รีวิว realme 8 | realme 8 5G สมาร์ทโฟนจอ 90Hz แบต 5,000 mAh รองรับ 5G "ความเร็วไร้ขีดจำกัด" ที่สัมผัสได้ ในราคาไม่ถึงหมื่น!

realme ประเทศไทย เพิ่งจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล realme 8 Series ไปหมาด ๆ ซึ่งตอนนี้เผยโฉมออกมาให้แฟน ๆ เรียลมีชาวไทยได้เห็นกันทั้งหมด 2 รุ่น คือ realme 8 5G และ realme 8 โดยมาพร้อมกับสัญลักษณ์อินฟินิตี้ (Infinity) ดึงเอาจุดเด่นหลักของแต่ละรุ่นมาผูกกับความหมายที่ไม่สิ้นสุด โดย realme 8 5G สมาร์ทโฟน "ความเร็วไร้ขีดจำกัด" มาพร้อมชิปประมวลผล Diemnsity 700 5G โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G ในขณะที่ realme 8 เป็นสมาร์ทโฟนที่ชูจุดเด่นของกล้องถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟน มาพร้อมกล้องหลัง AI 64MP 4 เลนส์ และกล้องหน้า 16MP พ่วงหลากหลายฟีเจอร์ใหม่แบบจัดเต็ม มาให้ "เก็บภาพไม่มีที่สิ้นสุด"

นอกจากความหวือหวาของ realme 8 5G และ realme 8 ที่มาพร้อมกับความสามารถไร้ขีดจำกัดและเทคโนโลยีที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่แล้ว ครั้งนี้ เรียลมี ยังพาตัวแม่เบอร์ 1 ของเมืองไทยอย่าง "อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ" มาเป็น realme 5G Ambassador ตัวแทนในการส่งต่อความล้ำสมัยให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ ผ่าน realme 8 5G โดยเฉพาะอีกด้วย! เปิดตัวแรงไม่ยอมใครมาแต่ไกลแบบนี้ รายละเอียดของทั้ง realme 8 5G และ realme 8 จะว้าวขนาดไหน? ตามมาส่องไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

	realme 8 5G	realme 8
จอแสดงผล	90Hz Ultra Smooth Display แบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ (1,080 x 2,400 พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 600 nits อัตรา Refresh Rate 90Hz อัตรา Touch Sampling Rate 180Hz	6.4" Super AMOLED Fullscreen แบบ sAMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ (1,080 x 2,400 พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 1,000 nits อัตรา Refresh Rate 60Hz อัตรา Touch Sampling Rate 180Hz
ชิปประมวลผล	CPU : MediaTek Dimensity 700 5G Octa-core, Up to 2.2GHz GPU : ARM Mali-G57	CPU : MediaTek Helio G95 Octa-core, Up to 2.05GHz GPU : ARM Mali-G76
หน่วยความจำ	RAM 8GB (LPDDR4x) ROM 128GB (UFS 2.1) MicroSD สูงสุด 1TB	RAM 8GB (LPDDR4x) ROM 128GB (UFS 2.1) MicroSD สูงสุด 256GB
กล้องหลัง	- Ultra HD Main 48MP (f/1.8) - B&W Portrait 2MP (f/2.4) - Macro 2MP (f/2.4) กันสั่น UIS, UIS Max รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30/120fps 720p@30fps 720p@120fps Slow-motion	- Main 64MP (f/1.79) - Ultra Wide-angle 8MP (f/2.25) - Macro 2MP (f/2.4) - B&W Portrait 2MP (f/2.4) กันสั่น UIS, UIS Max รองรับการถ่ายวิดีโอ Dual-view 4K@30fps 1080P@60/30fps 720P@60/30fps 1080p@120fps Slow-motion 720p@240fps Slow-motion
กล้องหน้า	16MP (f/2.1) รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p@30fps 720P@30fps	16MP, Sony IMX471 (f/2.45) กันสั่น UIS รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080P@30fps 720P@30fps 1080p@120fps Slow-motion
การเชื่อมต่อ	GSM/CDMA/LTE/5G 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac Bluetooth 5.1 NFC GPS, AGPS, Glonass, Beidou, Galileo, Qzss พอร์ต USB Type-C ช่องหูฟัง 3.5 มม.	GSM/CDMA/LTE 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac Bluetooth 5.1 GPS, AGPS, Glonass, Beidou, Galileo พอร์ต USB Type-C ช่องหูฟัง 3.5 มม.
เซ็นเซอร์	Magnetic Induction Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Gyro-meter Sensor, Acceleration Sensor	Ultra-fast In-display Fingerprint Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Magnetic Induction Sensor, Gyro-meter Sensor, Acceleration Sensor
แบตเตอรี่	5,000 mAh 18W Fast Charge	5,000 mAh 30W Dart Charge
ระบบปฏิบัติการ	Android 11; realme UI 2.0	Android 11; realme UI 3.0
มิติตัวเครื่อง	162.5 x 74.8 x 8.5 มม. น้ำหนัก 185 กรัม	160.6 x 73.9 x 7.99 มม. น้ำหนัก 177 กรัม

