มนุษย์เงินเดือนที่ไม่อยากเป็นหนี้ก้อนโต ควรจัดสรรเงินอย่างไร?

พูดถึงคำว่า "หนี้สิน" อาจดูเป็นคำที่น่ากลัว และมนุษย์เงินเดือนหลายๆ คนคงไม่อยากเป็น แต่จริงๆ แล้วคำว่า "หนี้สิน" ไม่ได้น่ากลัวเสมอไป หากเราเลือกใช้เงินอย่างถูกต้อง และเหมาะสม เพราะค่าใช้จ่ายบางอย่างเราอาจไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสด เช่น การซื้อรถ คอนโด บ้าน สำหรับใครที่มีเงินก้อนก็คงอยากจ่ายด้วยเงินสดเพราะทำให้ไม่ต้องเป็นภาระเรื่องดอกเบี้ย แต่ถ้าเงินก้อนนั้นทำให้เราต้องขาดสภาพคล่อง หรือหากนำไปต่อยอดลงทุนเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แบบนี้การจะปลอดภาระดอกเบี้ยก็คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีซะทีเดียว

 

แล้วมนุษย์เงินเดือนควรจัดสรรเงินอย่างไร เพื่อเลี่ยงการเป็นหนี้ก้อนโตและยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีบ้าง?

 

เพิ่มระยะเวลาการตัดสินใจ เมื่อซื้อของราคาสูง

ปัจจุบันโปรโมชันการผ่อนสินค้า 0% ผ่านบัตรเครดิตมีหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่ 3 เดือนไปจนถึง 48 เดือน ยิ่งระยะเวลาผ่อนยาวนาน ทำให้จำนวนเงินที่ต้องผ่อนลดลงไปเรื่อยๆ เช่น ถ้าเราสนใจซื้อ iPhone 13 Pro Max ที่มีราคาเริ่มต้น 42,900 บาท หากผ่อน 0% 10 เดือน จะต้องผ่อนเดือนละ 4,290 บาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าเรามีบัตรเครดิตที่ผ่อน 0% ได้สูงสุด 48 เดือน จะต้องผ่อนเดือนละประมาณ 894 บาท จากหลักพันกลางๆ เหลือเพียงหลักร้อย ทำให้เราตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นนี้ได้เร็วมากขึ้น

 

แต่อยากให้ระวังไว้สักนิด ว่าเราผ่อนเพียงหลักร้อยก็จริง แต่ถ้าเราผ่อนแบบนี้กับหลายๆ สินค้า จากหลักร้อยก็กลายเป็นหลักหลายพันได้เช่นกัน 

 

เงินในอนาคตที่ว่านี้ก็คือบัตรเครดิตนั่นเอง ต่อเนื่องจากข้อก่อนหน้า ที่นอกเหนือจากการผ่อนแล้ว เวลาเราใช้จ่ายทั่วไป มักจะใช้บัตรเครดิตรูดก่อน เพราะสะดวก ไม่ต้องพกเงินสด แต่หากเรารูดจนเกินกำลังจะเกิดปัญหาการเป็นหนี้บัตรเครดิตได้ เพราะเราจะเลือกจ่ายขั้นต่ำ ซึ่งเป็นการเสียดอกเบี้ย และดอกเบี้ยบัตรเครดิตถือเป็นดอกเบี้ยที่สูงมาก

 

ดังนั้นเมื่อเราใช้จ่ายอะไร ลองเปลี่ยนมาใช้เงินปัจจุบันด้วยการโอนเงินแทนการรูดบัตรเครดิต เพื่อป้องกันการเป็นหนี้ก้อนโตในอนาคต

 

 

หนึ่งในหนี้ก้อนโตที่เกิดขึ้นได้ คือ หนี้รถยนต์ หนี้บ้าน และหนี้คอนโด ใครๆ ก็อยากมีสินทรัพย์เป็นของตัวเอง แต่สินทรัพย์ที่ว่านี้ มีระยะเวลาการผ่อนที่ยาวนาน ตั้งแต่ 4 ปี ไปจนถึง 30 ปี ถ้ามีสินทรัพย์เป็นของตัวเอง แล้วเกิดปัญหาการเงินในอนาคตก็คงไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นการที่จะลดความเสี่ยงได้ คือ การลองซ้อมผ่อนก่อน เช่น เราตั้งใจว่าอยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat รุ่น 400 Tech จากบริษัท Great Wall Motor ที่ปัจจุบันได้ปรับราคาลงมาที่ 763,00 บาท เราสามารถดูตารางผ่อนได้จากอินเทอร์เน็ต

บทความนี้ขอยกตัวอย่างจากเว็บไซต์ https://car2day.com จะเห็นว่าหากเราดาวน์รถที่ 20% แล้วต้องการผ่อนรถ 60 เดือน จะต้องผ่อนรถอยู่ที่ประมาณเดือนละ 11,292 บาท ให้เรานำตัวเลขนี้มาซ้อมผ่อนที่ 12 เดือนหรือ 1 ปีเต็ม เพื่อดูว่าเราสามารถบริหารจัดการเงินได้ดีแค่ไหน หากทำได้ราบรื่นไม่มีปัญหา นอกจากจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราทำได้ ยังทำให้เราได้เก็บเงินดาวน์รถไปด้วยเหมือนกัน

• ลดรายจ่ายส่วนอื่นลง เพื่อให้ผ่อนรถได้คล่องตัวขึ้น
• ลดราคารถที่ต่ำกว่า 700,000 บาทลงมา ช่วยให้ภาระการผ่อนลดลง
• ยืดระยะเวลาการซื้อรถออกไป จากตั้งใจจะซื้อในอีก 1 ปีข้างหน้า ยืดระยะเวลาเป็น 1 ปีครึ่ง หรือ 2 ปีแทน