รีวิว vivo X60 Pro 5G สมาร์ตโฟนกล้อง ZEISS ระบบกันสั่นขั้นเทพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ Gimbal Stabilization 2.0 ในราคาเปิดตัว 24,999 บาท

vivo X60 Pro 5G สมาร์ตโฟนระดับสูงรุ่นใหม่ล่าสุดของวีโว่ เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ vivo พัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์คุณภาพสูงระดับโลกจากเยอรมัน (vivo X ZEISS Co-Engineered Imaging System) สมกับสโลแกน "Photography Redefined" (นิยามใหม่ของการถ่ายภาพ) เป็นสมาร์ตโฟนที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจ ตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายในเลยครับ มาพร้อมดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยม สำหรับสีที่ได้รับมาทดสอบจะเป็นสี Shimmer Blue ที่ให้ความรู้สึกเหมือนท้องฟ้าที่ใสกระจ่าง และมีสายรุ้งพาดผ่านในวันดีๆ ที่สดใส โดยแสงเงาและสีสันจะเปลี่ยนไปตามเวลาที่เราเอียงเครื่องไปมา และตัวเครื่องสเปคสูงขนาดนี้ แต่บางเฉียบเพียงแค่ 7.6 มม. และมีน้ำหนักเบาเพียง 179 กรัม เท่านั้นเอง

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมวัสดุคุณภาพสูงโลหะอลูมิเนียม และกระจก รวมไปถึงสเปคต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Ultra O Screen ชนิดจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับมาตรฐาน HDR10+, Refresh Rate 120Hz และเลือกใช้กระจกคุณภาพสูง Corning Gorilla Glass 6 ทำงานบน Android 11 และมาพร้อมชิปเซ็ตตัวแรง Qualcomm Snapdragon 870 5G กล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP และกล้องหลัง 3 เลนส์ มาตรฐานระดับเลนส์ ZEISS ความละเอียดสูงสุด 48MP ที่มาพร้อมระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 รองรับกันสั่นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Midnight Black และ Shimmer Blue ราคาเปิดตัวในประเทศไทย 24,999 บาท

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้า Ultra O Screen ความละเอียด 32MP F2.5, 26 มม. (wide) และล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด

• 48MP F1.5 (wide), PDAF, Gimbal Stabilization 2.0, VIS 5-Axis Video Stabilization (เลนส์ Zeiss Optics)
• 13MP F2.5, 50 มม. (telephoto), PDAF, 2x optical zoom
• 13MP F2.2, 120 องศา, 16 มม. (ultrawide)
• บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS รองรับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0, VIS 5-Axis Video Stabilization

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมฟีเจอร์กล้องที่น่าสนใจมากมาย อาทิ Gimbal Stabilization 2.0 ระบบกันสั่นที่รองรับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ, Portrait Mode ที่มีตัวเลือกพิเศษมากมาย, Extreme Night Vision 2.0 ฟีเจอร์ถ่ายภาพกลางคืนที่ชาญฉลาดยิ่งกว่าเดิม รองรับการถ่ายกลางคืนทุกระยะเลนส์ และรองรับ Panorama Night อีกด้วย, Pro Sport Mode ช่วยจับภาพเคลื่อนไหวให้คมชัดไม่มีหลุดเบลอ, Astro Mode ถ่ายภาพท้องฟ้ายามค่ำคืนได้ง่ายยิ่งขึ้น, Super Moon ช่วยในการถ่ายภาพดวงจันทร์, Cinematic Master ถ่ายวิดีโอในอัตราส่วนเดียวกับภาพยนต์ และ Long-Exposure mode ช่วยในการถ่ายภาพแสงไฟ ซึ่งรองรับลูกเล่นที่หลากหลายมากๆ แถมยังถ่ายได้ง่ายดายอีกด้วย

ระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 เข้าไปเปิดใช้ในส่วนของเมนูการตั้งค่ากล้อง และปรับเทียบก่อนการใช้งาน

