ไปเที่ยวญี่ปุ่น : "บัตรเครดิต JCB" เปรียบเทียบบัตรต่อบัตร.. บัตรไหนคุ้มสุดถ้าใช้ที่ญี่ปุ่น

icon 9 เม.ย. 62 icon 25,411
ไปเที่ยวญี่ปุ่น : "บัตรเครดิต JCB" เปรียบเทียบบัตรต่อบัตร.. บัตรไหนคุ้มสุดถ้าใช้ที่ญี่ปุ่น

ไปเที่ยวญี่ปุ่น : "บัตรเครดิต JCB" เปรียบเทียบบัตรต่อบัตร.. บัตรไหนคุ้มสุดถ้าใช้ที่ญี่ปุ่น

ใกล้วันหยุดยาวเข้าไปทุกที หลายๆ ท่านคงเริ่มวางแผนเพื่อไปท่องเที่ยวกันแล้วนะคะ สำหรับใครที่วางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ วันนี้เรามีความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ และการซื้อของออนไลน์ในสกุลเงินตราต่างประเทศมาฝากกันค่ะ
อัตราแลกเปลี่ยนบัตรเครดิตแต่ละค่ายไม่เท่ากัน
ทราบกันหรือไม่ว่าเวลาที่เราใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศหรือใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์นั้น อัตราแลกเปลี่ยนที่จะนำมาใช้คำนวณกลับมาเป็นสกุลเงินบาทของเรานั้นจะใช้อัตราอ้างอิงจากที่ไหน?
คำตอบก็คือ อัตราแลกเปลี่ยนที่จะใช้อ้างอิงขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่ละเจ้านั่นเอง ทั้งนี้ เราไม่สามารถใช้อัตราแลกเปลี่ยนของ Super Rich หรืออัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตมาใช้ในการคำนวณค่ะ โดยผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่ละเจ้าหลักๆ ในประเทศไทย ก็จะมีอยู่ด้วยกัน 4 เจ้า คือ VISA, MasterCard, JCB และ UnionPay ค่ะ
ประโยชน์ที่เราจะได้รับแน่ๆ จากการทราบอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่ละเจ้าที่แตกต่างกันก็คือ จะทำให้สามารถคำนวณค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องชำระเมื่อมีการเรียกเก็บ และที่สำคัญเราจะได้ทราบว่าควรใช้บัตรใบไหนในการใช้จ่าย เพราะค่าอัตราแลกเปลี่ยนถูกที่สุดด้วยนะคะ
เอาล่ะค่ะ แล้วทีนี้เราจะสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่ละเจ้าได้อย่างไร? คำตอบก็คือ.. เราสามารถตรวจสอบได้ผ่านทางหน้า website ของผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่ละเจ้าตาม Link ด้านล่างนี้ค่ะ
Tips : วิธีตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ให้บริการบัตรเครดิตแต่ละเจ้าด้านบนมันยุ่งยากใช่มั้ยคะ? เรามีวิธีที่ดีและสะดวกกว่านั้นค่ะ!! นั่นก็คือ การตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนผ่าน Credit Card Exchange Rate Application



สามารถดาวน์โหลดได้แล้ว ทั้งระบบปฏิบัติการ
โดย Application นี้จะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนของผู้ให้บริการบัตรเครดิตเจ้าต่างๆ ได้พร้อมๆ กัน ซึ่งจะทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้นว่า เราควรใช้บัตรเครดิตของผู้ให้บริการเจ้าไหนในการใช้จ่ายนะคะ
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ!! นอกจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำความคุ้มเคยกันไว้ให้ดี คือ "ค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน" โดยเจ้าค่าความเสี่ยงนี้จะถูกเรียกเก็บโดยธนาคารที่ออกบัตรเครดิตให้กับเรา ซึ่งแต่ละธนาคารจะเรียกเก็บในอัตราที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็จะอยู่ในอัตรา 2 - 2.5% โดยขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารจะเป็นผู้กำหนดเอง

