OPPO Find X3 Pro 5G สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของออปโป้ มาพร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลก ที่สามารถถ่ายภาพ และแสดงผลได้หนึ่งพันล้านสี เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้รองรับ 10-bit Full-path Colors Engine ระบบการประมวลสี ตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงการแสดงผลนั่นเอง ด้วยหน้าจอดีที่สุดในโลกตอนนี้ LTPO AMOLED โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้หน้าจอนี้เลยครับ รองรับ 10-bit Colors, HDR10+, รองรับ Adaptive Refresh Rate 5-120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, ความสว่างสูงสุด 1,300 nit ความละเอียด QHD+ นอกจากหน้าจอแล้ว ตัวเครื่องยังสามารถถ่ายภาพแบบ 10-bit Colors ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมดีไซน์สุดพรีเมี่ยม กระจกฝาหลังชิ้นเดียวไร้รอยต่อได้รับแรงบันดาลใจจากอวกาศ รวมทั้งมีความบางและเบามากๆ สำหรับความเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง โดยมีความบางเพียง 8.26 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 193 กรัม เท่านั้น
นอกจากนี้ OPPO Find X3 Pro 5G ยังมาพร้อมสเปคที่สูงมากๆ ครับ ชิปเซ็ตตัวท็อป Qualcomm Snapdragon 888 (5nm) แถมยังมาพร้อมกล้องคุณภาพสูง กล้องหลักคู่เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ที่ OPPO และ Sony พัฒนาร่วมกัน ความละเอียด 50MP + 50MP พร้อมลูกเล่นการถ่ายภาพล้ำสมัย Microlens 60X ในโหมด Microscope (กล้องจุลทรรศน์) ซึ่งช่วยให้เราสนุกกับการถ่ายภาพ ในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน น่าทึ่งและเชื่อว่าจะเป็นเทรนด์การถ่ายภาพแห่งปีอย่างแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charge และสามารถชาร์จให้กับเครื่องอื่นด้วย 10W Reverse Wireless Charging รวมไปถึงลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และรองรับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
OPPO Find X3 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gloss Black (ผิวคล้ายเซรามิกเคลือบเงา) และ Blue (ผิวด้าน) ราคา 33,990 บาท โดยเปิดตัวมาพร้อมหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ OPPO Enco X ซึ่งพัฒนาร่วมกับแบรนด์ Dynaudio ผู้นำด้านการผลิตเครื่องเสียงของประเทศเดนมาร์ก รองรับ Bluetooth 5.2 มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC) และมีโหมดรับเสียงภายนอก Transparency รองรับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 และมาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 11 มม. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5.5 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานคู่กับเคสจะใช้งานได้รวม 25 ชั่วโมงเลยทีเดียว รองรับชาร์จไร้สาย ราคา 5,999 บาท
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP F2.4 26 มม. และกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
50MP F1.8, (Wide), 1/1.56 นิ้ว, Omni Directional PDAF, OIS, เซ็นเซอร์ Sony IMX766 รองรับ 10-bit Colors 50MP F2.2, 110 องศา (Ultrawide), 1/1.56 นิ้ว, Omni Directional PDAF, เซ็นเซอร์ Sony IMX766 13MP F2.4, 52 มม. (Telephoto), 2x Optical Zoom, 5x Hybrid Zoom, 20x Digital Zoom, PDAF รองรับ 10-bit Colors 3MP F3.0 (Microlens) กำลังขยายสูงสุด 60x บันทึกวิดีโอ 4K 30/60FPS, 1080P 30/60/240FPS, Gyro-EIS, HDR และรองรับ 10-bit Colors ฟีเจอร์ 10-bit Colors
