พบกับ HMD หรือ Human Mobile Devices พร้อมต้อนรับ บาร์บี้! HMD นวัตกรรมเพื่อผู้คนและอีกมากมายที่ตอบโจทย์การใช้งานคนรุ่นใหม่

HMD ได้เผยว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรเมื่อ "Human Mobile Devices" หรือ HMD กำลังจะพัฒนาโทรศัพท์ในราคาที่เหมาะสม สวยงาม เป็นที่ถูกใจ และสามารถซ่อมแซมได้ง่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแบรนด์ ช่วยผู้บริโภคได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องใช้เงินมาก ซึ่งหมายความว่าการสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีของผู้บริโภค เช่น ด้านขยะอิเล็กทรอนิกส์ ความเหนื่อยล้าจากการใช้งานดิจิตอล และทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น

กล่าวโดยสรุปคือ ผู้ผลิตโทรศัพท์ Nokia ตั้งแต่ปี 2559 จะพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ของ HMD ในขณะที่จะยังคงจำหน่ายโทรศัพท์ Nokia ต่อไป รวมทั้งจะร่วมงานกับพันธมิตรที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์การเป็นมัลติแบรนด์

ฌอง-ฟรองซัวส์ บาริล, ร่วมก่อตั้ง HMD ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลา 7 ปี ของการเดินทางที่ยาวนานของ HMD ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนช่วยให้ HMD บรรลุผลสำเร็จอย่างมาก และเรามีแผนที่จะทำมากมายกว่านั้น เมื่อเราเสนอโลกให้รู้จัก HMD ใหม่ ต้องการเป็นตัวช่วยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่ดีและมีกำไรจากการประกอบการ ด้วยการใช้กลยุทธ์แบบมัลติแบรนด์  พัฒนาสร้างสรรค์อุปกรณ์ HMD ใหม่ พร้อมกับการสร้างโทรศัพท์ Nokia และการร่วมงานกับพันธมิตรระดับโลกที่รู้จักกันเป็นอย่างดี"

เป็นครั้งแรกที่ตลาดมือถือถดถอยลงติดต่อกันเป็นเวลาสองปี เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย แต่ HMD กลับสวนกระแสได้ด้วยโครงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญ ทำให้สามารถปรับปรุงความสามารถในการดำเนินงานให้ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในปี 2566 ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการนำที่สดใหม่ การเป็นผู้นำที่เต็มไปด้วยพลัง การโฟกัสที่ชัดเจนในแง่กลยุทธ์ การคงความคล่องตัว และการปรับปรุงในการควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้น

การสนับสนุนให้สามารถซ่อมอุปกรณ์ได้เองที่บ้านในช่วงฤดูร้อนนี้

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นปัญหาสำคัญในปัจจุบันสำหรับผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยี HMD ผลิตโทรศัพท์ที่ไม่เพียงแต่ดึงดูดสายตา แต่ยังมุ่งเป้าไปที่การเป็นมิตรกับโลกและเงินในกระเป๋าผู้คน HMD ได้รับรางวัลจาก TIME Magazine ให้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ที่สามารถซ่อมได้ และเป็นโทรศัพท์ที่ใช้งานได้นานขึ้น HMD กำลังผลักดันขีดจำกัด เพื่อทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงประสบการณ์การซ่อมแซมได้

โดยเฉลี่ย 66% ของประชากรในสหราชอาณาจักร ใช้ชีวิตกับโทรศัพท์ที่หน้าจอแตก ในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ อุปกรณ์ที่ซ่อมได้เป็น 1:4 ของยอดขายโทรศัพท์มือถือของ HMD ในปี 2566 และในปีนี้ HMD คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3:4 อุปกรณ์ในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยคาดหวังว่าครึ่งหนึ่งของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่จำหน่ายทั่วโลกจะสามารถซ่อมได้

ในฤดูร้อนนี้ HMD ได้ยกระดับการซ่อมแซมขึ้นไปอีกขั้น โดยลดจำนวนขั้นตอนที่จำเป็นในการซ่อมหน้าจอลง ให้ผู้ใช้งานสามารถลากับปัญหาการไม่มีโทรศัพท์ใช้เพราะหน้าจอแตก และสามารถซ่อมหน้าจอที่แตกได้ด้วยตัวเอง หรือ 'FIY' (Fix it Yourself)

เจมส์ โรบินสัน, รองประธานบริหาร HMD ยุโรป, อเมริกาและเอนเตอร์ไพรส์ กล่าวว่า "หนึ่งปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวโทรศัพท์ที่สามารถซ่อมได้รุ่นแรกและได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม หลังจากผ่านไป 12 เดือน เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อประสบการณ์ใหม่ในการซ่อมแซม ขณะที่ผู้คนต้องการอุปกรณ์ที่ซ่อมง่ายมากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้โทรศัพท์ได้นานขึ้น และลดความยุ่งยากหรือการล่าช้าเมื่อต้องซ่อมแซมโทรศัพท์ เราตื่นเต้นที่จะทำให้กระบวนการดังกล่าวง่ายที่สุด โดยจะเริ่มต้นในฤดูร้อนนี้"

