วิถีการดำเนินชีวิตแบบ New Normal ที่เราต้องปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งโรคภัยไข้เจ็บ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่เรื่องอาหารการกิน ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ ที่จะมาช่วยรองรับความเสี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บที่อาจเกิดขึ้นกับเราได้ แต่...ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันสุขภาพสัก 1 กรมธรรม์ ลองคิดให้ดีสักนิดว่าเราได้อ่านเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ ครบถ้วน และเข้าใจทั้งหมดแล้วจริงๆ หรือยัง?
วันนี้ เราจะมารวบรวมเงื่อนไขต่างๆ ของประกันสุขภาพ ที่เราอาจจะอ่านข้ามๆ ไป หรืออาจจะเป็นเงื่อนไขตัวเล็กๆ ที่เราไม่ทันได้สังเกต มาให้เก็บไว้เป็นข้อมูลนะคะ
- ประกันสุขภาพ จะไม่คุ้มครองโรคที่เราเป็นมาอยู่ก่อนแล้ว หรือถ้าเป็นศัพท์ในทางประกันจะเรียกว่า "สภาพที่เป็นมาก่อน หรือ Pre-existing condition" หมายถึง หากเรามีโรคประจำตัว หรือโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว แม้จะไม่แสดงอาการตอนที่เราทำประกัน แต่บริษัทประกันจะมีการเช็คประวัติย้อนหลังของเราว่าเคยเข้ารับการรักษาด้วยโรคอะไรมาบ้าง จึงไม่สามารถหลบหลีกได้
- ประกันสุขภาพจะมีระยะเวลารอคอย (Waiting Period) ซึ่งจะเราจะไม่สามารถเบิก หรือเคลมประกันได้ทันทีหลังจากที่เราทำประกัน โดยปกติกรมธรรม์ประกันสุขภาพจะกำหนดระยะเวลารอคอยไว้ 30 วันสำหรับโรคทั่วไป และ 90 -120 วันสำหรับโรคร้ายแรง แล้วแต่ข้อกำหนดของบริษัทประกันนั้นๆ เพื่อป้องกันในกรณีที่ผู้เอาประกันรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรค แต่ไม่ยอมเข้ารับการรักษา และหวังที่จะมาซื้อประกันเพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาล ซึ่งก็ถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งของบริษัทประกันค่ะ
- ประกันสุขภาพ ต้องแถลงข้อมูลตามความจริง แม้จะไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพราะหากเราปกปิดข้อมูล แล้วบริษัทประกันทราบในภายหลัง บริษัทประกันมีสิทธิ์ที่จะไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล หรืออาจยกเลิกสัญญากรมธรรม์ได้
- ประกันสุขภาพ ไม่คุ้มครองการรักษาที่ไม่ใช่การรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบัน เช่น การรักษาเกี่ยวกับความสวยความงาม ศัลยกรรม การรักษาเพื่อการมีบุตร การฝังเข็ม กดจุดต่างๆ ไม่สามารถเบิกค่ารักษาจากประกันสุขภาพได้
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเราจะเลือกซื้อประกันสุขภาพในรูปแบบไหน เราควรอ่านเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์ให้เข้าใจ ว่ากรมธรรม์นั้นๆ ให้ความคุ้มครองอะไร มีข้อยกเว้นอะไร หรือมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาเวลาที่เราเกิดความจำเป็นต้องเคลมประกันนะคะ