ผิวสัมผัสเรียบลื่น เป็นมันวาว สะท้อนแสงสวยงาม พร้อมทั้งใช้เทคนิคการหล่อขอบข้างแบบไร้รอยต่อ และออกแบบป้องกันส่วนมุมตัวเครื่อง ที่สามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและช่วยลดความเสี่ยงของการแตกของหน้าจอได้ดี โค้งรับกับฝ่ามือ ทำให้สามารถถือจับได้กระชับ พอดีมือมาก ๆ

โดยฝาหลังของตัวเครื่องยังคงมีโลโก้ realme วางอยู่ในตำแหน่งด้านล่างซ้ายเช่นเคย ทำให้เหมือนกับเป็นจุดยุทศาสตร์ เป็นภาพจำของแบรนด์ไปซะแล้ว มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ 48MP Nightscape Camera วางอยู่ในตำแหน่งด้านบนซ้ายของฝาหลัง ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.8, เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 และเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED ซึ่งโมดูลสำหรับวางกล้องนี้ จะนูนออกมาจากฝาหลัง ใครที่ชอบใช้แบบไม่ใส่เคสอาจจะต้องระมัดระวังกันหน่อยค่ะ ส่วนคนที่ใช้งานแบบใส่เคสก็หายห่วงไปได้ระดับหนึ่งในกรณีเครื่องตกหรือเลนส์ครูดกับขอบโต๊ะ เพราะเคสที่แถมมาให้มีการดีไซน์ให้ขอบนูนขึ้นมาเสมอกับโมดูลกล้องของโทรศัพท์พอดีเลยค่ะ

หน้าจอแสดงผล 90Hz Ultra Smooth Display แบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ (1,080 x 2,400 พิกเซล) อัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz พร้อมอัตรา Touch Sampling Rate 180Hz ความสว่างสูงสุดถึง 600 nits รองรับการแสดงผล 16.7 ล้านสี พื้นที่การใช้งานหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.5% มีมิติตัวเครื่องกว้าง 74.8 x สูง 162.5 x หนา 8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องโดยรวมประมาณ 185 กรัม

ด้านหน้าตัวเครื่องบริเวณมุมบนซ้าย วางกล้องหน้าแบบเจาะรู 16MP AI Beauty Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.1 และเหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียงสนทนา พร้อมขอบจอบาง โดยที่ขอบจอด้านล่างจะหนากว่าด้านอื่นเล็กน้อย

ด้านบนของตัวเครื่อง ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อใด ๆ ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนพลังงาน/ข้อมูลแบบ USB Type-C พร้อมลำโพงเสียง

