รีวิว Xiaomi Redmi Note 9s รุ่นพิเศษ MFF 2020 มือถือกล้อง 48MP สเปกดี แบตเยอะ ในราคาเริ่มต้น 7,999.-

Xiaomi Redmi Note 9s สมาร์ทโฟนซีรีย์ของ เสี่ยวมี่ ประเทศไทย ที่ถือว่าประสบความสำเร็จด้านยอดขายในไทย รวมทั้งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากแฟนคลับและผู้ใช้งานทั่วไป จนพา "Redmi Note Series" กวาดรางวัลด้านยอดขายทั่วโลกมาแล้ว ซึ่งการันตีความสนใจได้เป็นอย่างดี ส่วนสูตรสำเร็จก็มาจากคีย์เวิรด์ "คุณภาพ สเปก และราคามิตรภาพ" ที่ Redmi Note Series ทำได้ดีมากๆ ดังนั้นการมาของ Redmi Note 9s ที่หวังจะมาสานต่อความสำเร็จของ Redmi Note 8 จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น Redmi Note 9s จึงมาพร้อมพื้นฐานไฮไลท์เหมือนเดิมนั่นคือ "เรื่องของสเปกดี ราคาได้ คุณภาพตามมาตรฐาน" ที่ครั้งนี้นำเอากล้องถ่ายรูป 48MP คุณภาพดีใส่เข้ามาพร้อมกับดีไซน์ใหม่นำระบบสแกนลายนิ้วมือไปอยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง รวมเข้ากับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ของ Qualcomm อย่าง CPU Snapdragon 720G ที่น่าจะช่วยตอบรับความต้องการในการใช้งานได้ดี และรุ่นที่นำมารีวิวครั้งนี้เป็นรุ่นพิเศษ Mi Fan Festival 2020 (MFF 2020) Limited edition ที่มีเพียง 2020 เครื่องทั่วโลกเท่านั้น ความพิเศษจึงอยู่ที่ลวดลาย MFF 2020 ที่สลักอยู่บนฝาหลังตัวเครื่อง ทำให้ใครได้ถือไปใช้งานที่ไหนก็จะเด่นชัดและบ่งบอกเลยว่านี้คือ " Mi Fan " ตัวจริงแน่นอน!

แต่แน่นอนว่าความสวยอย่างเดียวมิอาจชนะใจผู้ใช้งานได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงผลที่ได้จะเป็นอย่างไร สมตามที่คาดหวังไว้ไหม หรือสวยอย่างเดียวกันนะ แล้วมีจุดแตกต่างจากรุ่นปกติหรือไม่? ทั้งหมดนี้ตามผมไปพิสูจน์พร้อมกันผ่านบทความรีวิวนี้ได้เลยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่องเริ่มต้นของ Xiaomi Redmi Note 9s รุ่นพิเศษ MFF 2020 จะให้อุปกรณ์พื้นฐานมาเหมือนกับรุ่นปกติทั้งหมดเลย และตัวกล่องก็ไม่ได้มีความพิเศษหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยข้างนี้มีอุปกรณ์มาให้ดังนี้

• Xiaomi Redmi Note 9s รุ่นพิเศษ MFF 2020
• สายชาร์จ USB-C
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
• เคสตัวเครื่องแบบ Soft case
• คู่มือการใช้งาน
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด

Xiaomi Redmi Note 9s รุ่นพิเศษ MFF 2020 ยังคงมาพร้อมการออกแบบตัวเครื่องเหมือนกับรุ่นปกติ ที่ใช้คอนเซ็ปท์ "Symmetrical" ในการออกแบบ ทำให้ถ้าหากเรามองตัวเครื่องแบบพับครึ่งเข้าหากันซ้าย-ขวา จะเท่ากันพอดี มีขนาดตัวเครื่องกว้าง 76.68 x สูง 165.75 x หนา 8.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 209 กรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ถือจับใช้งานแล้วรู้สึกได้เลยล่ะครับ

ในขณะที่หน้าจอแสดงผล เป็นหน้าจอดีไซน์แบบ Dot Drop ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (FHD+) พาแนลเป็น IPS อัตราส่วน 20:9 ให้ค่าความสว่างที่ 450 Nits ตัวหน้าจอครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 และผ่านมาตรฐานแสงสีฟ้าของ TUV Rheinland 

