อินเทลได้ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel® Core™ เจนเนอเรชั่น 13 ใหม่ล่าสุดที่งาน CES 2023 หรือ Consumer Electronics Show 2023 พร้อมขุมพลังที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่เหนือชั้นสำหรับการใช้งานกับแพลตฟอร์มโมบายล์ต่าง ๆ โดยเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 รุ่นใหม่ จำนวน 32 ตัว ชูฟีเจอร์อัดแน่นพร้อมมอบศักยภาพการทำงานที่ตอบโจทย์แล็ปท็อปในทุกเซกเมนต์
นางสาวมิเชล จอห์นสตัน โฮลท์เฮาส์ (Michelle Johnston Holthaus) รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Client Computing Group ของอินเทล กล่าวว่า "ประสิทธิภาพการทำงานอันเหนือชั้นและความสามารถในการขยายขนาดได้ตามต้องการของตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ช่วยขับเคลื่อนศักยภาพแพลตฟอร์มชั้นนำให้กับแล็ปท็อปได้ทุกรุ่น ด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติชั้นนำในอุตสาหกรรมและระบบนิเวศเครือข่ายพันธมิตรระดับโลกของอินเทล ทุกคนจะสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานชั้นยอดได้ทุกที่บนอุปกรณ์พีซีในขนาดใหม่ ๆ ที่หลากหลายและแตกต่างกัน ไม่ว่าผู้ใช้จะเล่นเกมหรือสร้างสรรค์ผลงานจากที่ใดก็ตาม”
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเทคโนโลยีชั้นนำในอุตสาหกรรม
อินเทลยังคงเดินหน้าก้าวข้ามขีดจำกัด พร้อมขยายขุมพลังประสิทธิภาพและศักยภาพแห่งการประมวลผลเพื่อเหล่าเกมเมอร์และนักสร้างสรรค์เนื้อหาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core H-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 รวมถึงโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่มีจำนวนคอร์ถึง 24 คอร์สำหรับการใช้งานกับแล็ปท็อป เมื่อผสานเข้ากับฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างเครื่องมือรองรับหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 ฟังก์ชันการเชื่อมต่อที่เหนือชั้นและรองรับการใช้งาน PCIe Gen 5 จึงทำให้โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core HX เจนเนอเรชั่น 13 กลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโมบายล์เกมที่ดีที่สุดในโลกในตอนนี้
ไฮไลต์เด่นของโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core HX ใหม่ มีดังต่อไปนี้
ด้วยขุมพลังประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ที่ให้ความเร็วแรงมากกว่าเจนเนอเรชั่น 12 ถึง 5 เท่า ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้แล็ปท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core HX กว่า 60 รุ่น ในการสตรีม สร้างสรรค์ผลงาน หรือเล่นเกมได้เป็นอย่างดีและราบรื่นตามกำลังสูงสุด
โปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้แล็ปท็อปดีไซน์บาง-น้ำหนักเบา
นอกจากนี้ อินเทลยังได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ เจนเนอเรชั่น 13 ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูงพร้อมดีไซน์บางเฉียบให้สร้างสรรค์งานหรือเล่นเกมได้ทุกที่ โดยมีไฮไลต์สำคัญดังนี้
นับเป็นครั้งแรกที่แล็ปท็อปที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่างหน่วยประมวลผลวิสัยทัศน์ Intel® Movidius vision processing unit (VPU) ซึ่งเป็นผลจากการประสานงานด้านวิศวกรรมร่วมกับบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในโหมด Window Studio Effects ใหม่ล่าสุด หน่วย VPU ใหม่นี้สามารถช่วยในการประมวลผลที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent: AI) เพื่อการทำงานร่วมกันของระบบและการสตรีมระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ทำให้หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) และหน่วยประมวลผลภาพกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) มีพื้นที่ว่างสำหรับเวิร์กโหลดอื่น ๆ หรือการทำงานแบบมัลติทาสกิ้งอื่น ๆ แทนได้