สำหรับคุณภาพกล้องของ vivo X60 Pro 5G ทำออกมาได้น่าประทับใจครับ สมกับที่พัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS ไม่ได้เพียงแค่เอาชื่อมาใช้เฉยๆ ภาพใสมาก สีสันเที่ยงตรงสดใส สกินโทนสีผิวคนสวย โดยเฉพาะภาพ Portrait ถ่ายออกมาได้สวยมีมิติ การละลายฉากหลังสวยงาม สามารถปรับแต่งจุดโฟกัสและลด-เพิ่มค่า F-Stop ได้ภายหลัง และชอบมากๆ คือ Panorama Night ถ่ายได้ง่ายและสวยมากๆ รู้สึกว้าวมากๆ เลย และที่ไม่ชมไม่ได้เลยก็คือระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 ที่มาพร้อมกันสั่น 5 แกน VIS 5-Axis Video Stabilization กันสั่นได้ยอดเยี่ยมมากครับ รองรับทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ นอกจากนี้ยังมี ฟีเจอร์ Eye Autofocus มาให้อีกด้วย

ฟีเจอร์ Eye Autofocus สามารถเลือก Effect ได้ถึง 4 แบบ สามารถเลือกจับเฉพาะตาซ้าย หรือตาขวา หรือโฟกัสที่ร่างกาย

และในส่วนของ Long-Exposure mode ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย ถ่ายสนุกมาก เสียดายผมถ่ายในกรุงเทพทำให้ถ่ายฟีเจอร์ Astro Mode ออกมาได้ไม่สุดครับ ฟ้าไม่เป็นใจ แถมช่วงนี้ดวงจันทร์ไม่โผล่เลย อยากลองถ่าย Super Moon มากๆ เลยครับ เรามาดูผลงานจากกล้องของ vivo X60 Pro 5G X ZEISS รุ่นนี้กันได้เลย

ถ่าย Selfie ปกติ

Selfie ด้วยฟีเจอร์ Portrait ละลายฉากหลัง รวมทั้งปรับแต่งใบหน้า โทนสีผิว ได้อย่างสวยงาม และเป็นธรรมชาติ

Selfie แสงธรรมชาติ

Selfie ไฟสตูดิโอ

Selfie ไฟสเตอริโอ

Selfie ลูปไลท์

Selfie แสงรุ้ง

Selfie ภาพพื้นหลังขาว-ดำ

นอกจากการถ่าย Selfie แบบ Live Portrait แล้วยังมี Filter และ Style ให้เลือกใช้ด้วยนะครับ ถ่ายออกมาสวยไม่แพ้กัน

ถ่าย Selfie ตอนกลางคืน ในบริเวณแสงน้อย ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม

ภาพถ่ายปกติ

ภาพถ่ายด้วยฟีเจอร์ Portrait

Live Portrait แสงธรรมชาติ

Live Portrait ไฟสตูดิโอ

Live Portrait ไฟสเตอริโอ

Live Portrait ลูปไลท์

Live Portrait แสงรุ้ง

Live Portrait ภาพพื้นหลังขาว-ดำ

Pro Sport Mode ช่วยจับภาพเคลื่อนไหวให้คมชัดไม่มีหลุดเบลอ แม้ว่านางแบบกำลังเดินอยู่

Ultrawide

1X

2X

1x

2x

1x

2x

1x

2x

กล้องคุณภาพดีสมกับที่ติดโลโก้ ZEISS จะเห็นว่าภาพทุกระยะ ทั้งความสว่างและสีสันเทียบเท่ากันทั้งหมดเลย สีและแสดงไม่โดดเหมือนสมาร์ตโฟนส่วนมากในตลาด โทนภาพไม่คมจัดแต่มีความละมุน และสีสันสวยงามเป็นธรรมชาติ

บริเวณที่ถ่ายมืดมากๆ เลยครับ แต่นางแบบก็ยังดูคมชัดสวยงาม

Superb night camera 2.0 ระยะ Ultrawide

Superb night camera 2.0 ระยะ 1X

Superb night camera 2.0 ระยะ 2X

Panorama Night เป็นฟีเจอร์ที่น่าทึ่ง ถ่ายง่ายและให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ สวยงาม คมชัดมากๆ

ปกติ

ดำและทอง

น้ำแข็งสีฟ้า

ส้มเขียว

ไซเบอร์พังก์

สีแดงเข้ม (New)

สีส้มฟ้า (New)

