เอซุส (ASUS) เผยโฉมผลิตภัณฑ์พร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ณ งาน
'Seeing An Incredible Future' ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ชูสุดยอดนวัตกรรมล่าสุด
ASUS Spatial Vision เทคโนโลยีจอภาพ 3 มิติของโน้ตบุ๊กที่ไม่ต้องใช้แว่นตัวแรกของโลก มอบประสบการณ์ด้านภาพและการทำงานขั้นสุดสำหรับนักสร้างสรรค์ พร้อมเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้แฟนๆด้วยโซลูชั่นสำหรับนักสร้างสรรค์ด้วยโน้ตบุ๊กที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์ล่าสุด 13th Gen Intel® Core™ i9 HX ซีรีส์ และการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX™ 40 ซีรีส์
โดยโน้ตบุ๊กที่เปิดตัวในงานได้แก่ ProArt Studiobook 16 3D OLED (H7604), Zenbook Pro 16X OLED (UX7602BZ), Zenbook Pro 14 OLED (UX6404), Zenbook 14X OLED (UX3404), Vivobook Pro 16X 3D OLED (K6604), ProArt Display OLED PA32DCM และ ProArt Display PA279CRV รวมถึงโน้ตบุ๊กกลุ่มองค์กรสำหรับการใช้งานในโลกธุรกิจได้แก่ ExpertBook B9 OLED (B9403CVA) โน้ตบุ๊กบางเบา พร้อมประสิทธิภาพทรงพลังออกแบบสำหรับผู้บริหาร, ASUS Chromebook Vibe CX34 Flip (CX3401FBA) โครมบุ๊กอเนกประสงค์ เล่นเกมส์ได้ นอกจากนี้ยังเอาใจสายเกมมิ่งด้วยสินค้าใหม่ TUF Gaming A15/17 (FA507/707) และ F15/17 (FX507/707) ที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์สูงสุด Intel Core i9-13900H หรือ AMD Ryzen™ 9 Zen 4 และการ์ดจอล่าสุด GeForce RTX 40 ซีรีส์ ส่งมอบที่สุดของประสิทธิภาพอันเร็วแรง เพื่อประสบการณ์เล่นเกมส์สุดเพลิดเพลิน
ยกระดับเทคโนโลยีสู่นวัตกรรมที่ยั่งยืน
กว่าสิบปีมาแล้วที่เอซุสได้เริ่มแนะนำโน้ตบุ๊กที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เป็นศูนย์ ตามด้วยโน้ตบุ๊กลดโลกร้อนจากวัสดุธรรมชาติกับ ASUS Bamboo-Series และล่าสุดในปี 2022 กับโน้ตบุ๊กธุรกิจที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น เอซุสยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจพร้อมด้วยการคงไว้ซึ่งความยั่งยืนเพื่อชีวิตที่ดีสำหรับทุกคน และในการผลิตสินค้าที่ทนทานมากขึ้น เอซุสยังสามารถลดปริมาณขยะและช่วยยืดอายุการใช้งานของโน้ตบุ๊ก โดยโน้ตบุ๊กทุกตัวของเอซุสในปี 2023 จะได้รับมาตรฐานทางการทหารพร้อมส่งมอบอายุการใช้งานที่คงทน ยาวนาน นอกจากนี้เอซุสยังร่วมกับบริษัท Ishizuka Glass จากประเทศญี่ปุ่นในการผลิตโน้ตบุ๊กที่ใช้สารเคลือบ ยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสและแบคทีเรียได้ถึง 99% รวมถึงโควิท 19 ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยได้รับการทดสอบกับเชื้อไวรัสอย่างเชื้อไข้หวัดใหญ่ และ H1N1 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ใช้งานได้อย่างถูกสุขลักษณะยิ่งขึ้น
สุดยอดซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับครีเอเตอร์
ทุกรุ่นล่าสุดของ ProArt Studiobook, Zenbook Pro และ Vivobook Pro จะมาพร้อมการ์ดจอ GeForce RTX 40 ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NVIDIA Studio สำหรับเหล่าครีเอเตอร์ ช่วยในการใช้งานกว่า 110 แอปพลิเคชัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ใช้ AI อย่าง Omniverse™, Canvas และ Broadcast
เอซุสยังแนะนำ ASUS Spatial Vision หรือเทคโนโลยี 3D OLED ที่ไม่ต้องใช้แว่นตัวแรกของโลก ให้ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์แบบสามมิติบนเครื่องโน้ตบุ๊ก โดยสามารถสลับการใช้งานได้ทั้งแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยการทำงานของครีเอเตอร์ให้เห็นรายละเอียดและเอฟเฟ็กต์ของแบบได้โดยตรงบนหน้าจอ ช่วยประหยัดเวลาให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมนวัตกรรมแห่งความคิดสร้างสรรค์