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่องและพักการใช้งานหน้าจอ พร้อมทั้งออกแบบมาให้แบนราบเพื่อใช้เป็นตำแหน่งสำหรับสแกนลายนิ้วมือด้วย โดยสามารสแกนปลดล็อกได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัย และรวดเร็วเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ส่วนทางด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ 3-Card Slot รองรับ Nano-SIM 2 ช่อง และอีก 1 ช่องสำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB ขยับลงมาด้านล่างจะเป็นปุ่มสำหรับปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง (Volume)

• ตัวเครื่อง realme 8 5G
• หัวชาร์จแบตเตอรี่ 18W Fast Charge
• สายชาร์จ USB-C
• เข็มจิ้มซิม
• เคสซิลิโคนแบบใส
• ฟิล์มกันรอย (ติดมาให้เรียบร้อยแล้ว)
• คู่มือการใช้งาน ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และใบรับประกัน

---

ผิวสัมผัสเรียบลื่น สะท้อนแสงสวยงาม โดยจะมีส่วนของโลกดิจิทัลจะมีลักษณะแวววาวคล้ายกระจก เมื่อแสงตกกระทบจะเห็นเป็นสีรุ้ง สวยมาก ๆ เลยค่ะ พร้อมมีสโลแกน DARE TO LEAP ติดอยู่แบบชัดเจนและโดดเด่น ในขณะที่ส่วนของโลกยุคปัจจุบัน จะมีสีที่หม่นกว่า และมีลวดลายเส้นขนาดเล็กฝังอยู่ด้วย ซึ่งตัวเครื่องก็ดีไซน์มาในขนาดพอดีกับฝ่ามือ โค้งรับกับสรีระ จับกระชับ แถมยังบางและเบาอีกด้วย

ด้านหลังของตัวเครื่องบริเวณมุมบนด้านซ้าย ติดตั้งโมดูลทรงสี่เหลี่ยมสำหรับวางกล้องหลัง 4 เลนส์ 64MP AI Quad Camera ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.79, เลนส์ Ultra Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.25, เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 และเลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED ด้านล่างซ้ายมีโลโก้ realme วางขนานไปกับสโลแกน DARE TO LEAP ที่วางอยู่ทางฝั่งขวา

ใช้หน้าหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ (1,080 x 2,400 พิกเซล) อัตราการรีเฟรชสูงสุด 60Hz และอัตรา Touch Sampling Rate 180Hz ความสว่างสูงสุดถึง 1,000 nits ให้การแสดงผลที่สวยงาม สีสันสดใส สู้แสงได้ดี พื้นที่การใช้งานหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.8% มีมิติตัวเครื่องกว้าง 73.9 x สูง 160.6 x หนา 7.99 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องโดยรวมประมาณ 177 กรัม

ด้านหน้าตัวเครื่องบริเวณมุมบนซ้าย วางกล้องหน้าแบบเจาะรู 16MP In-display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.45 ซึ่งขนาดของรูกล้องจะเล็กกว่าในรุ่น realme 8 5G เล็กน้อยค่ะ และเหนือขึ้นไปบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียงสนทนา ขอบจอค่อนข้างบางทั้ง 4 ด้าน โดยที่ขอบด้านล่างจะหนากว่าด้านอื่น ๆ

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนพลังงาน/ข้อมูลแบบ USB Type-C และลำโพงเสียง

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มสำหรับปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง (Volume) ถัดลงมาเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดตัวเครื่องและพักการใช้งานหน้าจอ ส่วนทางด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ 3-Card Slot รองรับ Nano-SIM 2 ช่อง และอีก 1 ช่องสำหรับเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 256GB