สีส้มเทา (New)

Long-Exposure mode เส้นทางจราจร

Long-Exposure mode เส้นแสงดาว

Long-Exposure mode กราฟิตีกลางคืน

ทดลองถ่ายไฟกลางคืนด้วยฟีเจอร์ Long-Exposure mode หลายๆ แบบครับ ถ่ายได้ง่ายมากๆ และออกมาสวยมากเลย ใครที่ถ่ายรูปไม่เป็นก็สามารถถถ่ายภาพไฟกลางคืนได้อย่างง่ายดาย (แต่ต้องใช้ขาตั้งกล้องนะครับ)

Astro Mode เป็นฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพดวงดาว (ต้องใช้ขาตั้งกล้อง) น่าเสียดายที่กรุงเทพช่วงนี้ถ่ายดาวได้ยากมากเลย เพราะท้องฟ้าไม่เปิด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Super Moon สำหรับถ่ายดวงจันทร์ด้วยนะครับ แต่ก็เช่นกัน ไม่มีดวงจันทร์โผล่ขึ้นมาช่วงนี้เลย ถึงอย่างไรก็ตามท้องฟ้าปิดแบบนี้ก็พอจะเห็นดวงดาวอยู่บ้างนะครับ ถ้าฟ้าเปิดจะต้องได้ภาพดีๆ อย่างแน่นอน เอาเป็นว่าถ้าท้องฟ้าเปิดเมื่อไหร่ ผมจะรีบหยิบ vivo X60 Pro 5G มาถ่ายดวงจันทร์ให้ดูกันอย่างแน่นอนครับ

vivo X60 Pro 5G สามารถถ่ายมาโครได้ใกล้มากๆ ตั้งค่ามาโครให้จับโฟกัสโดยอัตโนมัติเมื่อถึงระยะที่เหมาะสม (ไม่ต้องไปคอยเปิด หรือเปลี่ยนโหมดให้ยุ่งยาก) หรือจะตั้งเปิดมาโครเอาไว้เมื่อจะถ่ายก็ได้

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• 3G HSDPA 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
• 4G LTE band 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 17, 18, 19, 20, 26, 28, 32, 38, 39, 40, 41
• 5G band 1, 3, 7, 28, 40, 41, 78 SA/NSA
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.1, A2DP, LE, aptX HD
• GPS, A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS
• USB Type-C 2.0
• หน้าจอ Ultra O Screen ชนิดจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2376 pixels (398 ppi), HDR10+, Refresh Rate 120Hz
• กระจก Corning Gorilla Glass 6
• Android 11, Funtouch 11.1
• Qualcomm Snapdragon 870 5G
• CPU Octa-core (1x3.2 GHz Kryo 585 & 3x2.42 GHz Kryo 585 & 4x1.80 GHz Kryo 585)
• GPU Adreno 650
• RAM 12GB (LPDDR4X) + 3GB (Virtual RAM)
• ROM 256GB (UFS 3.1)
• เซ็นเซอร์ Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
• กล้องหน้า Ultra O Screen ความละเอียด 32MP F2.5, 26 มม. (wide)
• กล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP F1.5 (wide), PDAF, Gimbal Stabilization 2.0, VIS 5-Axis Video Stabilization + 13MP F2.5, 50 มม. (telephoto), PDAF, 2x optical zoom + 13MP F2.2, 120 องศา, 16 มม. (ultrawide)
• มาพร้อมเลนส์ Zeiss Optics และเทคโนโลยี Pixel Shift
• บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS รองรับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0, VIS 5-Axis Video Stabilization
• ระบบเสียง Hi-Res audio
• แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh
• รองรับชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0
• มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Midnight Black, Shimmer Blue
• ราคาเปิดตัว 24,999 บาท

