ภายหลังการประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้หลายประเทศกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ผู้คนทั่วโลกเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Revenge Travel" หรือ "การเที่ยวล้างแค้น" ปรากฏการณ์ที่ผู้คนทั่วโลกปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นจากการไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาเกือบ 3 ปี ในรูปแบบของการกลับมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคักอีกครั้ง นอกจากนี้ ข้อมูลจากเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย หนึ่งในพาร์ทเนอร์หลักของ แรบบิท แคร์ พบว่าจำนวนวันเดินทางเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อหนึ่งทริปในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% โดยประมาณ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะกำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอีกครั้ง วันนี้เรารวบรวมจุดหมายปลายทางยอดฮิต 5 ลำดับแรกโดยอ้างอิงจากสถิติยอดการซื้อประกันการเดินทางผ่านแรบบิท แคร์ ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายนในปีนี้ พบว่า ผู้คนซื้อประกันการเดินทางในกลุ่มประเทศเชงเก้นหรือประเทศในทวีปยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น มากที่สุดเป็นลำดับที่ 1 สำหรับลำดับที่ 2 คือ ประกันการเดินทางในประเทศเกาหลีใต้ ลำดับที่ 3 คือ
ประกันการเดินทางในประเทศสิงคโปร์ ลำดับที่ 4 คือ ประกันการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น และลำดับที่ 5 คือ ประกันการเดินทางในประเทศอเมริกา รายชื่อประเทศยอดฮิตเหล่านี้อาจกำลังเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน และเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
แรบบิท แคร์ ขอแชร์เช็คลิสต์ 5 ข้อ ที่จะช่วยให้ทุกคนได้เตรียมตัววางแผนทริปอย่างรอบคอบเพื่อความพร้อมก่อนออกเดินทาง
1) ศึกษาเงื่อนไขของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวและเตรียมเอกสารให้พร้อม
แม้หลายประเทศจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่บางประเทศก็ยังคงมีเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศ นอกเหนือจากการเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับยืนยันตัวตน เช่น หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต และวีซ่าแล้ว ควรศึกษาข้อมูลของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว และจัดเตรียมเอกสารตามเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศปลายทาง โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2) ตรวจเช็คสภาพอากาศ และจัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นก่อนออกเดินทาง
การตรวจเช็คสภาพอากาศของเมืองที่จะเดินทางไปนั้นถือว่ามีความสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถจัดเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือยารักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นยาสามัญทั่วไป ยาประจำตัว หรือแม้แต่ยาที่ช่วยบรรเทาอาการโควิด-19 เบื้องต้น เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาอมแก้เจ็บคอ เนื่องจากการซื้อยาบางประเภทในต่างประเทศอาจทำได้ยากเพราะต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ นอกจากนี้ ควรศึกษาบัญชียาต้องห้ามของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศนั้น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำยาที่ผิดกฎหมายติดตัวไปด้วย และอย่าลืมหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ล้างมือ เมื่อต้องเดินทางในพื้นที่แออัด
3) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยว
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันจำนวนมากที่ช่วยอำนวยความสะดวกในขณะเดินทางไปต่างประเทศ เช่น แอปแปลภาษา Google Translate ที่สามารถแปลทั้งเสียงและภาพได้มากกว่า 100 ภาษาทั่วโลก แอป Google Maps ที่อำนวยความสะดวกในการใช้แผนที่และวางแผนการเดินทางที่เหมาะสม และสุดท้ายคือแอปสำหรับเป็นทางเลือกในการเดินทาง เช่น แอป Uber หรือบริการรถแท็กซี่ท้องถิ่น หรือแอป Trainline ที่ช่วยจัดการตั๋วในการเดินทางด้วยรถไฟในยุโรปง่ายขึ้น แอปเหล่านี้จะช่วยเสริมให้เรามีประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สะดวกมากยิ่งขึ้น
4) เลือกใช้บัตรเครดิตและสิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่าในการเดินทางท่องเที่ยวของคุณ
หลายคนคงทราบกันดีว่าบัตรเครดิตช่วยให้เราใช้จ่ายได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น บัตรเครดิตยังมีสิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางอีกมากที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบ เราได้รวบรวมสิทธิพิเศษบางส่วนที่ช่วยเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวมาให้ดังนี้
- สิทธิ์รับบริการรถลีมูซีนรับหรือส่งที่สนามบิน เช่น บัตรเครดิต Citi Prestige ที่ให้บริการรถลีมูซีน รับ-ส่ง ณ สนามบินที่ร่วมรายการในเอเชีย แปซิฟิก 2 ครั้ง/ปี และรับบริการลีมูซีน ณ สนามบินในกรุงเทพฯ หรือภูเก็ต เพิ่ม 1 ครั้ง สามารถตรวจสอบโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของซิตี้แบงค์
- สิทธิ์รับเครดิตเงินคืนและสะสมแต้มเพิ่มหลายเท่าจากยอดการใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศ เช่น บัตรเครดิต The Passion Kasikorn ซึ่งรับคะแนนสามเท่าจากการใช้จ่ายด้วยยอดสกุลเงินต่างประเทศหรือบัตรเครดิต KBank JCB Platinum รับคะแนนสองเท่าเมื่อจ่ายด้วยสกุลเงิน JPY ที่ประเทศญี่ปุ่น
- สิทธิพิเศษที่คุ้มครองด้านการเดินทาง เช่น บัตรเครดิต UOB Premiere ที่มีประกันการเดินทางคุ้มครองสูงสุด 20,000,000 บาท หรือ บัตรเครดิต KTC Cashback Platinum Mastercard ที่มีประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีสิทธิ์อัพเกรดตั๋วที่นั่ง สิทธิ์รับอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน สิทธิ์บริการโหลดกระเป๋าเดินทางฟรี สิทธิ์ส่วนลดแพ็กเกจท่องเที่ยว สิทธิ์การสะสมคะแนนจากไมล์ของสายการบิน สิทธิ์เข้ารับบริการห้องรับรองที่สนามบินทั้งในและต่างประเทศ การเลือกบัตรเครดิตที่ตรงกับไลฟ์สไตล์จึงเป็นการเติมเต็มประสบการณ์และเพิ่มความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
5) ซื้อประกันภัยการเดินทางเสริมความอุ่นใจ
ถือเป็นอีกหนึ่งเช็คลิสต์ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นประกันที่จ่ายเบี้ยต่ำแต่ความคุ้มครองสูง หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ประกันการเดินทางนั้นไม่ได้คุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยจากการเดินทางเท่านั้น แต่คุ้มครองครอบคลุมถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง เช่น ประกันการเดินทางจาก เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย ที่คุ้มครองตามจริงและครอบคลุมตั้งแต่กรณีที่ขอวีซ่าไม่ผ่าน ยินดีคืนค่าเบี้ยประกัน หรือหากไฟลท์ดีเลย์ ประกันคุ้มครองสูงสุดถึง 35,000 บาท กรณีกระเป๋าเดินทางเสียหายหรือสูญหาย ประกันคุ้มครองสูงสุดถึง 60,000 บาท และกรณีกระเป๋าเดินทางล่าช้า ประกันคุ้มครองสูงสุดถึง 35,000 บาท นอกจากนี้ยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วย สูงสุด 5,000,000 บาท พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ประกันการเดินทางจึงถือว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยเสริมความอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
แรบบิท แคร์ ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณในทุกการเดินทาง ในฐานะผู้ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ประกันและการเงินอย่างครบวงจร ช่วยให้เหล่า CFO (Chief Family Officer) หรือผู้บริหารครอบครัว สามารถเปรียบเทียบและเลือกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและประกันการเดินทางได้ง่าย เหมาะสม และคุ้มค่าที่สุดให้กับคนในครอบครัว ด้วยคุณสมบัติของระบบปฏิบัติการความแคร์ของแรบบิท แคร์ หรือ "CareOS" ที่ช่วยคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคลและรวดเร็วภายใน 30 วินาที ช่วยประหยัดเวลาในการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์และทำให้คุณมีเวลาในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางมากขึ้น พร้อมโปรโมชั่นมากมายเมื่อสมัครบัตรเครดิตและประกันการเดินทางที่แรบบิท แคร์ (
rabbitcare.com)