ฟีเจอร์วิดีโอ Cinematic Mode
จากการทดสอบผมประทับใจกล้องของ OPPO Find X3 Pro 5G มากๆ เลยครับ เป็นครั้งแรกด้วยนะครับที่มาพร้อมเซ็นเซอร์กล้อง Sony IMX766 ถึง 2 ตัวเป็นเลนส์ Wide และ Ultrawide ความละเอียดสูงถึงตัวละ 50MP ช่วยให้ได้ภาพคุณภาพสูงทุกระยะ มิติของภาพยอดเยี่ยมมากๆ ละลายฉากหลังอย่างเป็นธรรมชาติ โทนสีสวยงาม ภาพกลางคืนก็ยอดเยี่ยม สามารถถ่ายภาพกลางคืนคุณภาพสูงได้หลากหลายระยะ โดยที่คุณภาพไม่ลดทอนลง คุณภาพและฟีเจอร์ของกล้องสมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงจริงๆครับ
แถมยังรองรับการบันทึกภาพและวิดีโอแบบ 10-bit Colors นั่นก็คือจะแสดงผลได้ถึง 1.07 พันล้านสี ให้สีสันที่มากกว่ามาตรฐาน 8-bit ถึง 64 เท่า มีช่วงกว้างของสีมากกว่า ช่วยให้เราสามารถปรับแต่งภาพได้มากกว่ามาตรฐานเดิม ไม่เกิด Color Banding (อาการสีเป็นชั้นๆ)
สำหรับการแสดงผลหนึ่งพันล้านสี 10-bit Full-path Colors Engine นั้นจะมีใน OPPO Find X3 Pro เป็นรุ่นแรกของโลก เป็นที่มาของจุดขายใหม่ล่าสุดของออปโป้ในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เลยครับ ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่สามารถบันทึกภาพนิ่ง และวีดีโอ รวมทั้งแสดงผลแบบ 10-bit Colors ได้อย่างสมบูรณ์
ฟีเจอร์ 10-bit Colors
สำหรับการบันทึกภาพ 10-bit Colors จะบันทึกเป็นสกุล HEIF เท่านั้น ซึ่งทำให้เวลาจะเปิดใช้งานต้องใช้งานผ่านโปรแกรมที่รองรับสกุลนี้ รวมไปถึงต้องใช้หน้าจอที่รองรับ 10-bit Colors ด้วยนะครับ นอกจากภาพนิ่งแล้ว OPPO Find X3 Pro 5G ยังรองรับ CinematicMode โหมดการถ่ายวิดีโอ 1 พันล้านสี สามารถปรับแต่งด้วย LOG, BT2020 และปรับทุกอย่างได้อย่างละเอียดด้วยฟีเจอร์ Manual รวมทั้งรองรับการถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW+ ซึ่งมีการใช้ฟีเจอร์ HDR เข้ามาช่วยให้มีคุณภาพมากขึ้น สามารถปรับแต่งต่อได้มากกว่าเดิม
ลูกเล่นที่เป็นพระเอกของ OPPO Find X3 Pro 5G เลยก็คือกล้อง Microlens ที่มีกำลังขยายมากถึง 60 เท่า จากที่ตาเรามองเห็น หรือเรียกง่ายๆ ก็คือเป็นสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งกล้องจุลทรรศน์มาให้นั่นเอง สามารถทะลวงได้ลึกไปจนถึงใจเธอเลยครับ สามารถมองเห็นในสิ่งที่โดยปกติชีวิตประจำวัน เราไม่มีวันจะได้เห็น งานนี้เรียกได้ว่าถ่ายมาโครมันเด็กๆ ไปแล้ว เดี๋ยวนี้ต้องระดับจุลทรรศน์แล้วละครับ รับรองว่าจะต้องถูกใจกันแน่ๆ แถมจะกลายเป็นเทรนด์ของสมาร์ทโฟนในปีนี้อีกด้วยอย่างแน่นอนเลยครับ มาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากฟีเจอร์ Microlens กันครับ (สามารถซูมเข้าไปได้ถึง 2 ระยะ)
ตัวอย่างภาพถ่ายฟีเจอร์ Microlens จาก OPPO Find X3 Pro 5G
น่าทึ่งมากๆ เลยนะครับ สัมผัสโลกใบจิ๋วที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน แถมยังสามารถบันทึกวิดีโอด้วยฟีเจอร์นี้ได้ด้วยนะครับ บนความละเอียด Full HD 1080P
ตัวอย่าง Selfie Mode จาก OPPO Find X3 Pro 5G
Selfie ปกติ เปรียบเทียบกับฟีเจอร์ Selfie Portrait
ตัวอย่าง Ultra Night Selfie Mode จาก OPPO Find X3 Pro 5G
ไม่ว่าจะแสงน้อยแค่ไหน ก็สามารถถ่าย Selfie ออกมาได้สุดสวย!
