ไขข้อข้องใจ…ต้องชำระภาษีเพิ่ม! ขอผ่อนชำระได้หรือไม่? ชำระไม่ตรงตามกำหนด ชำระไม่ถูกต้องจะมีความรับผิดอย่างไร?

icon 21 มี.ค. 65 icon 10,373
ไขข้อข้องใจ…ต้องชำระภาษีเพิ่ม! ขอผ่อนชำระได้หรือไม่? ชำระไม่ตรงตามกำหนด ชำระไม่ถูกต้องจะมีความรับผิดอย่างไร?
ช่วงต้นปีถือเป็นเทศกาล "ยื่นภาษี" สำหรับบุคคลธรรมดาผู้มีเงินได้ ซึ่งปกติถ้าเป็นพนักงานเงินเดือน บริษัทจะหัก "ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย" จากเงินเดือนของเราไปทุกเดือนอยู่แล้ว โดย 
  • ถ้ายอดเงินที่หักไปเพียงพอกับภาษีที่เราจะต้องจ่ายประจำปีแล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่ม 
  • ถ้าหักไปมากกว่าภาษีประจำปีที่เราต้องจ่ายจริงเราก็จะได้รับเงินคืนภาษี
  • แต่สำหรับกรณีที่ยอดเงินที่หักไปไม่เพียงพอกับยอดภาษีประจำปีที่เราต้องจ่าย เราก็จำเป็นต้องชำระภาษีเพิ่ม
วันนี้...เราจะพามาไขปัญหาข้องใจสำหรับคนที่ต้องเสียภาษีเพิ่มว่า หากเราจำเป็นต้อง "ชำระภาษีเพิ่ม" เราจะสามารถชำระผ่านช่องทางไหนได้บ้าง และจะขอผ่อนชำระได้หรือไม่ รวมถึงหากเราไม่ชำระภาษีตามกำหนด หรือชำระไม่ถูกต้องเราจะต้องมีความรับผิดอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
 
ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
 
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนค่ะว่าใครบ้างที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา…สำหรับผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมาโดยมีสถานะ อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
  1. บุคคลธรรมดา
  2. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
  3. ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
  4. กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
  5. วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ซึ่งผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีภาษีจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ก็ต่อเมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าเมื่อคำนวณภาษีแล้วจะมีภาษีต้องชำระเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม ดังนี้

เกณฑ์เงินได้พึงประเมินขั้นต่ำที่ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี
  1. บุคคลธรรมดา และผู้ถึงแก่ความตาย มีเงินได้พึงประเมิน ดังนี้
     
    ประเภทเงินได้ โสด สมรส
    เงินเดือนเพียงอย่างเดียว 120,000 220,000
    เงินได้ประเภทอื่น 60,000 120,000
     
  2. ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิใช่นิติบุคคล หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล มีเงินได้พึงประเมินเกิน 60,000 บาท
  3. กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง มีเงินได้พึงประเมินเกิน 60,000 บาท
โดยการยื่นแบบเสียภาษี ปัจจุบันสามารถยื่นแบบ และชำระภาษีออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านระบบอีไฟล์ลิ่ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ "จ่ายภาษีผ่านบัตรเครดิต พร้อมขั้นตอนการยื่นแบบฯ ออนไลน์ ง่ายกว่าที่คิด"
 
ช่องทาง และรูปแบบการชำระภาษี
 
สำหรับช่องทางการชำระภาษี ปัจจุบันมีความสะดวกมากขึ้น โดยสามารถชำระผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร, เคาน์เตอร์ธนาคาร, ตู้ ATM, 7-Eleven, Internet Banking หรือสรรพากรท้องที่ เป็นต้น ซึ่งจะแยกเป็นการชำระภาษีใน 2 รูปแบบ ดังนี้
 
1. รูปแบบการชำระภาษีแบบเชื่อมต่อไปยังระบบชำระเงินของธนาคารโดยตรง
 
โดยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระภาษีจะถูกส่งจากกรมสรรพากรไปยังธนาคารโดยตรง เมื่อผู้เสียภาษียืนยันการทำรายการของระบบชำระเงินของธนาคารแล้ว ธนาคารจะแจ้งผลการทำรายการ เช่น ผลการโอนเงิน การยกเลิกการทำรายการ เป็นต้น ส่งให้กรมสรรพากรแบบทันทีทันใด (Real Time) คือ การชำระภาษีผ่าน E-Payment, Internet Credit Card, ATM Internet 
 
2. รูปแบบการชำระด้วยชุดชำระเงิน (Pay in Slip) หรือด้วย QR Code & Barcode
 
เมื่อผู้เสียภาษีทำการยื่นแบบฯ และทำการปริ๊นเอกสาร Pay in Slip ออกมา สามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้ ATM, Internet Banking, Tele Banking, Phone Banking, Mobile banking, Tax Smart Card หรือ Counter (ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการยื่นแบบ*, ไปรษณีย์, 7-Eleven, Tesco Lotus, TrueMoney, Big C)
 
ในการชำระภาษี เราสามารถเลือกรูปแบบการชำระ เพื่อไปชำระภาษีตามช่องทางที่เราสะดวก และเราสามารถเก็บเอกสารการชำระเงินไว้เป็นหลักฐานในการชำระภาษีเพิ่มเติมได้เลย เว้นแต่หากเราต้องการชำระภาษีด้วย "เช็ค" เราต้องไปชำระ ณ ธนาคาร/สาขา ผู้ออกเช็คเท่านั้นค่ะ
 
"ชำระภาษีเพิ่ม" สามารถขอผ่อนชำระได้หรือไม่?
 

