โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรสวัสดิการสังคมให้กับกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งในปี 2565 คณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเห็นชอบโครงการฯ และมีการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง โดยจะจัดให้มีการลงทะเบียนใหม่ (โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการสังคมของภาครัฐให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น โดยครั้งนี้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน และครอบครัวของผู้ลงทะเบียนใหม่ด้วย จะมีเกณฑ์อย่างไรบ้าง ติดตามไปพร้อมกันเลยค่ะ
เปิดเกณฑ์ใหม่ โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
สำหรับเกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีการเปลี่ยนแปลงจากเกณฑ์เดิมบางส่วน โดยเราขอสรุปให้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้นะคะ
เกณฑ์ใหม่สำหรับผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565
- ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ต้องไม่เป็น พระภิกษุ/สามเณร/นักพรต/นักบวช/ผู้ต้องขัง/ผู้ถูกกักกัน/ผู้ต้องกักขัง/บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์/ข้าราชการ/พนักงานธนาคาร/พนักงาน/ลูกจ้าง/เจ้าหน้าที่/ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ/ผู้รับบำเหน็จรายเดือน/ผู้รับบำนาญปกติ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ/ข้าราชการการเมือง/สส./สว.
- รายได้
กรณีบุคคล : ต้องมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
กรณีมีครอบครัว : รายได้เฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ
กรณีบุคคล : ทรัพย์สินทางการเงินต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
กรณีมีครอบครัว : ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยของครอบครัวของผู้ลงทะเบียนมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน
- ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ ดังนี้
วงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัย : รวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
วงเงินกู้สำหรับยานพาหนะ : รวมไม่เกิน 1 ล้านบาท
- ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่มีบัตรเครดิต ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
- ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว | กรณีผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว |
1. ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน) 1.1) กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว - บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และตึกแถว ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- ห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
1.2) กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร - ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
| 1. ที่อยู่อาศัยที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน) 1.1) กรณีอยู่อาศัยอย่างเดียว - กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดิน ที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของที่ดินที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ห้องแถว และตึกแถวร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
- กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดแยกจากกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสแต่ละคนต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
- กรณีผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสเป็นเจ้าของห้องชุดร่วมกัน ไม่ว่าจะมีบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรวมด้วยหรือไม่ก็ตาม ส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของผู้ลงทะเบียนและคู่สมรสรวมกันต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
1.2) กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร - ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรจะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
|
2. ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย - ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่
| 2. ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย - ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 2 ไร่
- ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 20 ไร่
|
*เมื่อผ่านการคัดกรองจากเกณฑ์ขั้นต้นทั้ง 8 ข้อ จะมีการใช้เกณฑ์การเดินทางออกต่างประเทศมาประกอบการพิจารณา
หมายเหตุ :
- ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หมายถึงผู้ลงทะเบียนอาจเคยมีรายได้ ทรัพย์สิน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ บัตรเครดิต หรือเงินกู้ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยการคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมจะกำหนดเกณฑ์ช่วงเวลาในการมีรายได้ บัตรเครดิต หรือเงินกู้ และการถือครองทรัพย์สิน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ อีกครั้ง
- จะมีการนำข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศมากำหนดเป็นเกณฑ์ โดยกำหนดเป็นเกณฑ์การพิจารณาในชั้นที่สอง ซึ่งหากผู้ลงทะเบียนมีข้อมูลในการเดินทางออกนอกประเทศบ่อยอาจหมายความว่ามีความสามารถในการใช้จ่ายได้
ระยะเวลาดำเนินการ และเปิดให้ลงทะเบียน /จำนวนสิทธิ์ที่เปิดรับลงทะเบียน
ระยะเวลาดำเนินการ : สำหรับช่วงเวลาการเริ่มลงทะเบียนคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณไตรมาส 3 ของปี 2565
โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มสวัสดิการใหม่ให้แก่ผู้ผ่านสิทธิช่วงปลายปี 2565 ซึ่งจะเป็นการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ อื่นๆ คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานราก และสังคมจะเป็นผู้กำหนด และประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป
จำนวนสิทธิ์ที่เปิดรับลงทะเบียน : การลงทะเบียนรอบใหม่มีกลุ่มเป้าหมายประมาณ 20 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการอัปเดต และคัดกรองข้อมูลกันมากขึ้น หากมีข้อมูลส่วนบุคคลเกินเกณฑ์ที่กำหนด คนที่เคยได้รับสิทธิก็อาจจะต้องออกจากระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไป ซึ่งก็จะส่งผลให้เหลือเฉพาะกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และประสบปัญหาจริงๆ ที่จะยังคงได้รับสวัสดิการตรงนี้นะคะ