เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยได้ยินประโยคคลาสสิคในเรื่อง "พลังของดอกเบี้ยทบต้น" แต่ยังไม่เคยเห็นพลัง และประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งจริงๆ แล้วสิ่งนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนทั้งมือใหม่ และมือเก่าใช้เพิ่มพูนผลตอบแทนมาแล้วมากมาย
บทความนี้ขอพาไปรู้จักกับดอกเบี้ยทบต้น รวมถึงเคล็ดลับ และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากพลังของดอกเบี้ยทบต้นนะครับ
ทำความรู้จักกับดอกเบี้ยทบต้น
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับดอกเบี้ยทบต้นกันก่อน ดอกเบี้ยทบต้น คือ ผลตอบแทนที่เกิดจากการเอาดอกเบี้ยจากงวดก่อนหน้ามาบวกกับเงินต้นที่มีอยู่และออมเงินต่อ เงินออมจึงเพิ่มขึ้นทำให้ได้ดอกเบี้ยมากขึ้นในทุกงวด
พลังของดอกเบี้ยทบต้น
ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์พิเศษอยู่ที่ประมาณ 1.5% ต่อปี ซึ่งดูเหมือนน้อยนิด แต่ถ้านำดอกเบี้ยที่ได้ทุกงวดกลับเข้าไปออมต่อ เมื่อเวลาผ่านไปเงินออมในบัญชีจะแตกต่างจากแบบที่ไม่ได้นำดอกเบี้ยกลับมาออมอย่างแน่นอน
ยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ เงินฝากออมทรัพย์พิเศษดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน
นาย ก เริ่มต้นออมเงิน 100,000 บาท เดือนแรกจะได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 100,000 x (1+0.015/12) = 100,125 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 100,000 บาท และดอกเบี้ยจากเดือนแรก 125 บาท จากนั้นเอาเงิน 100,125 บาท ไว้ในบัญชีต่อ ทำให้เดือนที่ 2 เงินจะเติบโตเป็น 100,125 x (1+0.015/12) = 100,250 บาท และทำอย่างนี้ต่อไปจนครบ 1 ปีจะมีเงินในบัญชีทั้งหมด 101,510 บาท
ส่วนนาย ข เริ่มออมเงิน 100,000 บาท แต่ถอนดอกเบี้ยออกมาใช้ทุกเดือน เมื่อครบ 1 ปีรวมทั้งหมดแล้วจะได้เงินทั้งหมด 101,500 บาท (ซึ่ง 1,500 บาท ถูกนำไปใช้แล้ว)
ด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปี ที่เป็นระยะเวลาที่สั้นทำให้ผลลัพธ์อาจแตกต่างไม่มากเท่าไร แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่สร้างความแตกต่างได้และนำมาใช้ในกับการออมเงินแสนง่ายดาย
3 ปัจจัยที่ทำให้เพิ่มกำไรได้เร็ว
จำนวนเงินลงทุน
จากตัวอย่างเดิม ขอยกตัวอย่างที่มนุษย์เงินเดือนสามารถทำได้ง่ายๆ เช่น การออมเงินเพิ่มอีกเดือนละ 2,000 บาท พร้อมกับนำดอกเบี้ยที่ได้กลับไปออมเพิ่มด้วย เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี นาย ก จะได้เงินออมรวมทั้งหมด 125,676 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 100,000 บาท เงินที่ออมเพิ่ม 24,000 บาท และดอกเบี้ย 1,676 บาท ซึ่งดอกเบี้ยที่ได้จะมากกว่าวิธีออมเงินแบบทบต้น
ระยะเวลา
เวลาเป็นอีกเครื่องมือง่ายที่สุดที่ช่วยเพิ่มเงินออมในบัญชี เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี เงินออมของนาย ก ที่นำดอกเบี้ยกลับไปออมทุกเดือนจะเท่ากับ 116,173 บาท เรียกได้ว่าอยู่เฉยๆ เงินก็เพิ่มขึ้นมาอีก 16,173 บาท และวิธีการเพิ่มเวลาไม่มีทางลัดอื่นนอกจากการเริ่มออมเงินให้เร็วที่สุดตั้งแต่อายุยังน้อย
อัตราดอกเบี้ย
ถ้าหากโบนัสยังไม่ออกเลยไม่สามารถเพิ่มเงินออมได้ ส่วนระยะเวลาก็เร่งไม่ได้ จะต้องหาเงินออมที่ให้ดอกเบี้ยมากขึ้น หากเพิ่มดอกเบี้ยจาก 1.5% เป็น 1.6% ผ่านไป 1 ปี จะมีเงินออมทั้งหมด 101,612 บาท และถ้าผ่านไป 10 ปี จะมีเงินออม 117,339 บาท ซึ่งยิ่งหาผลตอบแทนได้มากเท่าไรก็ยิ่งเห็นความแตกต่างของเงินออมมากขึ้น
แต่ต้องยอมรับว่าในยุคดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ จะใช้วิธีการออมเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ได้เงินก้อนที่เพียงพอกับการใช้ชีวิตในอนาคตข้างหน้า เราเลยต้องเพิ่มผลตอบแทนด้วยการลงทุนในสินทรัพย์การเงินอื่นบ้าง
ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ด้วยสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง 3 ระดับ จากความเสี่ยงต่ำไปเสี่ยงสูง ประกอบด้วย เงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ย 2% กองทุนรวมผสมที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 4% และกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ลงทุนระยะยาว 10 ปี ด้วยเงินเริ่ม 100,000 บาท ทบต้นทุกปี
ผ่านไป 10 ปี มีเงินจากออมทรัพย์ทั้งหมด 121,899 บาท เงินลงทุนจากกองทุนรวมผสม 148,024 บาท และเงินลงทุนจากกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ 215,892 บาท
จะเห็นได้ว่าผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนรวมผสม และกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศมากกว่าเงินออมทรัพย์อย่างชัดเจน แต่อย่าลืมว่าต้องแลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ช่วยให้เพื่อนๆ ออมเงินให้ได้กำไรเร็ว คือ ต้องเริ่มออมให้เร็ว วางแผนการออมเงินเพิ่มในทุกๆ ปี และศึกษาเรื่องการลงทุน เพื่อเลือกสินทรัพย์การเงินที่ให้ผลตอบแทนมากขึ้นนั่นเอง