ส่งมอบมรดกให้ลูกหลานผ่านการทำประกันชีวิตได้หรือไม่

icon 23 พ.ค. 66 icon 4,667
ส่งมอบมรดกให้ลูกหลานผ่านการทำประกันชีวิตได้หรือไม่
หลังจากที่เราได้เริ่มวางแผนการเงินให้ตัวเองแล้วในช่วงวัยเริ่มต้นทำงาน พอถึงช่วงอายุที่เข้าสู่วัยกลางคน อายุประมาณ 45 ขึ้นไป คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ก็เริ่มคิดที่จะวางแผนมรดกกันจริงจังมากขึ้น เผื่อในกรณีที่เราต้องจากโลกนี้ไป คนที่เรารักจะต้องอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก
 
มีหลายวิธีมากมายในการที่เราจะส่งมอบมรดกให้ลูกหลาน หรือคนที่เรารักได้ ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน การลงทุนในหุ้น หรือกองทุนต่างๆ นะคะ แต่อีกวิธีที่ปลอดภัย และมีความคุ้มค่ามากๆ ที่หลายๆ คนอาจจะนึกไม่ถึง นั่นก็คือการทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต วันนี้ขอพาไปทำความเข้าใจ การส่งมอบมรดกผ่านการทำประกันชีวิต ผ่านในรูปแบบความคุ้มครองชีวิต กันค่ะ
 
 
ให้ลองนึกภาพแบบนี้นะคะ สมมติว่าเรามีตู้เซฟ 1 ใบ ซึ่งเราสะสมเงินเข้าไปเรื่อยๆ ทุกปี ปีละ 20,000 บาท จำนวน 20 ปี เป็นเงิน 400,000 บาท เมื่อเราจากไป ลูกหลานถึงจะมาเปิดเซฟใบนี้ เปิดมาพบว่าข้างในมีเงิน 1,000,000 บาท ซึ่งมูลค่าในตู้เซฟ ณ วันที่เจ้าของเสียชีวิต จะมีมากกว่าเงินที่สะสมเอาไว้ ในแง่ของการทำประกันชีวิต เงินในตู้เซฟ ก็คือ เงินทุนความคุ้มครองชีวิตนั่นเองค่ะ ซึ่งสามารถระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้ เพื่อรับเงินก้อนนี้ เป็นการทำมรดกผ่านประกันชีวิตนั่นเอง ที่สำคัญเงินก้อนนี้ปลอดภาษีอีกด้วยค่ะ
 
ยกตัวอย่างเบี้ยประกันชีวิต ผู้ชายอายุ 35 ปี
  • เลือกทำประกันชีวิต 1,000,000 บาท
  • ชำระเบี้ยประกันรายปี ประมาณ 22,300 บาท ต่อเนื่อง 20 ปี เป็นเงิน 446,000 บาท 
  • เมื่อเสียชีวิต (ปีไหน ตอนไหนก็ได้) จะมีเงินทุนประกัน 1,000,000 บาท ส่งมอบเป็นมรดก

ยกตัวอย่างเบี้ยประกันชีวิต ผู้ชายอายุ 45 ปี

  • เลือกทำประกันชีวิต 1,000,000 บาท
  • ชำระเบี้ยประกันรายปี ประมาณ 30,200 บาท ต่อเนื่อง 20 ปี เป็นเงิน 604,000 บาท 
  • เมื่อเสียชีวิต (ปีไหน ตอนไหนก็ได้) จะมีเงินทุนประกัน 1,000,000 บาท ส่งมอบเป็นมรดก
จากตัวอย่างพบว่า เบี้ยประกันของคนอายุ 35 กับ 45 ต่างกันอยู่ประมาณ 7,900 บาทต่อปี หากเริ่มทำประกันในตอนอายุน้อย เบี้ยก็จะถูกลงค่ะ
 
สรุปข้อดีของการวางแผนมรดกผ่านการทำประกันชีวิต
  1. กำหนดจำนวนเงินที่แน่นอนที่ต้องการส่งมอบให้แก่ทายาทได้
  2. จัดการเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล หรือผู้จัดการมรดก โดยทายาทหรือผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ สามารถรับเช็คจากบริษัทประกันได้ภายในเวลา 1-2 สัปดาห์
  3. ไม่ต้องเสียภาษีมรดก เนื่องจากทุนประกันไม่ได้จัดเป็นทรัพย์มรดกที่มีไว้ก่อนตาย ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีการรับมรดก
  4. สร้างหลักประกันด้วยเงินก้อนใหญ่โดยใช้เงินก้อนเล็ก วางแผนเพื่ออนาคตและครอบครัวที่รัก
  5. ผู้เอาประกันสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง วางแผนการเงิน ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ซื้อประกันชีวิต วางแผนมรดก
Money Guru
เขียนโดย คุณป้อ (ประกันเข้าใจง่าย) Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)