JCB บัตรเครดิตที่น่าใช้ที่สุด ถ้าเราไปเที่ยวญี่ปุ่น

ส่วนวันนี้เรามีบัตรเครดิตที่ขอแนะนำเป็นพิเศษสำหรับทุกท่านที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศยอดนิยมในขณะนี้อย่างประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ โดยบัตรเครดิตดังกล่าวก็คือ บัตรเครดิต JCB ซึ่ง JCB คือผู้ให้บริการบัตรเครดิตจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น ก็จะต้องมีสิทธิพิเศษดีๆ ในประเทศญี่ปุ่นจากบัตรเครดิต JCB มาให้แน่นอนค่ะ
อย่างแรกเลยก็คือ สิทธิพิเศษมากมายกว่า 1,000 ร้านค้าทั่วญี่ปุ่น โดยสามารถค้นหาร้านค้าง่ายๆ ได้ทาง JCB Japan Guide Application และ Application นี้ ยังมีข้อมูลการท่องเที่ยว และข้อมูลที่มีประโยชน์อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นไว้ให้ด้วย สามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้งระบบปฏิบัติการ

มาต่อกันที่สิทธิพิเศษในการใช้ห้องพักรับรองที่สนามบิน หรือ Airport Lounge ที่สนามบินทั้ง 28 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ หรือถ้าใครต้องต่อเครื่องมาญี่ปุ่น โดยต้องแวะพักที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลี และเซี่ยงไฮ้ (เฉพาะสนามบินซางไห่ผู่ตง) (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2562) โดยระยะเวลาในการให้บริการของห้องรับรองแต่ละแห่งอาจจะแตกต่างกันไปนะคะ นอกจากนี้ยังมีบริการนัดพบที่สนามบินเมื่อเราไปถึงสนามบินที่ญี่ปุ่น โดยจะมีพนักงานมาคอยช่วยเหลือตามจุดที่นัดหมายไว้ (บริการนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ)
เปรียบเทียบ JCB ค่ายไหน.. คุ้มสุด ถ้าใช้ที่ญี่ปุ่น?
สำหรับประเทศไทย มีธนาคารที่ออกบัตร JCB ด้วยกันทั้งหมด 4 ธนาคาร คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ 1 ผู้ให้บริการ คือ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ จำกัด (มหาชน) โดยเราได้รวบรวมเงื่อนไขและสิทธิพิเศษต่างๆ มาไว้ให้แล้วตามตารางด้านล่างเลยค่ะ
หัวข้อ SCB Krungsri KTC KBANK AEON
หน้าบัตรเครดิต

 