ASUS ProArt Studiobook 16 3D OLED (H7604): 3D OLED Mobile workstation สำหรับครีเอเตอร์
โน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 16 นิ้ว 3.2K 120 Hz 3D OLED ตัวแรกของโลก เหล่าเกมเมอร์สและครีเอเตอร์สามารถรับชมภาพ, วีดีโอ หรือแม้กระทั่งเล่นเกมส์ได้แบบสามมิติโดยไม่ต้องใส่แว่น พร้อมสลับการใช้งานแบบ 2 มิติ ได้อย่างรวดเร็ว โดยหน้าจอ OLED ของเครื่องยังให้ภาพและรายละเอียดสีสันสมจริง มาพร้อมโปรเซสเซอร์ใหม่ 13th Gen Intel Core i9-13980HX, NVIDIA GeForce RTX 40 Series และหน่วยความจำอัปเกรดได้สูงสุด 64 GB ช่วยทั้งงานออกแบบและงานสร้างสรรค์ได้แบบไร้ขอบเขต ทั้งยังมาพร้อม ASUS Dial ปุ่มหมุนแบบโรตารี่ช่วยในการควบคุมแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างสะดวก
ASUS Vivobook Pro 16 3D OLED (K6604): พร้อมสร้างสรรค์งานแบบ 3D
โน้ตบุ๊กขนาด 16 นิ้ว สำหรับครีเอเตอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ASUS Spatial Vision หน้าจอ 3D OLED 3.2K 120 Hz display, โปรเซสเซอร์ 13th Gen Intel Core i9-13980HX, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series พร้อมด้วย MUX Switch และไดรเวอร์ NVIDIA Studio ช่วยเร่งประสิทธิภาพเครื่องขณะเล่นเกมส์ พร้อมระบบระบายความร้อนที่อัปเกรดมาใช้พลังงานได้ถึง 150W (TDP) อย่างปลอดภัย
ASUS Zenbook Pro 16X OLED (UX7602BZ): Zenbook ที่ทรงพลังที่สุด
เอซุสร่วมกับอินเทลในการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่อง Zenbook Pro 16X OLED (UX7602BZ) ใหม่สำหรับปี 2023 ด้วยความมุ่งมั่นให้เป็นรุ่นที่ทรงพลังสูงสุด กับการออกแบบดีไซน์ล่าสุด ASUS Supernova System-on-Module (SoM) ซึ่งให้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดเมนบอร์ดลง 38% เพื่อเพิ่มพื้นที่และประสิทธิภาพการระบายความร้อนของระบบ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของการ์ดจอให้ใช้พลังงานได้สูงยิ่งขึ้น พร้อมทำงานได้ทรงพลังด้วยโปรเซสเซอร์ 13th Gen Intel Core i9-13905H, NVIDIA GeForce RTX 40 Series, LPDDR5X DRAM ขนาด 32 GB
Zenbook Pro 16X OLED ตัวใหม่ปี 2023 นี้จะช่วยการทำงานตัดต่อวีดีโอ และการเรนเดอร์งาน 3D ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มาพร้อมหน้าจอสัมผัสอัตราส่วน 16:10 3.2K 120Hz OLED HDR และกลไก Active Aerodynamic System Ultra (AAS Ultra) ช่วยยกคีย์บอร์ดทำมุมเพื่อการพิมพ์งานที่สบายมือยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยในด้านการระบายความร้อน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้ยังมีไฟ RGB สีขาวบริเวณแป้นคีย์บอร์ด และนวัตกรรม ASUS Dial ช่วยในการทำงานแอปพลิเคชัน Adobe ต่างๆ
ASUS Zenbook Pro 14 OLED (UX6404) และ Zenbook 14X OLED (UX3404): โดดเด่นด้านประสิทธิภาพและการพกพา
Zenbook Pro 14 OLED (UX6404) มีน้ำหนักเพียง 1.65 kg ตัวเครื่องบาง 1.8 cm แต่ให้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูง โดดเด่นทั้งด้านภาพ, นวัตกรรม และขนาดกะทัดรัด พกพาง่ายสำหรับครีเอเตอร์ที่ต้องเดินทางอยู่เสมอ มาพร้อมหน้าจอ 2.8K 120 Hz OLED Dolby Vision® มาพร้อมโปรเซสเซอร์ 13th Gen Intel Core i9-13900H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 40 Series นอกจากนี้ยังนำเสนอฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยยกระดับการสร้างสรรค์งานอีกมากมาย อาทิ ASUS DialPad ที่ช่วยในการควบคุมการทำงานแอปพลิเคชัน, ปากกา ASUS Pen 2.0, พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน และแบตเตอรี่ขนาด 76 Wh สำหรับการพกพาไปใช้งานข้างนอก