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 711,040 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 1743.44 MB/s และการเขียน 782.73 MB/s (UFS 3.1)
• รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix FHD
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็ว

vivo X60 Pro 5G รองรับสัญญาณ 5G Dual Mode ทั้ง SA & NSA และรองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิม 5G Dual SIM จากการทดสอบใช้งาน 5G สัญญาณแรงเสถียร ผมทดสอบแถวชานเมืองสัญญาณแรงดีมาก ใช้งานได้ทุกที่เลยครับ ล่าสุดตอนนี้ 5G ทุกเครือข่ายพร้อมให้บริการทั่วกรุงเทพ และแถบชานเมือง รวมไปถึงหัวเมืองใหญ่ๆ เรียบร้อยแล้ว และมีความพร้อมที่จะครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0 จากการทดสอบแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานครับ อยู่ในระดับปานกลางถ้าไม่เล่นเกม ใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้ถึงตอนค่ำกลับไปชาร์จที่บ้านได้สบายๆ ถือว่าจัดสรรพลังงานได้ดีนะครับ แต่ถ้าเป็นคนติดเกม และรับชม Youtube หรือ Tiktok บ่อยๆ แนะนำว่าควรพกพา Power Bank หรือพกที่ชาร์จ เพื่อชาร์จไฟระหว่างวัน

vivo X60 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ Ultra O Screen ชนิดจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2376 pixels (398 ppi), HDR10+, Refresh Rate 120Hz, กระจก Corning Gorilla Glass 6 สีสันหน้าจอสวยงามมากๆ เป็นหน้าจอโค้งดูพรีเมี่ยม การใช้งานลื่นตา สว่างใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ และสัมผัสการทัชหน้าจอลื่นติดนิ้วดีมากครับ พร้อมกล้องหน้า Ultra O Screen ความละเอียด 32MP บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P

ฝาหลังเป็นกระจกเคลือบผิวด้านมีการไล่โทนที่สวยงาม และไม่เป็นรอยนิ้วมือ และชุดกล้องที่ดูสวยงามและมีเอกลักษณ์ มาพร้อมเลนส์ Zeiss Optics โดยเป็นรุ่นแรกของ vivo และนะครับที่พัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS ทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้เป็นที่จับตามอง และสร้างกระแสความต้องการเครื่องอย่างรุนแรงในต่างประเทศ และอย่างที่เพื่อนๆได้เห็นกันในรีวิวนี้ว่า vivo X60 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่สมกับชื่อ ZEISS อย่างแท้จริง คุณภาพกล้องยอดเยี่ยมมากๆครับ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ กับชุดกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP + 13MP + 13MP บันทึกวีดีโอความละเอียด 4K 60FPS รองรับระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0

vivo X60 Pro 5G ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch 11.1 บนสเปค Qualcomm Snapdragon 870 5G, GPU Adreno 650, RAM 12GB (LPDDR4X) + 3GB (Virtual RAM), ROM 256GB (UFS 3.1) ด้วยสเปคระดับนี้คะแนนทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark จึงสูงถึง 711,040 คะแนน เลยทีเดียว!

จากการทดสอบหน้าตา UI สวยงามมากๆ ปรับแต่งได้เยอะ ความเร็วและความลื่นไหลยอดเยี่ยม สมกับเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นท๊อปๆเลยครับ มาพร้อมระบบอัจฉริยะ Jovi Home และ Google Smart Launcher, ฟีเจอร์ Always-On Display รวมทั้งสามารถปรับแต่ง Effect ต่างๆ ในเครื่องได้อย่างมากมาย, ฟีเจอร์ Clone App สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นที่รองรับ ได้พร้อมกันสองไอดีในเครื่องเดียว, Multi Windows ฟีเจอร์เปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 หน้าจอ และอื่นๆมีมาให้ครบ ใครที่มองหาสมาร์ตโฟนจาก vivo ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม vivo X60 Pro 5G คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาดเลยละ

ข้อมูลสเปคของ vivo X60 Pro 5G และหน้าตาการทำงานของ Jovi Home (เลือกสลับการทำงานกับ Google Smart Launcher ได้ด้วยตัวเอง)

Dark Mode ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นใน Android 11, สามารถปรับแต่งโทนสีหน้าจอได้อย่างละเอียด, หน้าจอรองรับ Refresh Rate 120Hz (สามารถเลือกสลับค่า Refresh Rate โดยอัตโนมัติได้)

สมาร์ตโฟนจาก vivo เป็นแบรนด์ที่ปรับแต่งเอฟเฟ็กต์ได้เยอะมากๆ มาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ ล่าสุดกับ Funtouch 11.1 ก็ยังจัดเต็มการปรับแต่งไม่เคยเปลี่ยน พร้อมฟีเจอร์ Gesture ต่างๆที่จัดมาให้อย่างเต็มที่เลย

