของผู้ทำประกัน ผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง เลขที่กรมธรรม์ แบบประกันภัยว่าทำแบบไหน วันที่ทำสัญญา และครบสัญญา ระยะเวลาเริ่มต้นความคุ้มครองและวันที่สิ้นสุด
จุดที่น่าสังเกตอีกจุดคือ จะมีการระบุว่ากรมธรรม์เล่มนี้ สามารถแจ้งยกเลิกได้ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ หรือวันที่เซ็นรับกรมธรรม์ ไม่ใช่นับจากวันที่กรมธรรม์ถูกพิมพ์ออกมา
ส่วนล่าง เป็นตารางผลประโยชน์และเบี้ยประกันภัย ระบุประเภทของการคุ้มครอง เช่น เป็นการคุ้มครองชีวิต มีสัญญาเพิ่มเติมเรื่องใดบ้าง จำนวนเงินเอาประกันภัยหรือผลประโยชน์ เบี้ยประกันภัย จำนวนปีที่ต้องชำระ
ส่วนที่ 2 ผลประโยชน์และความคุ้มครอง (แบบสรุปสาระสำคัญโดยย่อ)
จะมีการระบุผลประโยชน์ต่างๆ ให้เข้าใจอย่างง่าย เพื่อที่จะบอกว่า เราจะได้ความคุ้มครองที่เท่าไหร่ เช่น กรณีเสียชีวิต หรือกรณีมีชีวิต จะมีผลประโยชน์หรือเคลมอะไรได้บ้าง เงื่อนไขต่างๆ ที่บริษัทจะไม่รับคุ้มครอง เช่น กรณีไม่เปิดเผยความจริง หรือฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี เป็นต้น
ส่วนที่ 3 ตารางมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัย
มือใหม่หลายๆคนอาจจะสงสัยที่หน้านี้แหละ เพราะมีตัวเลขตาราง และต้องมีการคำนวน บางคนก็ไม่เข้าใจคำศัพท์ ว่าแปลว่าอะไร หมายถึงอะไร คำนวนอย่างไร
ข้อสังเกตแรกตรงหัวตาราง คือ การคำนวนจะเป็นตัวเลขต่อทุนประกัน 1,000 บาท
ถ้ากรมธรรม์มีทุนประกัน 100,000 บาท ซึ่งคิดเป็น 100 เท่าของ 1,000
แปลว่าตัวเลขแต่ละตัวในตารางให้คูณด้วย 100 นะคะ
เรามารู้จักคำศัพท์และการคำนวนที่ใช้กันในตารางดีกว่าค่ะ
การเวนคืนกรมธรรม์ คือ การที่ผู้เอาประกันภัยขอยกเลิกกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินตามมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ที่กำหนดอยู่ในตารางมูลค่ากรมธรรม์ โดยทั่วไปจะเริ่มมีมูลค่าเกิดขึ้นตั้งแต่สิ้นปีที่ 2 เป็นต้นไป หากขอเวนคืนแล้ว แปลว่า จะสิ้นสุดความคุ้มครองทุกอย่างทันที
ยกตัวอย่าง
หากทำทุนประกันชีวิตไว้ 1,000,000 บาท และต้องการเวนคืนกรมธรรม์ ณ สิ้นปีที่ 4 ซึ่งมีมูลค่าเวนคืนเงินสด 152 บาทต่อจำนวนเงินเอาประกันภัยทุก ๆ 1,000 บาท ดังนั้น มูลค่าเวนคืนเงินสดที่จะได้รับ คือ
1,000,000 / 1,000 = 1,000 เท่า
152 * 1,000 = 152,000 บาท
สาเหตุที่คนส่วนใหญ่เวนคืน อาจเป็นเพราะ
ไม่สามารถชำระเบี้ยประกันต่อได้
อยากได้เงินสดออกมาใช้
มูลค่าของประกัน อาจจะถึงจุดที่คุ้มทุนกับเบี้ยที่จ่ายไปแล้ว
ถ้าเราไม่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยต่อได้ แต่ยังต้องการได้รับความคุ้มครอง เราสามารถเลือกทำได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
เปลี่ยนเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ จะเป็นสถานะที่กรมธรรมยังมีความคุ้มครองชีวิตต่อไปจนครบกําหนดสัญญา แต่จํานวนเงินเอา ประกันภัยจะลดลง โดยที่ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องชำระเบี้ยประกันภัยอีกต่อไป ซึ่งจะให้ความคุ้มครองเฉพาะ สัญญาหลักเท่านั้น ส่วนสัญญาเพิ่มเติมอื่นๆ ที่มีอยู่จะสิ้นผลบังคับทันที โดยบริษัทจะนำมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ทั้งหมดที่มีอยู่ไปคำนวณเป็นเบี้ยประกันภัยชำระครั้งเดียว
ไม่ต้องส่งเบี้ยประกัน
แต่ลดความคุ้มครองลงตามตาราง
ระยะสัญญายังคุ้มครองเท่าเดิม
เมื่อครบสัญญา รับเงินคืนตามมูลค่าใช้เงินสำเร็จ (ในปีที่ทำ)
เช่น สมมติว่า ตัดสินใจไม่จ่ายเบี้ยต่อ ทำกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จในสิ้นปีที่ 5 |
เช่น สมมติว่า ตัดสินใจไม่จ่ายเบี้ยต่อ ทำกรมธรรม์แบบขยายเวลาในสิ้นปีที่ 5 |
ไม่ต้องส่งเบี้ยประกัน
ไม่ลดความคุ้มครอง
ระยะสัญญายังคุ้มครองจะขยายต่อไปตามราตาง
เมื่อครบสัญญา รับเงินคืนตามเงินครบกำหนด (ในปีที่ทำ)
3 ส่วนหลักนี้จะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยไกด์ในการอ่านกรมธรรม์ และเงื่อนไขต่างๆ ให้กับมือใหม่หัดซื้อประกัน หรือคนที่สนใจกำลังจะซื้อประกันได้อ่าน และทำความเข้าใจได้แบบง่ายๆ เพื่อเป็นพื้นฐานให้กับผู้ทำประกันทุกคนค่ะ ในเล่มกรมธรรม์จะมีส่วนรายละเอียดเงื่อนไขอื่นๆอีก มากมาย ซึ่งผู้ทำประกันควรศึกษา และอ่านเข้าใจ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเอง หรือถ้าสงสัยจุดใดให้ถามบริษัทหรือตัวแทนประกันที่นำเสนอแบบให้เราได้ เพื่อให้ไม่เกิดการเข้าใจผิดพลาดนะคะ
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้
ประเภทคุกกี้ อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ |
ยินยอม / ไม่ยินยอม |
---|---|
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ (Strictly Necessary) |
|
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ (Functionality) |
|
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์ (Performance & Analytics) |
|
คุกกี้เพื่อการตลาด (Marketing) |