• ตัวเครื่อง realme 8
• หัวชาร์จแบตเตอรี่ 5V6A
• สายชาร์จ USB Type-C
• เข็มจิ้มซิม
• เคสซิลิโคนแบบใส
• ฟิล์มกันรอย (ติดมาให้เรียบร้อยแล้ว)
• คู่มือการใช้งาน ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และใบรับประกัน

realme 8 5G และ realme 8 มาพร้อมกับ realme UI 2.0 หน้าตาหรืออินเทอร์เฟส (User Interface) ที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนเรียลมี โดยทำงานบนพื้นฐานของ Android 11 ที่ถ้าใครซื้อไปใช้งานก็จะได้เวอร์ชันใหม่ล่าสุดนี้ไปตั้งแต่แกะกล่องเลยค่ะ หน้าตาของ UI ออกแบบเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน การเรียกใช้งานและการเข้าถึงแอปพลิเคชัน/ฟีเจอร์ต่าง ๆ ใช้ง่ายและสะดวกสบาย มาพร้อมด้วยการจัดเรียงไอคอนที่เป็นระเบียบ ไม่รก และดูสบายตา ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับแต่งให้เหมาะกับความชอบและไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเองได้เลยค่ะ

สำหรับฟีเจอร์และลูกเล่นต่าง ๆ ใน realme UI 2.0 นี้ จัดมาให้ใช้งานอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งไอคอนด้วยตัวเอง หรือในส่วนของฟีเจอร์พื้นฐานอย่าง Dark Mode, Reading Mode, โหมดโคลนแอป, โหมดหน้าจอแบ่งส่วน, Focus Mode, โหมดการขับขี่แบบชาญฉลาด รวมไปถึงเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้ง ปุ่มนำทาง ลูกบอลช่วยเหลือ แถบด้านข้างอัจฉริยะ และ Gestures & Motions ก็ใส่มาให้ครบครัน

realme 8 5G และ realme 8 จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย (ตามสเปกของสมาร์ทโฟน) คือ realme 8 5G จะมีการแสดงผลการเชื่อมต่อ 5G ที่สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่องเลย ทั้งนี้ต้องใส่ซิมการ์ดที่รองรับ 5G และอยู่ในพื้นที่ให้บริการด้วยนะคะ โดยเจ้า realme 8 5G ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Smart 5G ที่สามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G และ 5G ได้อัตโนมัติ ทำให้ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ไปได้อีกมากโข

และอีกจุดหนึ่งที่ต่างกันคือ realme 8 5G จะมีในส่วนของการปรับอัตราการรีเฟรชจอภาพ ที่สามารถเลือกเป็นแบบ 90Hz, 60Hz ได้ หรือจะเลือกเป็นแบบอัตโนมัติก็ได้ค่ะ

realme 8 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ขอบจอค่อนข้างบาง และใช้การวางกล้องหน้าแบบเจาะรู จึงไม่รบกวนสายตามากนัก ทำให้การดูวิดีโอและรับชมคอนเท้นต์ต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟนเต็มอิ่มเต็มอรรถรส สีสันสวยงาม คมชัด เห็นรายละเอียดชัดเจน และด้วยอัตรา Refresh Rate 90Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงสุด 180Hz ให้ประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่น สามารถรับชมคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอได้เนียนตาสุด ๆ และยังรองรับการแสดงผลที่ความละเอียดระดับ High Definition สามารถดู Youtube ได้ที่ความความชัดสูงสุด 1440p อีกด้วย

ด้านการประมวลผลทำงานขณะเล่นเกมบน realme 8 5G ทำได้ไหลลื่นดีเลยค่ะ จากการทดลองด้วยเกม RoV ภาพสวย ทัชติดมือ สามารถปรับค่าโหมด HD ระดับสูงมาก และปรับการแสดงผลระดับสูงได้ แต่ไม่สามารถเปิดโหมด High Frame Rate ได้ สามารถเล่นได้นิ่ง ๆ ที่ 30FPS ทดลองปรับตั้งค่าการแสดงผลแบบไปสุดทุกอย่าง เครื่องไม่หน่วง ไม่กระตุกนะคะ แต่พอเล่นไปได้สักพัก เครื่องก็จะเริ่มอุ่น ๆ เร็วกว่าปกติ ซึ่งถ้าเป็นสายเล่นเกมก็แนะนำให้เซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นของเกมเลยจะดีที่สุดค่ะ

