Apple เปิดตัว
AirPods Pro รุ่นที่ 2 ซึ่งถือเป็น AirPods ที่ล้ำหน้า ด้วยพลังของชิป H2 ใหม่ ปลดล็อกประสิทธิภาพด้านเสียงที่เหนือชั้น ซึ่งรวมถึงการอัปเกรดครั้งสำคัญสำหรับการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอก ระบบเสียงตามตำแหน่งที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งขึ้น พร้อมเพลิดเพลินไปกับการควบคุมแบบสัมผัสในการควบคุมการเล่นไฟล์มีเดียและปรับระดับเสียงได้โดยตรงจากก้านหูฟัง รวมถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น เคสชาร์จแบบใหม่ และจุกหูฟังอีกหนึ่งขนาดใหม่ เพื่อความกระชับพอดียิ่งขึ้น
ระบบเสียงสุดล้ำ
พลังของชิป H2 ใหม่ที่อยู่ในหูฟังน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด จะมอบประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้นและตัดเสียงรบกวนได้เหนือกว่า AirPods Pro รุ่นก่อนหน้าสูงสุดถึง 2 เท่า โดย AirPods Pro รุ่นที่ 2 ให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกและเสียงที่คมชัดครอบคลุมช่วงความถี่ที่กว้างขึ้น ด้วยไดรเวอร์เสียงความผิดเพี้ยนต่ำและตัวขยายสัญญาณแบบเฉพาะ และยังมากับจุกหูฟังที่มีความกระชับพอดีภายในหู (พร้อมมีจุกหูฟังขนาดเล็กพิเศษให้มาด้วย) เพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
โหมดฟังเสียงภายนอกช่วยให้ผู้ฟังต่อติดและรับรู้ความเป็นไปของโลกรอบๆ ตัว โดยชิป H2 จะช่วยในการประมวลผลบนอุปกรณ์ ช่วยลดเสียงรบกวนจากรอบข้าง เช่น เสียงไซเรนจากยานพาหนะที่วิ่งผ่านไป เสียงเครื่องมือก่อสร้าง หรือแม้แต่เสียงจากลำโพงในงานคอนเสิร์ต เพื่อการรับฟังที่สบายหูในทุกๆ วัน
เสียงที่แม่นยำและเต็มอิ่มสมจริง
ประสบการณ์การฟังของ AirPods เต็มอิ่มสมจริงยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงตามตำแหน่ง โดยผู้ใช้จะได้รับรู้เสียงแบบเฉพาะตัว ตามขนาดและรูปทรงของศีรษะและหูของแต่ละคน โดยใช้กล้อง TrueDepth บน iPhone สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวสำหรับระบบเสียงตามตำแหน่ง ที่จะช่วยมอบประสบการณ์ด้านการฟังที่ปรับแต่งขึ้นสำหรับผู้ฟังเป็นการเฉพาะ ผู้ใช้งานจะได้เพลิดเพลินกับเพลง ภาพยนตร์และรายการทีวีในระบบเสียงตามตำแหน่ง พร้อมด้วยการติดตามศีรษะแบบไดนามิกบนทั้ง iPhone, iPad, Mac และ Apple TV
คุณสมบัติต่างๆ เพื่อความสะดวกสบาย
การจับคู่แบบทันทีกับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมด ทำให้การตั้งค่ากลายเป็นเรื่องง่าย ในขณะเดียวกัน ส่วนเฉพาะสำหรับ AirPods ในการตั้งค่าของ iOS ก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและควบคุมคุณสมบัติต่างๆ ของ AirPods ได้ง่ายๆ
ผู้ใช้สามารถควบคุมการเล่นไฟล์มีเดียและปรับระดับเสียงให้ดังขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อีกเครื่อง ด้วยการควบคุมแบบสัมผัสบน AirPods Pro เพียงแค่เลื่อนนิ้วขึ้นหรือลงที่ก้านหูฟังเบาๆ ก็สามารถปรับระดับเสียงได้อย่างรวดเร็ว บีบที่ก้านเพื่อเปลี่ยนเพลง รับสายโทรศัพท์ และอีกมากมาย หรือพูดว่า "หวัดดี Siri" แล้วก็ออกคำสั่งได้เลยแบบไม่ต้องใช้มือ เซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนังในตัวที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งเปิดหรือปิดการเล่นได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังมอบระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นอีกด้วย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น
AirPods Pro มาพร้อมระยะเวลาการฟังที่นานขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 1.5 ชั่วโมง โดยสามารถฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และด้วยการชาร์จจากเคสเพิ่มเติมอีก 4 ครั้ง ก็สามารถเพลิดเพลินกับการฟังได้สูงสุดถึง 30 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ซึ่งนานกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 6 ชั่วโมงเต็ม
และเพื่อความคล่องตัวในระหว่างการเดินทาง ผู้ใช้สามารถชาร์จ AirPods Pro ด้วยที่ชาร์จสำหรับ Apple Watch เพิ่มเติมจากที่ชาร์จ MagSafe, แผ่นรองชาร์จที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน Qi หรือสาย Lightning ได้
เคสชาร์จ MagSafe แบบใหม่หมด
AirPods Pro มาพร้อมเคสชาร์จที่ออกแบบขึ้นใหม่ มีความสามารถในการทนเหงื่อและน้ำ และยังมีห่วงคล้องสาย (ขายแยก) เพื่อให้อยู่ใกล้แค่เอื้อมเสมอ ด้วยคุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งจริง ผู้ใช้ที่มี iPhone ที่มีชิป U1 จะสามารถค้นหาตำแหน่งของเคสชาร์จได้ผ่านการบอกทิศทาง เคสชาร์จยังมาพร้อมลำโพงในตัวที่สามารถส่งเสียงได้ดังกว่าเดิมเพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น
พร้อมปรับแต่งเคสชาร์จในสไตล์ของตัวเองด้วย Memoji แบบเฉพาะตัว ซึ่งรวมถึง Memoji แบบกำหนดเอง, Animoji และสติกเกอร์ โดยสามารถเริ่มต้นการสลักได้ด้วยการสร้างและอัปโหลด Memoji ในแอป Apple Store
ราคาและการวางจำหน่าย
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) จะพร้อมให้สั่งซื้อในเร็วๆ นี้ ในราคา 8,990 บาท
และ AirPods (รุ่นที่ 3) พร้อมเคสชาร์จ Lightning ตอนนี้มีจำหน่ายแล้ว ในราคา 6,790 บาท ส่วน AirPods (รุ่นที่ 3) พร้อมเคสชาร์จ MagSafe มีวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท
อ่านบทความเปิดตัวสินค้าใหม่จาก Apple