ตัวอย่าง Portrait Mode จาก OPPO Find X3 Pro 5G
ละลายฉากหลังได้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ และแม่นยำ มิติของภาพน่าทึ่ง ผิวเนียนใส แถมสกินโทนยังสวยมากๆ ด้วยนะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะต่างๆ จาก OPPO Find X3 Pro 5G
Ultrawide
1X
2X
5X
Ultrawide
1X
2X
5X
จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยนะครับว่า OPPO Find X3 Pro 5G ถ่ายภาพได้สวย เก็บรายละเอียดได้ยอดเยี่ยมทุกระยะ
ตัวอย่าง Portrait Mode พร้อม Filters อันหลากหลายจาก OPPO Find X3 Pro 5G
ต้นฉบับ
ภาพยนตร์
ขาวดำ
โตเกียว
อ่อนหวาน
เวลา
ปารีส
ตัวอย่าง Ultra Night Mode จาก OPPO Find X3 Pro 5G
Ultrawide
1X
2X
5X
Ultra Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนได้อย่างสวยงาม และใช้เวลาประมวลผลน้อยกว่ามาตรฐานทั่วไป และรองรับการถ่ายหลากหลายระยะ
ในส่วนการบันทึกวิดีโอ คุณภาพทำออกมาได้ดีมากครับดูมีมิติ บันทึกความละเอียดสูงสุด 4K 60FPS และแน่นอนครับว่ารองรับการบันทึกไฟล์แบบ 10-bit Colors และมาพร้อมแอปพลิเคชั่น Soloop แอปตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานง่าย และมีคุณภาพสูง ติดตั้งมาให้ใช้งานกันฟรีๆ
ตัวอย่างวิดีโอจาก OPPO Find X3 Pro 5G ในสถานการณ์ใช้งานจริง
VIDEO
OPPO Find X3 Pro 5G มีการเชื่อมต่อ และรายละเอียดสเปคดังนี้
GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100 LTE band 1, 2, 3, 4, 5, 7, 8, 12, 13, 17, 18, 19, 20, 25, 26, 28, 32, 34, 38, 39, 40, 41, 42, 66 5G Dual Mode Dual SIM ใช้โมเดม Snapdragon X60 รองรับคลื่นความถี่ band 1, 3, 5, 7, 8, 20, 28, 38, 40, 41, 77, 78, 79 SA/NSA Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot Bluetooth 5.2, A2DP, LE, aptX HD GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS USB Type-C 3.1, USB On-The-Go หน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ 3216 x 1440 pixels, ความสว่างสูงสุด 1,300 nit, รองรับ Refresh Rate 120Hz สามารถปรับค่า Refresh Rate ต่ำสุดที่ 5Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, ได้คะแนนหน้าจอจาก DisplayMate ระดับ A+ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gloss Black (ผิวเงา) และ Blue (ผิวด้าน) ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 (5 nm) CPU Octa-core (1x2.84 GHz Kryo 680 & 3x2.42 GHz Kryo 680 & 4x1.80 GHz Kryo 680) GPU Adreno 660 RAM 12GB LPDDR5 ROM 256GB UFS 3.1 เซ็นเซอร์ AI Face Access, Fingerprint (under display, optical), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.2 รองรับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC Flash Charge ชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Charge และสามารถชาร์จให้กับเครื่องอื่นด้วย 10W Reverse Wireless Charging OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมคะแนนทดสอบดังนี้
ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 657,185 คะแนน ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AndroBench ทำความเร็ว Storage ในการอ่านอยู่ที่ 1656.21 MB/s และการเขียน 732.56 MB/s (UFS 3.1) รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix HD ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วมาก OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเต็มความจุ 40% ในเวลาเพียงแค่ 10 นาที ชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Charge ชาร์จเต็มความจุ 100% ในเวลา 80 นาที และสามารถชาร์จให้กับเครื่องอื่นด้วย 10W Reverse Wireless Charging เป็นมาตรฐานชาร์จเร็วระดับสูงเลยนะครับ ที่ผมประทับใจมากๆ คือเรื่องจัดสรรพลังงาน สมาร์ทโฟนรุ่นนี้แบตเตอรี่มีความอึดที่สุดสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 เลยครับ สามารถใช้งานได้ตลอดวันสบายๆ ต่อให้เล่นเกมก็ยังไหว (นอกจากจะเล่นเกมทั้งวัน) เป็นจุดขายที่ควรเอามาชูมากๆ เลยครับ เพราะความจุแบตเตอรี่อาจจะดูไม่สูงมาก แต่แบตอึดมากจริงๆ
ดีไซน์ระดับไฮเอนด์ ไร้รอยต่อ
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น บาง และเบามากๆ ฝาหลังกระจกชิ้นเดียวไร้รอยต่อทำให้ดูพรีเมี่ยมกันสุดๆ แถมความโค้งมนทำให้มันเป็นสมาร์ทโฟนที่สวย และจับถือได้ถนัดมืออย่างน่าประทับใจมากจริงๆ สำหรับหีบห่อมาพร้อมกล่องสีเงินดูพรีเมี่ยม ภายในมีตัวเครื่อง, อะแดปเตอร์ 65W SuperVOOC 2.0, สาย USB Type-C, หูฟังแบบ Earbud, เคสซิลิโคน, เข็มจิ้มซิม, คู่มือ และบัตรรับประกันสินค้าระดับ International เข้าศูนย์บริการของออปโป้ได้ทั่วโลก แถมมาให้ครบไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่ม และไม่โดนตัดออกแบบแบรนด์คู่แข่ง แถมยังได้รับบริการระดับโลกอีกด้วย
OPPO Find X3 Pro 5G จัดเต็มหน้าจอ LTPO AMOLED ขอบโค้ง ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ 3,216 x 1,440 pixels, ความสว่างสูงสุด 1,300 nit, รองรับ Refresh Rate 120Hz สามารถปรับค่า Refresh Rate ต่ำสุดที่ 5Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, ได้คะแนนหน้าจอจาก DisplayMate ระดับ A+ เป็นรุ่นแรกเลยนะครับ ที่ใช้หน้าจอตัวนี้ สัมผัสแรกผมประทับใจเลยนะ เป็นหน้าจอที่สวยงามมากๆ รองรับ ColourVision Enhancement ด้วยนะครับ ช่วยให้หน้าจอแสดงผลสีสันได้เที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น สำหรับกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP F2.4 26 มม.