ที่สำคัญคือ realme 8 5G ยังมาพร้อมกับ Game Space ฟีเจอร์สำหรับการชาวเกมเมอร์ที่จะช่วยเร่งประสิทธิภาพในการเล่นเกม สามารถเลือกจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่องได้ตามที่ต้องการ เร่งความเร็วกราฟิก อำนวยความสะดวกระหว่างการเล่นเกม และปิดกั้นการแจ้งเตือนและการรบกวนต่าง ๆ เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างมีอรรถรสมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีโหมดสำเร็จรูปมาให้เลือกใช้ด้วย ถือว่าใช้งานได้ดีเลย

realme 8 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 5,000 mAh รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง ที่ทางแบรนด์เคลมว่าแม้แบตเตอรี่จะเหลือเพียง 5% แต่ยังสามารถเปิดเครื่องเพื่อรอรับสายได้นานถึง 34.2 ชั่วโมง หรือสามารถแชทต่อเนื่องได้อีก 84 นาทีเลยทีเดียว และยังสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วยการเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน Super Power Saving เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้นได้ ซึ่งทั้งคุณสมบัติหน้าจออัตรา Refresh Rate 90Hz และการรองรับ 5G จากการทดลองแบบเปิดใช้งานหน้าจอแบบ 90Hz และเปิดรับสัญญาณ 5G ไว้ตลอดทั้งวัน ก็ยังเหลือแบตฯ อีกนิดหน่อย แต่ก็เพียงพอให้กลับไปชาร์จไฟต่อในช่วงเย็นได้ค่ะ

นอกจากใส่แบตเตอรี่มาให้ใหญ่จุใจแล้ว realme 8 5G ยังใส่ชาร์จเร็ว 18W Quick Charge มาให้ด้วย ดังนั้น แม้ว่าแบตฯ จะหมดไว แต่ในหนึ่งรอบการชาร์จที่ใช้เวลาไม่นานมากนัก ภาพรวมก็จัดว่าคล่องตัว ใช้งานไม่สะดุดค่ะ แต่ถ้าใส่ชาร์จไว 30W มาให้ด้วยคงจะฟินมากกว่านี้

• ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark ได้คะแนนรวม 356,776 คะแนน
• ทดสอบความเร็วในการอ่าน-เขียนของหน่วยความจำด้วยแอปพลิเคชั่น AndroBench ได้ Sequential Read 961.67 MB/s | Sequential Write 202.97 MB/s
• ทดสอบการจับสัญญาณ GPS ภาคพื้นดินด้วยแอปพลิเคชั่น GPS Tester พบว่าจับสัญญาณได้ 12 ดวงจาก 22 ดวง 
• ทดสอบ Multi-touch รองรับการสัมผัสพร้อมกันบนหน้าจอ 10 จุด
• ทดสอบการรองรับการแสดงผลวีดีโอสตรีมมิ่งที่ความละเอียดระดับสูงด้วย Google WideVine CDM ระดับ L1 (รองรับการแสดงผลที่ความละเอียดระดับสูงขณะสตรีมมิ่งวีดีโอ)