HMD มุ่งเน้นทุกอย่างที่เกี่ยวกับนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งหมายถึงการทำให้เครื่องมือดิจิทัลที่มักจะมีราคาแพง สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอตัวเลือกการชำระเงินใหม่ ๆ ให้กับโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟน หรือการเพิ่มความสามารถในการจัดหาไมโครไฟแนนซ์ให้กับสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติของ HMD ในด้านนวัตกรรมเพื่อผู้คนที่มีจุดประสงค์

ก่อนการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ HMD ในฤดูร้อนนี้ บริษัทได้นำเสนอแพลตฟอร์ม HMD Fusion ซึ่งทำให้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนเข้าถึงได้มากขึ้นและยืดหยุ่นสำหรับทุกคน

วันนี้ เรากำลังเปิดตัวเวอร์ชันแรกของชุดเครื่องมือพัฒนาที่ช่วยให้ทุกคนสามารถออกแบบและพัฒนาโซลูชัน นวัตกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับ HMD Fusion และบริษัทฯ กำลังทำให้เรื่องดังกล่าวพร้อมใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ เพื่อให้ชุมชนสามารถเริ่มสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองได้ HMD เริ่มต้นที่จะนำนวัตกรรมแบบเปิดมาใช้ ทำให้แน่ใจว่าผู้คนและธุรกิจสามารถเพิ่มความสามารถของโทรศัพท์ให้ตรงกับความต้องการได้

เราต้องการเป็นผู้นำในการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ของผู้คน ซึ่งเป็นก้าวกระโดดที่ยากเกินกว่าจะทำได้โดยลำพัง ศักยภาพนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเคสที่ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น ชุดแฟชั่นที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคล การเปลี่ยนโทรศัพท์ให้เป็นเทอร์มินัลขายปลีก การจัดระเบียบการแจ้งเตือนตามสีเพื่อลดความเครียด หรือไอเดียสร้างสรรค์อื่น ๆ

Human Mobile Devices หรือ HMD มุ่งมั่นที่จะกำหนดความหมายของเวลาที่ใช้กับหน้าจอใหม่ นำเสนอความสามารถในการซ่อมแซม และสร้างพันธมิตรที่มีความหมายอย่างแท้จริงเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์การเป็นมัลติแบรนด์

ผู้บริโภคจะยังได้เห็นโทรศัพท์ Nokia อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ จะนำเสนอโทรศัพท์ที่โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์กลับมาในฤดูร้อนนี้ พร้อมจะได้เห็นกลุ่มแบรนด์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากมายภายในปีนี้

ลาร์ส ซิลเบอร์บาวเออร์, หัวหน้าฝ่ายการตลาด HMD กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของเราในนวัตกรรมที่เน้นผู้คนเป็นศูนย์กลางได้กระตุ้นการขยายตัวของเรา ปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ สำหรับเราและผู้ร่วมงาน รวมทั้งเป็นกำลังขับเคลื่อนหลังจากการนำกลยุทธ์มัลติแบรนด์มาใช้ เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมและรู้สึกตื่นเต้นกับการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ ๆ ที่มีพลังงานและความคล่องตัวเช่น Mattel Barbie และ HMD กำลังออกเดินทางเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยโทรศัพท์พับรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในฤดูร้อนนี้"

ในขณะที่เราเริ่มต้นความร่วมมือใหม่ HMD จะยังคงทำงานภายใต้ค่านิยมหลัก โดยมองหาความร่วมมือที่สอดคล้องกับภารกิจ ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ ยินดีที่จะประกาศความร่วมมือที่เปลี่ยนแปลงเกมกับ Mattel และกับ Barbie เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เสริมสร้างการเชื่อมต่อ และสร้างความเงียบสงบในขณะที่โลกดิจิทัลเต็มไปด้วยเสียงรบกวนและการขัดจังหวะ

โทรศัพท์พับ Barbie จะเปิดตัวในฤดูร้อน 2567 นี้ พร้อมด้วยสไตล์ ความทรงจำในอดีต และการดีท็อกซ์ดิจิทัลที่จำเป็นอย่างยิ่ง โทรศัพท์ฟีเจอร์ย้อนยุคนี้จะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมสมาร์ทโฟนและจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ฮอตที่สุดในฤดูร้อนนี้

รูธ เฮนริเกซ, หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ผู้บริโภค การจัดพิมพ์ และ LBE, Mattel EMEA กล่าวว่า “ที่แก่นแท้ของ Mattel คือการออกแบบและนวัตกรรม ความร่วมมือล่าสุดนี้เป็นอีกหนึ่งก้าว ที่ก้าวไปข้างหน้าในทิศทางดังกล่าว การเปิดตัว Barbie x HMD จะเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับแฟน ๆ บาร์บี้ทุกวัย เราตื่นเต้นที่จะเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวครั้งแรกในงานเผยต่อโลกในงาน Mobile World Congress”