ในกรณีที่มีภาษีที่ต้องชำระเพิ่มต้องมีจำนวนตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ทั้งภาษีครึ่งปี และภาษีสิ้นปี โดยผู้เสียภาษีมีสิทธิขอผ่อนชำระภาษีได้เป็น 3 งวดเท่า ๆ กัน โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มใดๆ
 
สำหรับกรณีการยื่นแบบชำระภาษีแบบกระดาษ ผู้เสียภาษีอาจติดต่อขอผ่อนชำระได้ที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาโดยใช้แบบ บ.ช. 35 (ดูรายละเอียดแบบฟอร์ม บ.ช. 35 ที่นี่) จำนวน 1 ชุด 3 แผ่น ข้อความเหมือนกัน ดังนี้
         
งวดที่ 1    ชำระพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภายในวันที่ 30 กันยายน หรือวันที่ 31 มีนาคม
         
งวดที่ 2    ชำระภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 1
         
งวดที่ 3   ชำระภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 2
 
สำหรับการยื่นแบบชำระภาษีออนไลน์ (ในปีภาษี 2564 กรมสรรพากรมีการขยายระยะเวลายื่นภาษีออกไปจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2565) และในการขอผ่อนชำระภาษีก็สามารถทำรายการผ่านระบบบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้เลยค่ะ ซึ่งยอดเงินภาษีที่จะสามารถทำการผ่อนชำระได้ คือต้องมียอดภาษีที่ต้องจ่ายตั้งแต่ 3,000 บาท โดยระหว่างการทำรายการยื่นแบบภาษี จะมีข้อความอัติโนมัติสอบถามว่า "ประสงค์จะผ่อนชำระภาษีหรือไม่?" หากต้องการผ่อนชำระก็เลือก "ประสงค์ผ่อนชำระภาษี" ได้เลย โดยกำหนดเวลาในการชำระจะเป็นดังนี้ 
 
งวดที่ 1    ชำระพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภายในวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นแบบภาษีออนไลน์ (สำหรับปีภาษี 2564 ยื่นออนไลน์ภายในวันที่ 8 เมษายน 2565)
         
งวดที่ 2    ชำระภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 1
         
งวดที่ 3   ชำระภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่ 2
 
*ถ้าภาษีงวดใดงวดหนึ่งมิได้ชำระภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้เสียภาษีหมดสิทธิที่จะชำระภาษีเป็น รายงวด และต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินภาษีงวดที่เหลือ
 
ถ้าไม่ชำระในกำหนดเวลาหรือชำระไม่ถูกต้องจะมีความรับผิดอย่างไรบ้าง?

สำหรับคนที่ไม่ชำระภาษีภายในกำหนดระยะเวลา หรือชำระไม่ถูกต้อง จะมีในส่วนของเบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม ซึ่งถือเป็นบทลงโทษเกี่ยวกับภาษีอากรอย่างหนึ่ง และอาจมีโทษทางอาญาด้วย แล้วแต่ความผิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรงขั้นไหน โดยหากบุคคลใดยื่นแบบฯ ภายในกำหนดแต่ชำระภาษีไม่ครบถ้วน หรือยื่นแบบฯ ล่าช้า ละเลย หรือหลีกเลี่ยงการยื่นแบบฯ จะต้องเสียเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามกฎหมายกำหนด และหากฝ่าฝืนไม่ยอมชำระ ก็ต้องรับโทษทางอาญาด้วย ซึ่งมีบทลงโทษ ดังนี้
 
 
  • กรณีไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลา จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระนับแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นรายการจนถึงวันชำระภาษี     
  • กรณีเจ้าพนักงานตรวจสอบออกหมายเรียก และปรากฏว่ามิได้ยื่นแบบแสดงรายการไว้หรือยื่นแบบแสดงรายการไว้แต่ชำระภาษีขาดหรือต่ำไป นอกจากจะต้องรับผิดชำระเงินเพิ่มแล้ว ยังจะต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีก 1 เท่าหรือ 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระแล้วแต่กรณี เงินเบี้ยปรับดังกล่าวอาจลดหรืองดได้ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี     
  • กรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90, 91 หรือ 94 ภายในกำหนดเวลา ต้องระวางโทษปรับทางอาญาไม่เกิน 2,000 บาท      
  • กรณีจงใจ แจ้งข้อความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จหรือฉ้อโกง เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
  • กรณีเจตนาละเลยไม่ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับระยะเวลาในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2564 สามารถยื่นแบบฯ ออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 8 เมษายน 2565 หรือหากใครต้องเสียภาษีเพิ่มเยอะๆ สามารถผ่อนชำระภาษีได้ตามรายละเอียดข้างต้นนะคะwink
 
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมสรรพากร
แท็กที่เกี่ยวข้อง ภาษี วางแผนการเงิน ผ่อนชำระภาษี ชำระภาษีเพิ่ม
Money Guru
เขียนโดย ชนานาถ จินตกสิกรรม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)