---

ทางด้านของการรับชมความบันเทิงบน realme 8 นั้น ก็เรียกได้ว่าเต็มอรรถรสมาก ๆ ค่ะ ด้วยสีสันและความคมชัดของหน้าจอแบบ Super AMOLED ให้การแสดงผลภาพที่สวยงาม คมชัด ดูเนียนตา บวกกับหน้าจอ 6.4 นิ้ว ขนาดกำลังพอดี พร้อมการวางกล้องหน้าแบบเจาะรูที่ไม่รบกวนสายตามากนัก ทำให้การรับชมคอนเท้นต์ต่าง ๆ สนุกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลที่ความละเอียดระดับ High Definition สามารถดู Youtube ได้ที่ความความชัดสูงสุด 2160p อีกด้วย

realme 8 เลือกใช้ชิปประมวลผล Helio G95  ซึ่งเป็นชิป Gaming  Processor ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ ดังนั้นผลลัพธ์ทางด้านเกมมิ่ง ก็ต้องบอกว่าอยู่ในระดับดีเลยค่ะ การประมวลผลทำงานขณะเล่นเกมทำได้ไหลลื่น จากการทดลองด้วยเกม RoV พบว่าสามารถคุมเฟรมเรทได้นิ่งมาก (วิ่งอยู่ที่ 59-61FPS) ภาพสวย ทัชติดมือ สามารถปรับค่าโหมด HD ระดับสูงมาก ปรับการแสดงผลระดับสูงมากได้ และเปิดโหมด High Frame Rate ได้ เครื่องไม่หน่วง ไม่กระตุกค่ะ นอกจากนี้ realme 8 ยังมาพร้อมกับ Copper Liquid Cooling System ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทองแดงขั้นสูง ที่ประสิทธิภาพการทำความเย็นเพิ่มขึ้น 14.4% ทำให้ในขณะเล่นเกม สามารถระบายความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นออกสู่ภายนอกได้ดีกว่าเดิม เล่นผ่านไปสักระยะก็ทำให้รู้สึกแค่อุ่นๆ เท่านั้น

realme 8 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000 mAh สามารถใช้งานโดยทั่วไปในหนึ่งวันได้แบบสบาย ๆ เลยค่ะ ซึ่งทางแบรนด์เคลมไว้ว่าสามารถเปิดเครื่องรอรับสายได้นานถึง 40 วัน* เลยทีเดียว แถมยังมาพร้อมกับชาร์จเร็ว Dart Charge 30W สามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ ภายในระยะเวลาเพียง 65 นาที และสามารถชาร์จได้ถึง 50% ภายในเวลาเพียง 26 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นสายเล่นเกม ดูหนัง สามารถใช้งานได้สบาย ๆ หายห่วงแน่นอน

เสริมความแกร่งขึ้นไปอีกขั้น ด้วยโหมดประหยัดพลังงาน Power Saving Mode สำหรับการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ที่จะมีการปรับลดความสว่างของหน้าจอ ลดเวลาล็อกหน้าจออัตโนมัติ และปิดการใช้งานแอปพลิเคชัน, พักการทำงานของแอปพลิเคชันที่ไม่มีการใช้งาน, ฟังก์ชันลดการแสดงผลเอฟเฟกต์หน้าจอ และฟังก์ชันประหยัดพลังงานของเครื่องในขณะนอนหลับ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเลือกเปิดใช้งานให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อช่วยเซฟพลังงานได้เลยค่ะ

• ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark ได้คะแนนรวม 320,232 คะแนน
• ทดสอบความเร็วในการอ่าน-เขียนของหน่วยความจำด้วยแอปพลิเคชั่น AndroBench ได้ Sequential Read 525.66 MB/s | Sequential Write 202.95 MB/s
• ทดสอบการจับสัญญาณ GPS ภาคพื้นดินด้วยแอปพลิเคชั่น GPS Tester พบว่าจับสัญญาณได้ 6 ดวงจาก 13 ดวง 
• ทดสอบ Multi-touch รองรับการสัมผัสพร้อมกันบนหน้าจอ 10 จุด
• ทดสอบการรองรับการแสดงผลวีดีโอสตรีมมิ่งที่ความละเอียดระดับสูงด้วย Google WideVine CDM ระดับ L1 (รองรับการแสดงผลที่ความละเอียดระดับสูงขณะสตรีมมิ่งวีดีโอ)

• กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 PDAF
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
• กล้อง B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4