แน่นอนครับว่ารองรับฟีเจอร์ Clone App สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นที่รองรับ ได้พร้อมกันสองไอดีในเครื่องเดียว และรองรับฟีเจอร์ Always-On Display

Multi Windows ฟีเจอร์เปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 หน้าจอ สลับหน้าจอได้อย่างลื่นไหล และรองรับการบันทึกคู่หน้าจอที่เราใช้เป็นประจำเอาใว้ได้ด้วยนะครับ โดยเอาไปวางใว้เป็นไอค่อนบนหน้าจอร่วมกับแอปพลิเคชั่นเลย ใช้งานสะดวกมากๆ

มีแอปพลอเคชั่นจำหน่ายธีม, วอลเปเปอร์ และ Font ซึ่งก็จะมีทั้งฟรีและมีค่าใช้จ่ายครับ สามารถเลือกซื้อกันได้เลย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสียงที่ช่วยในการผ่อนคลายแบบ ASMR ด้วยนะครับ มีให้เลือกหลายรูปแบบเลย

vivo ก็มีในส่วน Store ของตัวเองด้วยครับ เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น พร้อมอัพเดทได้ผ่าน Store นี้ได้เลย และมีในส่วนของ Vivo.com ที่จะมีรายละเอียดโปรโมชั่น สิทธิพิเศษต่างๆ เช็คราคาสมาร์ตโฟนรุ่นต่างๆของวีโว่ แถมสามารถจับมาเปรียบเทียบกันได้ด้วย สามารถลงทะเบียนรับประกัน Online และตรวจสอบศูนย์บริการ พร้อมเช็คราคาอะไหล่อย่างละเอียด รวมไปถึงมีบริการ Live Chat กับเจ้าหน้าที่เพื่อปรึกษาปัญหาต่างๆ ได้ฟรี ทุกวันในเวลาทำการ

vivo X60 Pro 5G รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และรองรับแสกนใบหน้า ความเร็วและความแม่นยำทำได้ดีมากครับ

vivo X60 Pro 5G มาพร้อม ฟีเจอร์ Ultra Game Mode และมีโหมด E-Sport ปรับปรุงประสิทธิภาพเพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น และช่วยป้องกันสิ่งรบกวนต่างๆ เวลาเล่นเกม สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ Ultra O Screen ชนิดจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2376 pixels (398 ppi), HDR10+, Refresh Rate 120Hz หน้าจอสวยงามมากๆครับ สีสันสดใส และสู้แสงใช้งานกลางแจ้งสบายๆ เล่นเกมได้ทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870 5G ซึ่งแรงมากๆครับ คะแนนทดสอบออกมาสูงมากเลย จากการทดสอบด้วยเกมดังอย่าง ROV ค่าเฟรมเรท 60FPS นิ่งๆเลยครับ และหน้าจอทัชได้ติดนิ้วลื่นไหลดีมาก ใครที่ต้องการนำไปเล่นเกมผมว่าเหมาะมากๆเลย และสำหรับเรื่องเสียงรุ่นนี้รองรับระบบเสียง Hi-Res audio แต่คาดว่าไม่มีชิปเสียงแยกมาให้นะครับ และมีลำโพงตัวเดียว แต่เสียงที่ได้คุณภาพดีครับ ลำโพงมีมิติ เสียงดังไม่แตก ส่วนการรับฟังเพลงทำได้ดีทีเดียวทั้งผ่านลำโพง และผ่านหูฟัง

vivo X60 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ยอดเยี่ยมครับ สานต่อความสำเร็จจากรุ่นที่แล้วอย่าง vivo X50 Pro 5G ที่ทำผลงานเอาใว้ดีมากๆ ได้รับคำชมจากผู้ใช้งานบ้านเรามากมาย การกลับมาในครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่พัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS ผู้ผลิตเลนส์คุณภาพสูงระดับโลกจากเยอรมัน (vivo X ZEISS Co-Engineered Imaging System) ซึ่งอย่างที่เห็นในรีวิวนะครับ ว่ากล้องรุ่นนี้ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมจริงๆ รวมทั้งยังมีระบบกันสั่นที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม Gimbal Stabilization 2.0 ซึ่งรองรับกันสั่นทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ พร้อมพกพาฟีเจอร์การถ่ายภาพมาอย่างครบถ้วน โดดเด่นทั้งการถ่ายภาพเวลากลางวีน ไปจนถึงยามค่ำคืน

แถมในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่องยังสวยงามมากๆ วัสดุและงานประกอบคุณภาพสูง ตัวเครื่องผิวด้าน ไม่ก่อให้เกิดรอยนิ้วมือ ในส่วนของสเปคก็จัดเต็มมาพร้อมหน้าจอ AMOLED (Refresh Rate 120Hz) และชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870 5G ซึ่งนอกจากรองรับสัญญาณ 5G Dual Mode ทั้ง SA & NSA และรองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิม 5G Dual SIM แล้วการใช้งานก็ลื่นไหลไม่แพ้ชิปเซ็ตรุ่นท๊อป รองรับทุกเกม ไม่ว่าจะเล่นเกมไหนก็ปรับได้สุด และลื่นติดนิ้ว รวมไปถึงแบตเตอรี่ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0 ที่อึดเกินคาด การจัดการพลังงานทำได้ดีทีเดียวครับ ใช้งานทั่วไป ถ่ายรูปเล่นด้วย ก็สามารถอยู่ได้ครบวันอย่างวันที่ผมออกไปถ่ายรีวิว ก็สามารถถ่ายได้ตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จเลยครับ (แต่ถ้าเล่นเกมก็ควรพกที่ชาร์จ หรือ Power Bank ไปด้วยนะครับ) โดยรวมรุ่นนี้น่าประทับใจครับ เชื่อว่าจะต้องถูกใจเพื่อนๆที่ชอบการถ่ายภาพ และต้องการสมาร์ตโฟนสเปคสูง มีดีไซน์ที่สวยงามอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสาย Content Creator จะต้องถูกใจ vivo X60 Pro 5G กันแน่ๆ เลยละครับ

vivo X60 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Midnight Black และ Shimmer Blue ราคาเปิดตัว 24,999 บาท วางจำหน่ายวันที่ 11 มิ.ย. 64 พร้อมของแถม vivo VIP Card และหูฟัง vivo Wireless Sport Lite เพื่อนๆที่สนใจสามารถไปจับจองกันได้เลยนะครับ รับรองว่าจะต้องประทับใจเหมือนผมอย่างแน่นอน

• รองรับสัญญาณ 5G Dual Mode ทั้ง SA & NSA รองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิม
• ดีไซน์สวยงามพรีเมี่ยม สีสันสวยงามมีการไล่โทน และผิวสัมผัสด้านเป็นรอยนิ้วมือได้ยาก
• ตัวเครื่องสเปคสูงขนาดนี้ แต่บางเฉียบเพียงแค่ 7.6 มม. และมีน้ำหนักเบาเพียง 179 กรัม เท่านั้นเอง
• หน้าจอ Ultra O Screen ชนิดจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, HDR10+, Refresh Rate 120Hz และเลือกใช้กระจก Corning Gorilla Glass 6
• ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch 11.1 หน้าตาสวยงาม และลูกเล่นเยอะมาก
• สเปคแรง Qualcomm Snapdragon 870 5G, RAM 12GB (LPDDR4X) + 3GB (Virtual RAM), ROM 256GB (UFS 3.1)
• เป็นครั้งแรกที่ vivo พัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS
• กล้องคุณภาพสูง ทั้งกล้องหน้า-หลัง กล้องหน้าความละเอียด 32MP และกล้องหลัง 3 เลนส์ 48MP + 13MP +13MP
• มาพร้อมเลนส์ Zeiss Optics และระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0
• ฟีเจอร์ถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอมีมาให้เลือกใช้เยอะมากๆ
• แบตเตอรี่ความจุ 4,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W vivo FlashCharge 2.0 จัดสรรพลังงานได้ดี ใช้งานได้ยาวนาน

• กล้องหลังนูนขึ้นมา ต้องคอยระวังเป็นพิเศษ