Zenbook 14X OLED (UX3404) ตัวเครื่องบางเบา ประสิทธิภาพสูง เปิดตัวพร้อมกัน 2 สี ได้แก่สีเบจ (Sandstone Beige) และสีเทา (Inkwell Gray) ทำงานได้ไหลลื่นด้วยโปรเซสเซอร์ล่าสุด 13th Gen Intel Core i9-13900H, การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050, LPDDR5 ขนาด 32 GB และหน่วยเก็บข้อมูลขนาด 1 TB PCIe 4.0 SSD พร้อมหน้าจอขนาด 14.5 นิ้ว 16:10 2.8K 120 Hz OLED HDR ขอบจอบาง พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 70 Wh เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน
โซลูชั่นทรงพลังตอบโจทย์การทำงานทางธุรกิจ
ASUS ExpertBook B9 OLED (B9403CVA): น้ำหนักบางเบา พร้อมประสิทธิภาพการทำงานตอบโจทย์สายนักธุรกิจ
โน้ตบุ๊กโลหะล้วนเครื่องแรกที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดวัสดุการผลิตได้ถึง 29% และลดระยะเวลาการผลิตลงกว่า 75% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันยังใช้ทรัพยากรน้อยลง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซด์
ExpertBook B9 OLED ยังมาพร้อมโปรเซสเซอร์ 13th Gen Intel รองรับ Intel vPro® platform พร้อมอัตราส่วนหน้าจอ 16:10 OLED นอกจากนี้ผู้ใช้ยังอุ่นใจได้กับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร อาทิ การล๊อกอินด้วยใบหน้า, NFC, Kensington lock, บานเปิด-ปิดกล้องเว็บแคม, การสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น พร้อมไฟ LED บริเวณฝาเครื่องแจ้งเตือนสถานะ เมื่อผู้ใช้กำลังทำงาน หรือติดประชุม เป็นโน้ตบุ๊กที่ตอบโจทย์การทำงานในแต่ละวัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ
ในปี 2023 นี้ โน้ตบุ๊กทุกตัวในตระกูล ExpertBook จะได้รับมาตรฐานความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (EPEAT Gold) และฉลากประหยัดพลังงาน (Energy Star) เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ASUS Chromebook Vibe CX34 Flip (CX3401FBA): เพิ่มความอเนกประสงค์เพื่อประสบการณ์เล่นเกมส์อันยอดเยี่ยม
พร้อมนำเสนอทั้งภาพที่สวยสมจริงและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกมส์บนคลาวด์ หรือการใช้งานระหว่างการเดินทาง มาพร้อมหน้าจอ 16:10, 144 Hz WUXGA display บานพับ 360 องศา พร้อมไฟ RGB คีย์บอร์ด และเทคโนโลยี WiFi 6E มาพร้อมโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core i7 processor และหน่วยความจำ 16 GB ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมส์บนคลาวด์ หรือใช้ทำงานอเนกประสงค์ได้อย่างครอบคลุม โดยสามารถเข้าถึงเกมส์บนคลาวด์ได้กว่า 1,400 เกมส์ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานแอปพลิเคชันบน Google Workspace หรือ Google Play ได้อย่างสะดวก โดยใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
โน้ตบุ๊ก ASUS TUF, เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