Super Nightscape, Panoramic View, Expert, Timelapse, โหมด Portrait, HDR, Ultra Macro, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filters

• รองรับระบบกันสั่น UIS, UIS Max
• รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด1080P@30fps, 720P@30fps
• รองรับการถ่ายวิดีโอ Slow-motion 720p@120fps

• Ultra HD 48MP - โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง (8,000 x 6,000 พิกเซล)

• Auto - โหมดออโต้

• Portrait - โหมดถ่ายภาพบุคคล

• Macro - ถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็ก ระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร

• Nightscape - โหมดถ่ายภาพกลางคืน

---

สำหรับกล้องหน้าของ realme 8 5G มาพร้อมกับเลนส์ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.1 รองรับ AI Beauty ปรับแต่งใบหน้าให้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ พร้อม Portrait Mode ถ่ายเซลฟี่แบบละลายฉากหลังเพื่อช่วยให้เซลฟี่ดูมีมิติขึ้น สามารถเก็บขอบและละลายฉากหลังได้ในระดับดีประมาณหนึ่งเลย มีขาดมีเกินบ้างเล็กน้อย แต่ถือว่าถ่ายสวย สาว ๆ ชอบกันแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ ยังสามารถเซลฟี่แบบ Super Nightscape ได้ด้วย แม้จะถ่ายในที่แสงน้อยหรือถ่ายตอนกลางคืนก็สวยเป๊ะ!

• กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.1

Portrait Mode, Panoramic View, AI Beauty, HDR, Face-Recognition, Super Nightscape

• รองรับระบบกันสั่น UIS
• รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080P@30fps, 720P@30fps

• Auto - โหมดออโต้

• Portrait - โหมดเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอ

---

• กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.79 PDAF
• กล้อง Ultra Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.25 (119 องศา)
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 (ถ่ายระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร)
• กล้อง B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4

Starry Mode, Tilt-shift, Neon Portrait, Dynamic Bokeh, AI Colour Portrait, Super Nightscape, Panoramic view, Expert, Timelapse, Portrait , HDR, Ultra wide, Ultra Macro, AI Scene Recognition, AI Beauty, Filter, Chroma Boost, Bokeh Effect Control

• รองรับการถ่ายวิดีโอ Dual-view
• รองรับระบบกันสั่น UIS, UIS Max
• รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K@30fps, 1080P@60/30fps, 720P@60/30fps
• รองรับการถ่ายวิดีโอ Slow-motion ความละเอียด 1080p@120fps, 720p@240fps

• 64MP - โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง (9,248 x 6,944 พิกเซล)

• Auto - โหมดออโต้

• Trendy Portrait - โหมดถ่ายภาพบุคคล

• Ultra Wide-angle - โหมดถ่ายภาพมุมกว้าง 119 องศา

• Macro - ถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็ก ระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร

• Tilt-shift Mode - โหมดการถ่ายภาพแบบจำลอง

• Nightscape - โหมดถ่ายภาพกลางคืน

นอกจากนี้ realme 8 ยังมีกับโหมดสำหรับการถ่ายดวงดาว Starry Mode ที่มีการอัปเกรดกระบวนการถ่ายภาพให้เหมาะสม โดยแยกขั้นตอนการเพิ่มความสว่างของดวงดาวออกจากอัลกอริทึมและประมวลผลโดย ISP ใน SoC ช่วยเพิ่มความสว่างและการลดสัญญาณรบกวน นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอแบบ Dual-view ที่สามารถบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังได้ในเวลาเดียวกัน

---

realme 8 มาพร้อมกล้องหน้า 16MP In-display Selfie เซ็นเซอร์ Sony IMX471 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.45 รองรับ AI Beauty ปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามเป็นธรรมชาติ และ Portrait Mode ที่ตอบโจทย์ในเรื่องการถ่ายภาพเซลฟี่ได้ลงตัว ละลายพื้นหลังได้เนียน มีมิติ ดูไม่หลอกตา เนื่องจากการละลายพื้นหลังได้เนียน พร้อม Super Nightscape ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือยามค่ำคืนไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

• กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.45 (เซนเซอร์ Sony IMX471)

Portrait, Panoramic View, โหมด AI Beauty, HDR, Face-Recognition, Filters, Super Nightscape, Bokeh Effect Control

• รองรับระบบกันสั่น UIS
• รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080P@30fps, 720P@30fps
• รองรับการถ่ายวิดีโอ Slow-motion ความละเอียด 1080p@120fps

• Auto - โหมดออโต้

• Portrait - โหมดเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอ

สำหรับ realme 8 Series ทั้ง 2 รุ่นที่นำมาแนะนำกันวันนี้ ถึงแม้ว่าจะมาในชื่อเดียวกัน จนหลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าทั้ง realme 8 5G และรุ่นปกติอย่าง realme 8 นั้น แตกต่างกันแค่ที่การรับสัญญาณ 5G เท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วสเปกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ โดย realme 8 5G เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเร็วแรง หน้าจอลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชเรท 90Hz สามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G ได้ แบตอึด และชาร์จไว 18W ในราคาสุดคุ้มค่า ไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท ในขณะที่ realme 8 เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมความสามารถทางด้านการถ่ายรูป อัปเกรดเรื่องกล้องให้ดีขึ้นกว่าในรุ่น 5G พร้อมเสริมด้วยชิปเกมมิ่ง หน้าจอ Super AMOLED และชาร์จไว 30W เรียกได้ว่ารุ่นนี้เน้นเอาใจสาย Entertain แบบเต็มตัว ในราคาที่เบากว่ารุ่นหลักไป 1,000 บาท ซึ่งก็ต้องบอกว่าข้อดี-ข้อด้อยของทั้งสองรุ่นก็มีแตกต่างกันไป ส่วนคนที่สนใจ ถ้าลองสำรวจตัวเองแล้วว่ามีความต้องการใช้งานแบบไหนโดยเฉพาะเจาะจง ก็สามารถเลือกได้เลย รับรองว่าเด็ดทั้งคู่ค่ะ

realme 8 5G มีให้เลือก 2 สี คือ สีฟ้า Supersonic Blue และสีดำ Supersonic Black เปิดราคาวางจำหน่ายที่ 9,999 บาท และสำหรับ realme 8 มีตัวเลือกสี 2 สีเช่นเดียวกัน คือ สีเงิน Cyber Silver และสีดำ Cyber Black โดยจะวางจำหน่ายในราคา 8,999 บาท

รุ่น	หน่วยความจำ (RAM / ROM)	ตัวเลือกสี	ราคา
realme 8 5G	8GB / 128GB	Supersonic Blue, Supersonic Black	9,999 บาท
realme 8	8GB / 128GB	Cyber Silver, Cyber Black	8,999 บาท

realme 8 5G และ realme 8 เริ่มเปิดให้ Pre-order แล้ววันนี้ - 3 พฤษภาคม 2564 ที่ realme Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Banana, BKK, Cyborg Kong, CSC, TG Fone, Jaymart และ IT City ทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, Thisshop, JD Central และช่องทางโอเปอเรเตอร์ AIS, Truemove H และ Dtac (ราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 2,489 บาทเท่านั้น*) พร้อมรับฟรีของสมนาคุณพิเศษ realme Smart Scale และ E-VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี มูลค่ารวม 4,499 บาท และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป

ใครสนใจ realme 8 5G และ realme 8 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากเรียลมี ที่มาพร้อมประสิทธิภาพอันไร้ขีดจำกัด สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ววันนี้ ห้ามพลาด!

ดูสเปกโทรศัพท์มือถือ realme 8 5G เพิ่มเติม