ฝาหลังโค้งมนผลิตจากกระจกชิ้นเดียว ไร้รอยต่อ และสีที่ได้รับมารีวิว จะเป็นสี Blue (ผิวด้าน) เคลือบผิวมาดีมากๆ ครับ เป็นรอยนิ้วมือและคราบมันได้ยากมากๆ ใครที่ชอบสมาร์ทโฟนที่จับถือแล้วไม่สกปรก ผมว่าจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน ในส่วนชุดกล้องจะเว้นเป็นผิวมันเงา มาพร้อมชุดกล้อง 4 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช (บริเวณกล้อง Microscope จะมีวงแหวนแสงช่วยในการถ่ายด้วยครับ) และมีไมโครโฟนอีกตัวบริเวณกล้อง
ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน, ด้านล่างมีช่องใส่ซิม, ไมโครโฟน, USB Type-C และลำโพง เสียงดังมากครับ มีมิติและไม่แตกเลย, ด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง, ด้านขวามีปุ่ม Power
รองรับสัญญาณ 5G มาตรฐานใหม่ของวันนี้
OPPO Find X3 Pro 5G รองรับสัญญาณ 5G ทั้ง 2 ซิมเลยครับ สามารถใช้งาน 5G ได้ครอบคลุมตามที่ผู้ให้บริการเครือข่ายรองรับ จากการทดสอบใช้งาน 5G จากแถวสยามไปจนถึงพระราม 2 สามารถรับสัญญาณได้ปกติ และใช้งานได้อย่างราบรื่น ผมได้ทดสอบสัญญาณที่ในห้องนอนผมเอง ที่พระราม 2 ซอย 60/1 และที่ตึก President Tower ชิดลม บริเวณชั้น 7 ผลที่ออกมาน่าพอใจมากๆ เลยครับ
อินเตอร์เฟส และการเล่นเกม
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อม Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.2 หน้าตาอินเตอร์เฟสสวยงาม และทันสมัยมากยิ่งขึ้น Always-on Display ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย, Dark Mode ที่สามารถปรับแต่งได้มากกว่าที่เคย รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยลายนิ้วมือ (รองรับสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ) และการสแกนใบหน้าที่แม่นยำ รวมทั้งมาพร้อม Game Performance Modes และ Game Space ซึ่งแน่นอนครับว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือรุ่นท๊อป ที่ไม่ว่าเล่นเกมอะไร ก็สามารถปรับได้สูงสุดทุกเกมเลย มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ไม่ว่าจะดูหนัง หรือเล่นเกม และมีลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับสายบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ
OPPO Relax 2.0 แสดงภาพและเสียงเพลง รวมไปถึงเสียงรบกวน ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยให้เรานอนหลับง่ายยิ่งขึ้น หรือเปิดใช้งานตอนเราออกกำลังการอย่างการเล่นโยคะ หรือตอนทำสมาธิ พัฒนาขึ้นจากเวอร์ชั่นเดิม สามารถเลือกเสียงบรรยากาศจากสถานที่จริงในหลายๆประเทศ หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วยนะครับ
จากการทดสอบด้วยเกม ROV ค่าเฟรมเรท 60 FPS แบบนิ่งๆ เลยครับ และเกม PUBG สามารถปรับกราฟิกระดับ Ultra HD และค่าเฟรมเรทระดับ Ultra เรียกได้ว่ามีให้ปรับขนาดไหน ก็ไปได้สุดขนาดนั้นจริงๆครับ รวมทั้งทัชหน้าจอได้อย่างลื่นไหล และติดนิ้ว พร้อมเสียงลำโพงคู่พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos มอบประสบการณ์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมมากๆ
OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธง ที่น่าประทับใจมากที่สุดในเวลานี้