ASUS TUF Gaming A16 Advantage Edition (FA617) เป็นเกมมิ่งโน้ตบุ๊กขุมกำลัง AMD ที่ได้รับการปรับแต่งทางวิศวกรรมมาสำหรับผู้ที่ต้องการสตรีมอย่างสะดวกสบายและเล่นเกมใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยซีพียู Ryzen 9 ภายใต้สถาปัตยกรรม Zen 4, ใช้ GPU สูงสุดแบบ Radeon RDNA3, และกราฟิก AMD Smart Access เกมเมอส์สามารถดำดิ่งเข้าสู่คอนเทนต์ที่ชื่นชอบได้มากยิ่งขึ้นด้วยขอบหน้าจอที่บางกว่าเดิม ให้สัดส่วนพื้นที่หน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องสูงถึง 90% และความละเอียดหน้าจอสูงสุดถึง QHD พร้อมรีเฟรชเรท 240 Hz และยังมาพร้อมกับพัดลม Arc Flow Fans™ แบบ 84 ใบพัด ทำงานร่วมกับฮีทไปป์สูงสุดถึง 7 เส้น และช่องระบายความร้อนสี่ช่องที่จะระบายความร้อนออกนอกตัวเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
A16 Advantage Edition ยังรองรับฮาร์ดแวร์แบบ next-gen ด้วย USB4®, สตอเรจแบบ PCIe 4.0 x4 สูงสุดถึง 2 TB, และแรม DDR5 4800MHz โดยทั้งช่องแรมและสตอเรจนั้นถูกออกแบบให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด, สีตัวเครื่องใหม่ Sandstorm ได้รับแรงบันดาลใจจากธีมทางการทหารของ ROG, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 90 Wh, USB-C ที่รองรับ Power Delivery ทั้งหมดนี้ถูกรวมอยู่ในตัวเครื่องที่แข็งแกร่งทนทาน นอกจากนั้นแล้วยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเกมเมอส์จะได้รับทุกรายละเอียดของความบันเทิง, ระบบตัดเสียงรบกวนสองทิศทาง Two-Way AI Noise Cancelation ยังช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนในทุกสถานการณ์
ASUS TUF Gaming F15/17 และ A15/17 (FX507/707 และ FA507/707): ทรงพลังและทนทาน
กระโจนเข้าสู่สมรภูมิด้วย ASUS TUF Gaming F15/17 และ A15/17 โดย F15/17 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Core i9-13900H และ TUF Gaming A15/17 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 Zen 4 ทำให้เกมเมอส์สามารถสตรีมและทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างง่ายดาย เล่นเกมได้ภาพลื่นไหลขั้นสุดด้วยกราฟิกการ์ด GeForce RTX 40 Series ที่ให้เฟรมเรทที่สูงเสถียรต่อเนื่องในเกมสมัยใหม่แม้ในระดับความละเอียดสูงถึง 1440p และยังมี MUX switch ที่ทำงานร่วมกับ NVIDIA Advanced Optimus ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง DLSS เกมที่รองรับจะได้เฟรมเรทที่สูงขึ้นอีกขั้นเพื่อภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลสูงสุด
ทั้งสี่รุ่นที่ได้เปิดตัวในปี 2023 นี้มาพร้อมกับ MUX Switch ที่ทำงานคู่กับ NVIDIA Advanced Optimus ให้ความมั่นใจถึงประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอีกขั้น โดย MUX Switch ทำให้ตัวเครื่องสามารถตัดการทำงานของกราฟิกการ์ดออนบอร์ดในขณะเล่นเกม เพิ่มประสิทธิภาพและลดความหน่วง และ NVIDIA Advanced Optimus เป็นส่วนเสริมให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ ให้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นสำหรับเหล่าเกมเมอส์โดยไม่ต้องปรับแต่งใดๆ
ประสิทธิภาพระดับสูงย่อมต้องการระบบระบายความร้อนที่เหนือชั้น ส่วนที่สำคัญของระบบระบายความร้อนคือพัดลมคู่แบบ Arc Flow Fans ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ 84 ใบพัด โดยใบพัดมีความบางเพียง 0.1 มม. เพื่อลดเสียงรบกวน พัดลมคู่นี้ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของลมได้มากขึ้นถึง 13% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าและทำงานได้เงียบเชียบกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วยังทำให้สามารถเข้าถึงกำลังไฟของกราฟิกการ์ดที่สูงยิ่งขึ้นเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
*กำหนดการวางจำหน่ายจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง (สินค้าบางรุ่นไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย)