เตรียมพบกับมุมมองที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหน จากปฏิบัติการกู้ชีพที่ทั้งโลกจับตา ในคลิปตัวอย่างอย่างเป็นทางการของลิมิเต็ดซีรีส์ ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง (Thai Cave Rescue) ก่อนไปสัมผัสเรื่องราวของความกล้าหาญที่คุณยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ในวันที่ 22 กันยายนนี้
ถ่ายทอดเรื่องราวที่รอบด้านและสมจริง เติมเต็มรายละเอียดแบบลงลึกกว่าที่เคย
ผลงานลิมิเต็ดซีรีส์ 6 ตอนโดยผู้จัดและผู้เขียนบท ไมเคิล รัสเซลล์ กันน์ และ ดาน่า เลอดูซ์ มิลเลอร์ เรื่องนี้ จะพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของภารกิจที่ถ้ำหลวงแบบลงลึกกว่าที่เคย โดยนอกจากจะถ่ายทำในประเทศไทยทั้งหมด รวมถึงในสถานที่จริงที่ถ้ำหลวงด้วยแล้ว ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง ยังเป็นการนำประสบการณ์ของโค้ชเอกและเด็กๆ ทั้ง 12 คนจากทีมหมูป่ามาถ่ายทอดโดยละเอียดเป็นครั้งแรก ครอบคลุมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในถ้ำ และเรื่องราวจากชีวิตของพวกเขา
เพื่อให้ ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง เล่าเรื่องออกมาได้อย่างสมจริงที่สุด ทีมผู้สร้างไม่เพียงเก็บรายละเอียดจากการสัมภาษณ์น้องๆ ทีมหมูป่าเท่านั้น แต่ยังมีการถ่ายทำบางฉากในบ้านพักจริงของสมาชิกทีมหมูป่า รวมถึงมีการใช้อุปกรณ์ประกอบฉากที่มาจากเหตุการณ์จริงเมื่อปี 2561 ด้วย ในส่วนของการถ่ายทำฉากดำน้ำภายในถ้ำ ก็ได้เชิญ ดร. ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์และนักดำน้ำชาวออสเตรเลียผู้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการกู้ภัยของจริง มาร่วมถ่ายทำในฐานะสแตนด์อินของ ร็อดเจอร์ คอร์เซอร์ นักแสดงที่รับบทเป็น ดร. แฮร์ริสในซีรีส์ เพื่อให้ฉากดำน้ำออกมาตรงตามเหตุการณ์จริงมากที่สุด
ดร. ริชาร์ด แฮร์ริส (ขวา) รับหน้าที่เป็นสแตนด์อินของ ร็อดเจอร์ คอร์เซอร์ (ซ้าย)
นักแสดงที่รับบทเป็น ดร. แฮร์ริสในซีรีส์
ผลงานจากทีมผู้สร้างสายเลือดไทย เพิ่มความสมจริงในทุกแง่มุม
นอกเหนือไปจากการกำกับโดย บาส พูนพิริยะ และ เควิน ตันเจริญ สองผู้กำกับเชื้อสายไทยแล้ว ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง (Thai Cave Rescue) ยังรวมทีมนักแสดงและทีมงานชาวไทยไว้อย่างล้นหลาม ให้สมกับความตั้งใจในการถ่ายทอดเรื่องจริงของภารกิจอันน่ามหัศจรรย์ที่คนทั่วโลกยังไม่ลืมเลือน
เนื่องจากการถ่ายทำภายในถ้ำจริงเป็นไปได้ยาก ทีมงานจึงทำการสำรวจภายในถ้ำหลวงเป็นเวลาถึง 3 สัปดาห์เต็ม ทั้งยังออกสำรวจพื้นที่ป่าเขาโดยรอบที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนี้อีกหลายเดือน ก่อนที่จะนำข้อมูลทั้งหมดมารังสรรค์ให้เป็นฉากภายในถ้ำหลวงที่แทบจะถอดแบบอยากมาจากของจริงทั้งหมดเพื่อใช้ในการถ่ายทำ ซึ่งจะต้องใช้เทคโนโลยีการสแกนด้วยเลเซอร์อย่าง 3D LIDAR scan มาช่วย
ความพยายามทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมผู้สร้างในการถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าทึ่งนี้ออกมาให้ดีที่สุด โดยดาน่า เลอดูซ์ มิลเลอร์ หนึ่งในผู้จัด เผยว่า "ฉันต้องขอขอบคุณทุกคนที่บุกป่าฝ่าดง ทั้งลุยโคลนลึกถึงเข่า เข้าไปสำรวจถ้ำ ทั้งเจอกับฝนที่กระหน่ำครั้งละหลายชั่วโมง ก่อนจะใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อทำเลเซอร์สแกนทั้งถ้ำและนำมาสร้างขึ้นใหม่ในโรงถ่าย หลายๆ คนต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงดำฝ่าทั้งน้ำและหิน ตรวจโควิดกันนับครั้งไม่ถ้วน และใส่หน้ากาก N95 ออกกองถ่ายในอากาศชื้นวันแล้ววันเล่า เพื่อให้เราได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้โลกรู้"
ร่วมดำดิ่งไปกับเรื่องราวทุกแง่มุมที่ยังไม่เคยถูกเล่าขาน ของภารกิจกู้ชีพที่ดึงความสนใจจากผู้คนทั่วโลกใน ถ้ำหลวง: ภารกิจแห่งความหวัง (Thai Cave Rescue) 22 กันยายนนี้ที่ Netflix