ค่าธรรมเนียมรายปี ฟรี ฟรี   ฟรี 3,500 บาท (ฟรี เมื่อใช้บัตรครบ 12 ครั้งต่อปี)  500 บาท (ฟรีตลอดอายุบัตร เมื่อสมัครบัตรออนไลน์)
ค่าอัตราความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 2.5%  2.5% 2%   2.5% 2.5% 
เครดิตเงินคืนเมื่อใช้จ่ายที่ต่างประเทศ 3% ตั้งแต่บาทแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน (จำกัด 2,000 บาท ต่อรอบบัญชี) 1% สำหรับรายการใช้จ่ายครบทุก 4,000 บาท/เซลล์สลิป ที่ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์ (จำกัด 80 บาทต่อรอบบัญชี)
  1. รับเครดิตเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่าย
  2. รับเครดิตเงินคืน 1.5% เมื่อใช้จ่ายรวม 1,500,000 บาทขึ้นไป (ไม่จำกัดยอดใช้จ่าย และรวมยอดค่าใช้จ่ายออนไลน์สกุลเงินต่างประเทศ ต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์กับ KTC)
ไม่มี 2% ตั้งแต่บาทแรกที่ประเทศญี่ปุ่น (จำกัด 1,500 บาท ต่อรอบบัญชี)
คะแนนสะสม 25 บาท = 1 คะแนน 20 บาท = 1 คะแนน 25 บาท = 1 คะแนน
(X2 ที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่จำกัดยอด ยกเว้นรับเงินคืนจะไม่ได้รับคะแนน) 
25 บาท = 1 คะแนน
(X2 ที่ประเทศญี่ปุ่น จำกัด 2,000 คะแนน ต่อรอบบัญชี)
20 บาท = 1 คะแนน 
สิทธิพิเศษอื่นๆ ที่น่าสนใจ รับส่วนลดค่าบริการ Grab 100 บาท
  • รับเครดิตเงินคืน 3% เมื่อมียอดใช้จ่ายครบทุก 800 บาท/ เซลล์สลิป ณ ร้านอาหารทั่วโลก
  • รับส่วนลด 10% ณ 4 ร้านอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม CHABUTON, OOTOYA, SABOTEN และ YOSHINOYA
  • รับเครดิตเงินคืน 1% เมื่อชำระค่าน้ำมันครบทุกๆ 800 บาท/ เซลล์สลิป ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
- ส่วนลด 0.15 บาท สำหรับทุก 100 เยน เมื่อแลกเงินเยนที่สาขาธนาคารกสิกรไทย ผ่านบัตรเครดิตเจซีบีกสิกรไทย
- ยกเว้นสาขาสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง
- จำกัดการแลก 50,000 บาท/ ครั้ง/ ท่าน
- สำหรับการแลกเงิน JPY (Selling Rate)
  • รับส่วนลดและเงินคืนสูงสุด 18% ที่ห้าง AEON โซนห้างสรรพสินค้าประเทศญี่ปุ่น โดยรับส่วนลด 5% จากแฮปปี้คูปอง, 8% เงินคืนภาษี และ 5% เครดิตเงินคืน
  • รับส่วนลด 1,500 บาท กับ เจทีบี (JTB) สำหรับยอดซื้อสินค้า/ บริการ มูลค่า 60,000 บาท จากเจทีบี
คุณสมบัติผู้สมัคร
  • อายุ 20 ปีขึ้นไป - 70 ปีบริบูรณ์
  • รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไป ต่อเดือน
  • อายุ 20 - 65 ปีบริบูรณ์
  • มีหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานที่บ้านและที่ทำงานที่สามารถติดต่อได้
  • รายได้รวมเฉลี่ย 15,000 บาทต่อเดือน
  • อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • รายได้ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
  • มีอายุระหว่าง 20 - 80 ปีบริบูรณ์ สำหรับผู้สมัครบัตรหลัก และ 15 - 80 ปีบริบูรณ์ สำหรับผู้สมัครบัตรเสริม
  • มีรายได้ประจำตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน สำหรับบัตรแพลทินัม และรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน สำหรับบัตรคลาสสิก
  • กรณีเป็นผู้มีรายได้ประจำ ต้องมีอายุงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
  • อายุ 20 - 75 ปีบริบูรณ์
  • มีรายได้ (ฐานเงินเดือน) 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
  • อายุการทำงาน 4 เดือนขึ้นไป
  • มีหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ทั้งที่บ้าน, ที่ทำงาน และมือถือ
  • มีที่อยู่ปัจจุบันหรือที่ทำงานอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการของอิออนฯ
ข้อมูลแน่นปึ้กขนาดนี้แล้ว ไปเที่ยวญี่ปุ่นรอบหน้าก็อย่าลืมหาบัตรเครดิต JCB จากธนาคารต่างๆ มาพกไปเที่ยวสักใบนะคะ จะได้ใช้สิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต JCB กันได้อย่างคุ้มสุดๆ ไปเลยค่ะ เดี๋ยวคราวหน้าเราจะมาแนะนำบัตรเครดิตดีๆ พร้อมโปรโมชั่นคุ้มๆ อะไรอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ
แท็กที่เกี่ยวข้อง บัตรเครดิต credit card สมัครบัตรเครดิต บัตรเครดิตเจซีบี jcb credit card
Money Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)