OPPO Find X3 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์สวย ที่เต็มไปด้วยแนวคิดใหม่ๆ นำเสนอแง่มุมที่ไม่เหมือนใคร มีความสดใหม่ในเรื่องของไอเดีย และจุดขายที่ไม่เคยมีใครนำเสนอมาก่อน ทั้งในส่วนของหน้าจอ LTPO AMOLED ที่สามารถรองรับ Refresh Rate 120Hz สามารถปรับค่า Refresh Rate ต่ำสุดที่ 5Hz เป็นรุ่นแรก ได้คะแนนหน้าจอจาก DisplayMate ระดับ A+ และรองรับมาตรฐาน 10-bit Colors ทั้งในส่วนของการแสดงผล และผลิตคอนเทนต์ เป็นรุ่นแรกของโลก มาพร้อมสเปคที่แรงที่สุดในตอนนี้ และกล้องคุณภาพสูง พร้อมมุมมองการถ่ายภาพ Microlens 60X ในโหมด Microscope (กล้องจุลทรรศน์) ที่ไม่เคยมีในสมาร์ทโฟนรุ่นไหนมาก่อน แถมยังเป็นสมาร์ทโฟนที่เลือกใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 แต่แบตเตอรี่อึดมากๆ อย่างน่าทึ่ง สิ่งเหล่านี้คือความพยายามของออปโป้ ที่จะมอบสมาร์ทโฟนเรือธงที่ดีที่สุด ให้กับแฟนๆ ที่เฝ้ารอคอย OPPO Find Series มาโดยตลอด ผมสัมผัสถึงความรู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ ครับ อยากให้แฟนๆ ได้ลองสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก่อนตัดสินใจจริงๆ ผมเชื่อว่าคุณจะชอบ เหมือนที่ผมประทับใจครับ
นอกจากนี้ออปโป้ยังได้จับมือกับ Hans Zimmer นักแต่งเพลง นักแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ชาวเยอรมัน เจ้าของรางวัล Academy Award, Golden Globes, Grammys, American Music Award และ Tony Award มาร่วมสร้างสรรค์เสียงเรียกเข้า และการแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมและจิตวิญญาณของ OPPO Find Series (จะอัพเดทผ่าน OTA ในเร็วๆนี้หลังการเปิดตัว) แฟนๆ เตรียมใช้กันได้เลย
สรุปจุดเด่นของ OPPO Find X3 Pro 5G
รองรับ 5G Dual Mode Dual SIM ใช้โมเดม Snapdragon X60 รองรับคลื่นความถี่ 13 แบนด์ทั้ง SA และ NSA ดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น วัสดุ และงานประกอบคุณภาพสูง เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ที่บาง และเบามาก หน้าจอสวยงาม ความสว่างสูง รองรับการแสดงผล 10-bit Colors สเปคแรงที่สุดในตอนนี้ Snapdragon 888, RAM 12GB LPDDR5, ROM 256GB UFS 3.1 ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos กล้อง 4 เลนส์ คุณภาพสูง กล้องหลักคู่เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ความละเอียด 50MP + 50MP พร้อมลูกเล่นการถ่ายภาพล้ำสมัย Microlens 60X ในโหมด Microscope (กล้องจุลทรรศน์) รองรับการบันทึก 10-bit Colors กล้องหน้าถ่าย Selfie สวยมากๆ แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC Flash Charge ชาร์จไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Charge และสามารถชาร์จให้กับเครื่องอื่นด้วย 10W Reverse Wireless Charging แบตเตอรี่อึดดีมาก ใช้งานได้ยาวนาน OPPO Find X3 Pro 5G สมาร์ทโฟนแฟล็กชิพที่สุดแห่งพันล้านสี วางจำหน่ายในราคา 33,990 บาท พร้อมเปิดให้ พรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันนี้ - 2 เมษายน 2564 รับฟรี! OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W, KEVLAR Case และ Premium Card ที่มาพร้อมสิทธิรับประกัน International warranty service ซ่อมฟรีทั้งในและต่างประเทศ, รับความจุของ OPPO Cloud Service เพิ่มเป็น 1TB ในจำนวนจำกัด และสิทธิรับประกันตัวเครื่องถึง 2 ปี มูลค่ารวม 13,498 บาท
และพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ OPPO Find X3 Pro 5G ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, dtac และ TrueMove H รับส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท
ของสมนาคุณระดับพรีเมี่ยม OPPO AirVOOC Wireless Charger 45W, KEVLAR Case และ Premium Card
OPPO Enco X
OPPO Enco X สุดยอดหูฟังไร้สายที่สร้างสรรค์ร่วมกันกับ
Dynaudio วางจำหน่ายแล้วในราคา 5,999 บาท ณ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/oppothai/