ยุทธวิธีจัดการหนี้บัตรเครดิตให้อยู่หมัด
บัตรเครดิตช่วยสร้างความสะดวกสบายในการใช้จ่าย แต่ในขณะเดียวกัน บัตรเครดิตก็สามารถทำให้คนเราเป็นหนี้ได้ง่ายขึ้น เพราะเวลาที่ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้า เรายังไม่ได้จ่ายเงินออกไปในทันที และโดยส่วนใหญ่เรามักได้รับอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตประมาณ 3 - 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน หลายคนจึงใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่มีอยู่ ส่งผลให้เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระ จากเดิมเคยชำระแบบเต็มวงเงิน กลายเป็นชำระขั้นต่ำหรือชำระเพียงบางส่วน จนถึงขั้นไม่สามารถชำระหนี้ได้
ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมา เช่น ดอกเบี้ยค้างชำระ ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ ค่าปรับจากการผิดเงื่อนไขการชำระ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีผลเสียจากความเครียดที่เพิ่มขึ้น และสุขภาพจิตที่เสียไปเมื่อขาดเงินชำระหนี้ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเป็นหนี้บัตรเครดิต แต่หากเป็นหนี้แล้วจะทำอย่างไร มี 3 ขั้นตอนที่นำมาฝาก ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ใจแข็ง ไม่ก่อหนี้เพิ่ม เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด โดยใช้จ่ายเฉพาะสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร ยารักษาโรค ค่าเดินทาง มาทำงาน เสื้อผ้าตามความจำเป็น ฯลฯ มีข้อคิดดีๆ สำหรับการประหยัดเงินเพื่อมาชำระหนี้เพิ่ม คือ "ถึงแม้ว่าจะถูกแค่ไหน ถ้าไม่ใช้ ก็ไม่ซื้อ"
ขั้นตอนที่ 2 : ชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงๆ ก่อน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนลง หรือเลือกปิดบัตรที่มียอดหนี้คงเหลือต่ำๆ ก่อนเพื่อลดจำนวนเจ้าหนี้ที่มีลง ซึ่งช่วยสร้างขวัญและกำลังใจในการปลดหนี้ ทั้งนี้ ควรมีการบันทึกบัญชี รับ-จ่าย อย่างสม่ำเสมอควบคู่กันไป เพื่อควบคุมการใช้จ่ายให้ซื้อแต่สิ่งของที่จำเป็น และเมื่อมีเงินเหลือจะได้รีบนำเงินมาปิดหนี้บัตรเพิ่มขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 : เพิ่มรายได้ หากมีเวลาว่างจากการทำงาน ลองมองหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ เช่น สมัครทำงาน Part Time ขายของตามตลาดนัด หรืออินเทอร์เนต เป็นต้น นอกจากนี้ การขายสินทรัพย์เพื่อนำมาชำระหนี้ โดยเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ หรือไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ของสะสมที่สามารถตีมูลค่าได้ เป็นต้น หากขายและนำมาชำระหนี้ จะช่วยให้ลดภาระหนี้ และดอกเบี้ยจ่ายลง ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