โปรเซสเซอร์โมบายล์ H-ซีรีส์, P-ซีรีส์ และ U-ซีรีส์ใหม่ จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของแล็ปท็อปรุ่นใหม่ให้ทำงานได้ราบรื่นกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อปที่มีดีไซน์บางเฉียบและน้ำหนักเบาแต่ประสิทธิภาพสูง หรืออุปกรณ์ 2-in-1 แบบพับได้ และฟอร์มแฟคเตอร์อื่น ๆ อีกมากมาย โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีแล็ปท็อปดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกันกว่า300 รุ่นเปิดตัวในตลาด เช่น Acer, Asus, Dell, HP, Lenovo, MSI, Razer, Republic of Gamers, Samsung และอื่น ๆ
สำหรับ IoT edge นั้น โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 มีฟีเจอร์รูปแบบใหม่ ๆ ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย รวมถึงระบบปฏิบัติการที่ควบคุมอุณหภูมิของอุปกรณ์ให้ทำงานได้ต่อเนื่องยาวนานมากขึ้น และ CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมความสามารถด้านกราฟิกและประสิทธิภาพ AI ที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีก การศึกษา การดูแลสุขภาพ การบินและอวกาศ อุตสาหกรรม และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยโปรเซสเซอร์ตัวใหม่นี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการผสานรวมเวิร์กโหลดที่ดีขึ้นด้วยคอร์และเธรดที่มากขึ้น ส่งผลให้แอปพลิเคชันสามารถทำงานบนอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเครื่องเดียว
แล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่ผสานพลัง Intel Evo มาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น และประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น
อินเทลยังคงเดินหน้าในการยกระดับมาตรฐานแล็ปท็อปและอุปกรณ์แบบพกพาอื่น ๆ ตามมาตรฐานสัญลักษณ์ Intel® Evo™ ภายใต้ข้อกำหนดใหม่นี้ แล็ปท็อปมาตรฐาน Intel Evo ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่
นอกจาก Intel Evo จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับบนแล็ปท็อปแล้ว โครงการ Engineered for Intel Evo ยังได้ขยายมาตรฐานระดับสูงในการตรวจสอบรับรอง และร่วมมือกับผู้ผลิตชั้นนำมากมาย นอกจากแท่นเชื่อมต่อ Thunderbolt 4, จอภาพ, ที่เก็บข้อมูล และชุดหูฟังไร้สายแล้ว อุปกรณ์เสริมใหม่ ๆ เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด และอุปกรณ์กระจายสัญญาณ Wi-Fi จากพันธมิตรหลักยังเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย
โปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล
อินเทลตอกย้ำประสบการณ์การใช้งานโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปที่ดีที่สุดในโลก ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในวันนี้ ต่อเนื่องจากการเปิดตัวตระกูลเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่น 13 ครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กับโปรเซสเซอร์ K-ซีรีส์ และล่าสุดกับเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์ Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 ที่ใช้พลังงานขนาด 35 วัตต์ และ 65 วัตต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้พีซีทั่วไปมีทางเลือกสำหรับประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นในขณะที่ยังคงให้ประสิทธิภาพชั้นยอดสำหรับการเล่นเกม การสร้างสรรค์เนื้อหา และประสิทธิภาพการใช้งาน
โดยมีไฮไลต์สำคัญดังต่อไปนี้