ส่วนตรงรอย Dot Drop เป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.48) ในขณะไฟแสดงสถานะ LED และเซ็นเซอร์ต่างๆ จะถูกซ่อนไว้ใต

ด้านบนตัวเครื่อง มีพอร์ต IR-Blaster สำหรับใช้เป็นรีโมทสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับ

ด้านล่างตัวเครื่อง มีพอร์ต USB-C, ลำโพงเสียงตัวเครื่อง และรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องถาดซิมการ์ด (Triple Slot)

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดเพิ่ม-ลดเสียง (Volume) และปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) ซึ่งมีแป้นสัมผัสสำหรับใช้สแกนลายนิ้วมืออยู่ 

ด้านหลังตัวเครื่อง ฝาหลังใช้วัสดุเป็นกระจกนะครับ ซึ่งเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 5 แบบเดียวกับด้านหน้าเลย พร้อมกับใช้เทคนิคการลงสีแบบพิเศษมากกว่า 20 ขั้นตอนด้วย ทำให้ดูมีความหรูหราสวยงาม นอกจากนี้ยังใส่ความพิเศษของรุ่นนี้ที่ทำให้เป็นจุดแตกต่างจุดเดียวจากรุ่นปกติคือ สัญลักษณ์ MFF 2020 ที่สลักมาบนฝาหลังตัวเครื่องเลย 

ในขณะที่การวางตำแหน่งของกล้องถ่ายรูป Quad camera อาจดูแปลกตาสักหน่อย เพราะด้วยคอนเซ็ปต์ออกแบบ "สมมาตร" จึงทำให้เรียงตำแหน่งกล้องเป็นสองแถวแถวละสองตัว ส่วนกล้องถ่ายรูปทั้งสี่ประกอบด้วย กล้องความละเอียด 48+8+5+2 ล้านพิกเซล (Main + Ultrawide + Macro + Depth)

• หน้าจอแสดงผล Dot Drop ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (NTSC 84%)
• CPU Snapdragon 720G
• GPU Adreno 618
• RAM 6GB
• ROM 128GB (UFS 2.1)
• รองรับ MicroSD Card แบบ SDXC (512GB)
• Android 10 with MIUI11
• กล้องถ่ายรูป Quad camera ความละเอียด 48+8+5+2 MP (Main F1.8, Ultrawide F.2.2, Macro F2.4, Depth F2.4)
• กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.48)
• WiFi 802.11 a/b/g/n/ac Dual Band 2.4GHz/5GHz
• Bluetooth 5.0
• Dual SIM, Dual VoLTE HD
• Finger scanner
• แบตเตอรี่ 5,020 mAh (Quick Charge 22.5W)

Redmi Note 9s รุ่นพิเศษ MFF 2020 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 10 ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ (UI) MIUI 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทางเสียวมี่ได้ปรับปรุงและพัฒนาหลายส่วนใหม่จากเวอร์ชั่น 10 ที่คนบ่นกันหนาหูถึงบักและปัญหาต่างๆ แต่มาในเวอร์ชั่นใหม่สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้คือ ความสะอาดตาของอินเทอร์เฟซ ทั้งในหน้าโฮมและหน้าเมนูตั้งค่า ถูกจัดเรียงและออกแบบได้เคลียและเรียบง่ายมากขึ้นเยอะเลยล่ะครับ เห็นแล้วน่าใช้งานมากๆ ในขณะที่ประสบการณ์การใช้งานทั่วไป การตอบสนองต่อการทัชและเข้าแอปพลิเคชั่นต่างๆ ไม่มีปัญหาอะไรสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลเลยครับ การเข้าออกแอปพลิเคชั่นก็ทำได้ปกติ ยังไม่เจออาการแอปเด้งหรือปิดตัวขณะใช้งาน

บน MIUI 11 มีการนำโหมดมืดหรือ Dark mode เข้ามาให้ใช้งานกันด้วยนะ แต่ยังคงรองรับแค่บางแอปพลิเคชั่นเท่านั้น หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงฮิตจังสำหรับโหมดหน้าจอแบบนี้ ข้อดีของเค้าก็คือ ช่วยประหยัดพลังงานบนตัวเครื่องได้นะครับ เพราะการเปลี่ยนพื้นหลังทั้งหมดเป็นสีดำจะทำให้หน้าจอลดการเปล่งแสงสีอื่นๆ ลง หลักการคล้ายๆ กับทีวีขาวดำนั่นแหละครับ

ส่วนฟีเจอร์ยอดนิยมของ Android OS อย่างฟีเจอร์โคลนแอปฯ, มัลติทาร์ก หรือล็อกแอปพลิเคชั่น บน MIUI 11 ก็ยังคงใช้งานได้เหมือนเดิม ไม่ได้ถูกตัดออกไปไหน

สำหรับด้านความปลอดภัยต่อข้อมูลบนเครื่อง Redmi Note 9s ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือ, ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า และระบบความปลอดภัยพื้นฐานอย่าง Password, Pin code และ Pattern Lock มาให้เหมือนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วไปเลยครับ อย่างน้อยก็มีการป้องกันระดับหนึ่งช่วยอุ่นใจได้อยู่ไม่น้อย

• ทดสอบด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนทดสอบรวม 279,470 คะแนน
• ทดสอบด้วย Geekbench 5 ได้คะแนนทดสอบ 
  • Single core : 567 คะแนน
  • Multi-Core : 1776 คะแนน
• ทดสอบประสิทธิภาพการ Read and Writre ของหน่วยความจำด้วย AndroBench 
  • Sequential Read 500.43 MB/s
  • Sequential Write 219.37 MB/s
• ทดสอบระดับความละเอียดการรับชมสตรีมมิ่งวีดีโอคอนเทนท์ด้วย DRM Info : Widevine CDM Security Level L1 (FHD)
• ทดสอบเซ็นเซอร์บนตัวเครื่อง ไม่พบเซ็นเซอร์ Pressure และ Temperature sensor
• ทดสอบระบบ Multi-touch รองรับ 10 จุด

ด้านความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง ดูคอนเทนท์ผ่านสตรีมมิ่งต่างๆ ส่วนตัวผมมองว่า Redmi Note 9s ให้การตอบสนองและให้ประสบการณ์ความบันเทิงได้ในระดับมาตรฐานของสมาร์ทโฟนทั่วไปครับ ไม่ได้เด่นแต่ก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย จะติก็คงเป็นเรื่องของเสียงผ่านลำโพง ที่ให้มาเพียงลำโพงล่างตัวเดียวทำให้เสียงที่ขับออกมาต้องเปิดมากถึงระดับ 60-70% จึงจะได้ยินเสียงระดับปกติ แต่ถ้าเอามือไปบังขณะถือดูก็จบ! ทันที

ส่วนจอแสดงผลถึงแม้จะได้จอ IPS ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ รองรับ HDR10 มา แต่เมื่อลองเปิดคลิป Youtube หรือวีดีโออื่นๆ ดู ผมกลับรู้สึกว่าสีสันของหน้าจอแสดงผลจะไปในทางซีดสักหน่อยไม่โดดเด่นมากนัก รวมทั้งความสว่างที่ไม่ค่อยสู้แสงมากนัก ถ้าเจอแดดตอนเที่ยงเป็นอันจบเลย

มากันที่การเล่นเกมกันครับ Redmi Note 9s เลือกใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 720G ซึ่งเป็นชิปรุ่นภาคต่อของซีรีย์ 710 และ 712 ที่ถูกพัฒนาปรับปรุงใหม่ล่าสุดพร้อมกับนำความสามารถ "Elite game" ที่อยู่บนชิปรุ่นท็อปของค่ายบางส่วนมาใส่ลงไปด้วย ทำให้ชื่อรุ่นมีตัว "G" เข้ามานั่นเอง และเมื่อทำงานร่วมกับ GPU Adreno 618 ที่ทาง Qualcomm ยืนยันว่ามีคุณสมบัติและความสามารถน้องๆ รุ่นพี่ 8xx Series แล้ว ยิ่งการันตีความนิ่ง เรียบ ขณะเล่นเกมได้เป็นอย่างดีครับ และเมื่อลองเล่นจริงก็เป็นอย่างทีได้เกริ่นไป ตัวเกมมีความสมูธ การคุมเฟรมเรททำได้นิ่งมากๆ รวมไปถึงอุณหภูมิขณะเล่นต่อเนื่องติดต่อกันก็คุมได้ดี ทำให้เวลาเล่น 3-4 ชั่วโมงติดต่อกันจะรู้สึกอุ่นๆ เท่านั้น

การทัชการตอบสนองและความแม่นยำขณะเล่นเกม ส่วนตัวถือกลางๆ ครับไม่ดีไม่แย่ เป็นไปตามมาตฐานและราคาของมือถือเลย ยังคงมีความดีเลย์ ทัชไม่ติดมืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกหรืออรรถรสขณะเล่นเกมหายไปครับ ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจจะจับผิดอะไร คุณก็จะรู้สึกสนุกไปกับเกมได้ปกติแน่นอน

Xiaomi Redmi Note 9s มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Quad camera ที่ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.8), กล้องมุมกว้างพิเศษ Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F2.2, FOV 119 องศา), กล้องเลนส์มาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (F2.4) และกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล 

เป็นกล้องที่เก่งในที่ที่มีแสงสว่างจัดๆ เลยล่ะครับ ภาพที่ให้ออกมาจะสดใสคุมแสงได้ดีทีเดียว ส่วนในร่มผมมองว่า ตัวกล้องเหมาะกับงานถ่ายพวกโมเดลการ์ตูน ฟิกเกอร์ต่างๆ นะ ตัวการ์ตูนจะมีมิติสวยดีครับ ส่วนถ้าถ่ายธรรมชาติต่างๆ สีสันก็มีเกินจริงไปสักหน่อยอย่างเช่น สีของท้องฟ้า ใบไม้ หรือแม่น้ำจะมีการปรุงแต่งจาก AI เข้าไปด้วย ทำให้ภาพดูสดมากๆ เมื่อดูบนมือถือ แต่ถ้าเทียบกับของจริงอาจไม่ตกปกเท่าไรนัก ด้านวีดีโอถึงแม้จะมีกันสั่นด้วยซอฟต์แวร์มาให้แต่เมื่อใช้งานจริงก็ยังเอาไม่อยู่บางสถานการณ์เหมือนกัน ภาพรวมของกล้องผมมองว่า เป็นไป "มาตรฐาน" ที่ควรจะเป็นครับ ออกไปในทางดีเกินราคาด้วยซ้ำนะ ลองไปดูภาพตัวอย่างจากกล้องกันครับ

• โหมดถ่ายภาพ : Night mode, Portrait Treater mode, Document mode, 48MP HD, Ultrawide, Beautify
• ระดับความละเอียดของวีดีโอที่บันทึกได้ : 4K@30Fps, 1080P@60Fps, 1080P@30Fps, 720P@30Fps
• Slow-motion : 1080P@120Fps, 720P@960Fps, 720P@240Fps, 720P@120Fps

กล้องหน้าของ Xiaomi Redmi Note 9s นั้นให้ความละเอียดมาที่ 16 ล้านพิกเซล (F2.48) มีโหมดถ่ายภาพอย่าง Beautify และ Portrait mode มาให้ด้วย รวมทั้งยังสามารถถ่าย Slow-Motion วีดีโอด้วยกล้องหน้าได้ด้วยนะ! อันนี้ชอบมากๆ 

Xiaomi Redmi Note 9s รุ่นพิเศษ MFF 2020 เปิดวางจำหน่ายไปในช่วง Mi Fan Festival 2020 วันที่ 7-9 เมษายนที่ผ่านมาบน Lazada และ JD Central ซึ่งมีเพียง 2020 เครื่องเท่านั้น ซึ่งใครที่พลาดไปก็สามารถซื้อรุ่นปกติมาใช้งานก็ได้ครับไม่แตกต่างกันเลย โดย Redmi Note 9s รุ่นปกติจะวางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB | ROM 128GB ส่วนรุ่น RAM 4GB | ROM 64GB วางจำหน่ายในราคา 6,499 บาท ใครสะดวกรุ่นไหนก็พุ่งตัวไปจับจองกันได้เลยครับ!

ดูโทรศัพท์มือถือทุกรุ่น Xiaomi