ความถี่สูงสุดถึง 5.6 GHz, 24 คอร์/ 32 เธรด – พร้อมการเปิดตัวคอร์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับโปรเซสเซอร์หลักอย่าง Intel Core i5 และหน่วยความจำแคช L2 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อนำมารวมกันจะสามารถมอบประสิทธิภาพการทำงานแบบเธรดเดียวได้สูงสุดถึง 11% และแบบหลายเธรดได้สูงสุดถึง 34% เมื่อเทียบกับ Intel Core เจนเนอเรชั่น 12 non-K โปรเซสเซอร์11 ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเจนเนอเรชั่นก่อนหน้า (gen-over-gen) เหล่านี้ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าโปรเซสเซอร์ Intel Core non-K เจนเนอเรชั่น 13 ขนาด 35 วัตต์และ 65 วัตต์รุ่นใหม่จะมอบประสิทธิภาพที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นทั้งในการเล่นเกมและการสร้างสรรค์เนื้อหาสำหรับผู้ใช้พีซีทั่วไป
อินเทลเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel N-ซีรีส์ ใหม่ สำหรับการประมวลผลระดับเริ่มต้น
หลังจากประกาศเลิกใช้ชื่อ Intel Pentium and Intel Celeron branding ในการทำตลาด วันนี้อินเทลได้เปิดตัว Intel Processor และ Intel Core i3 รุ่นใหม่ในตระกูล N-ซีรีส์ สำหรับใช้งานด้านการศึกษา การ์ประมวลผลระดับเริ่มต้น และแอปพลิเคชัน IoT แบบ Edge Native โดยมีฟีเจอร์สำคัญดังนี้
โปรเซสเซอร์เหล่านี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ในแวดวงการศึกษาและผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอุปกรณ์ที่เน้นความคุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้ โดยยังคงต้องการสมรรถนะและการใช้งานที่มีคุณภาพสูงในด้านต่าง ๆ เช่น การทำงานผ่านวิดีโอและประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งในปี 2566 นี้ คาดว่า Acer, Dell, HP, Lenovo และ ASUS จะนำเสนอแล็ปท็อปรุ่นใหม่ ๆ กว่า 50 รุ่นออกสู่ตลาด โดยที่อินเทลยังคงความเป็นผู้นำด้านความร่วมมือเพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับ ChromeOS และ Windows ต่อไปในอนาคต
สำหรับแอปพลิเคชัน IoT แบบ Edge Native นั้น โปรเซสเซอร์ Intel Atom® x7000E Series, โปรเซสเซอร์ Intel N-ซีรีส์ และ Intel Core i3 N-ซีรีส์ ช่วยอนุมานข้อมูลการเรียนรู้เชิงลึก รวมถึงประมวลผลกราฟิก และประมวลผลสื่อได้ด้วยโปรเซสเซอร์ที่ประหยัดพลังงานได้ดีที่สุดจากอินเทล โดยโปรเซสเซอร์เหล่านี้ใช้สำหรับป้ายดิจิทัลร้านค้า ตู้คีออสก์ ระบบชำระเงิน อุปกรณ์สร้างภาพทางการแพทย์แบบพกพา อุปกรณ์เครื่องใช้แบบอัตโนมัติในสำนักงาน เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร รวมไปถึงอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เช่น อุปกรณ์บันทึกวิดีโอบนเครือข่ายและกล่อง AI สำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐาน
เสียงสนับสนุนจากองค์กรต่าง ๆ
นายปานอส ปาเนย์ (Panos Panay) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “เรายังคงเดินหน้าผนึกความร่วมมือกับอินเทลในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังบนระบบ Windows 11 รวมถึงทุกผลิตภัณฑ์ที่อินเทลได้เปิดตัวในวันนี้ เรายินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพสำคัญในโซลูชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการสนับสนุน Windows ให้รองรับการใช้งาน Intel Hybrid Guided Scheduler ได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์การใช้งานใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพและคุณค่า เช่น Intel Movidius VPU ที่ปลดล็อกการทำงานของ AI ไปสู่มิติใหม่ที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ด้วยโหมด Windows Studio ซึ่งถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้
ประเภทคุกกี้ อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ |
ยินยอม / ไม่ยินยอม |
---|---|
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ (Strictly Necessary) |
|
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ (Functionality) |
|
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์ (Performance & Analytics) |
|
คุกกี้เพื่อการตลาด (Marketing) |