Apple เปิดตัว MacBook Air และ MacBook Pro 13 นิ้ว ชิป M2 ใหม่ ในงาน WWDC22 ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

Apple เปิดตัว MacBook Air และ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นอัปเดต มาพร้อมชิป M2 ใหม่ ยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดย MacBook Air มาในดีไซน์บางเฉียบ 4 สีสวยงาม ได้แก่ สีเงิน, สีสตาร์ไลท์, สีเทาสเปซเกรย์ และสีมิดไมท์ พร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 นิ้ว, กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p, ระบบเสียง 4 ลำโพง, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง การชาร์จแบบ MagSafe และอีกมากมาย ในส่วนของ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มาพร้อมหน่วยความจำแบบรวมขนาดสูงสุด 24GB, การเร่งความเร็ว ProRes และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ โดยแล็ปท็อปทั้ง 2 รุ่น จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้

ชิป M2 คือจุดเริ่มต้นเจเนอเรชั่นที่ 2 สำหรับชิปตระกูล M ของ Apple และพัฒนาต่อยอดมาจากชิป M1 โดยชิปใหม่นี้มาพร้อมทั้งการประหยัดพลังงานชั้นแนวหน้า สถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวม และเทคโนโลยีแบบเฉพาะ ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถให้กับโน้ตบุ๊ก MacBook Air และ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ส่วนจุดเด่นของชิป M2 นั้นอยู่ที่ CPU แบบ 8-core เจเนอเรชั่นถัดไปที่ล้ำหน้าทั้งคอร์ด้านประสิทธิภาพและคอร์ด้านประหยัดพลังงาน รวมถึง GPU เจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple สูงสุด 10 คอร์ หรือมากกว่าชิป M1 สองคอร์ ยิ่งกว่านั้นชิป M2 ยังมีแบนด์วิดท์สำหรับหน่วยความจำแบบรวม 100GB/s และรองรับหน่วยความจำแบบรวมขนาดสูงสุด 24GB ที่รวดเร็ว ทำให้สามารถรับมือกับเวิร์กโหลดที่ใหญ่และซับซ้อนขึ้นได้ง่าย และชิป M2 ยังออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์ด้านวิดีโออย่างชัดเจนโดยการเพิ่มมีเดียเอนจิ้นเจเนอเรชั่นถัดไป พร้อมด้วยเอนจิ้นวิดีโอ ProRes ที่จะเร่งความเร็วให้กับการเข้ารหัสและถอดรหัสด้วยฮาร์ดแวร์ ทำให้ระบบที่ใช้ชิป M2 สามารถเล่นวิดีโอระดับ 4K และ 8K ได้หลายสตรีมยิ่งขึ้น

MacBook Air มาในดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบเพียง 11.3 มม. และหนักเพียง 1.24 กก. อีกทั้งยังเป็นตัวเครื่องชิ้นเดียวแบบ Unibody ที่ทำจากอะลูมิเนียมทั้งหมด ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน และในดีไซน์ที่บางและเบานี้ยังผสานรวมส่วนประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้ขนาดโดยรวมลดลงถึง 20% ส่วนชิป M2 ก็โดดเด่นเรื่องการประหยัดพลังงาน จึงสามารถใส่ความสามารถทั้งหมดของ MacBook Air ไว้ในดีไซน์แบบไม่มีพัดลมที่ทำงานเงียบได้

MagSafe กลับมาสู่ MacBook Air ทำให้ผู้ใช้มีพอร์ตเฉพาะสำหรับการชาร์จที่ต่อง่าย และยังปกป้อง MacBook Air ขณะเสียบปลั๊กอยู่ด้วย เพราะสายชาร์จจะหลุดออกอย่างรวดเร็วหากถูกดึงโดยไม่ตั้งใจ และ MacBook Air ยังมีพอร์ต Thunderbolt จำนวน 2 พอร์ต สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมหลายประเภท และช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. ที่รองรับหูฟังที่มีค่าความต้านทานสูง นอกจากนี้ Magic Keyboard ยังมาพร้อมแถวปุ่มฟังก์ชั่นแบบเต็มขนาดและ Touch ID รวมถึงแทร็คแพด Force Touch ที่มีขนาดใหญ่ด้วย

MacBook Air ใหม่ มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 นิ้ว ที่ขยายไปใกล้ขอบด้านข้างมากขึ้น และขึ้นไปจนถึงบริเวณรอบกล้องเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับแถบเมนู ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือจอภาพที่ใหญ่ขึ้นพร้อมขอบจอที่บางลงมาก ช่วยให้ผู้ใช้มีพื้นที่บนหน้าจอมากขึ้น พร้อมความสว่างที่สูงถึง 500 นิต ซึ่งสว่างกว่ารุ่นก่อน 25% นอกจากนี้ จอภาพใหม่ยังรองรับการแสดงสีสัน 1 พันล้านสี ทั้งรูปภาพและภาพยนตร์จึงดูสดใสสมจริง

MacBook Air มาพร้อมกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p ใหม่ที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้มีความละเอียดและประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยสูงขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับพลังการประมวลผลของโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพที่ล้ำสมัยของชิป M2 แล้ว รับรองเลยว่าผู้ใช้จะดูดีขณะวิดีโอคอลแน่นอน

MacBook Air ยังมีระบบเสียง 4 ลำโพงด้วย ซึ่งการจะใส่ไว้ในตัวเครื่องที่บางขนาดนี้ จำเป็นต้องรวมลำโพงและไมโครโฟนเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งอยู่ระหว่างคีย์บอร์ดและจอภาพโดยที่ยังคงสามารถสร้างประสบการณ์ด้านเสียงที่ดียิ่งขึ้นด้วย โดยมีชุดไมโครโฟน 3 ตัวจับเสียงที่ชัดใสโดยใช้อัลกอริทึมแบบบีมฟอร์มิ่ง ในขณะที่ลำโพงสามารถแยกเสียงสเตอริโอได้ดีขึ้นและให้เสียงร้องที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ MacBook Air ยังรองรับระบบเสียงตามตำแหน่งเพื่อการฟังเพลงและดูภาพยนตร์ที่เต็มอิ่มสมจริงด้วย Dolby Atmos

ชิป M2 ยกระดับประสิทธิภาพของ MacBook Air ให้เหนือชั้นไปอีกขั้น 

• เวิร์กโหลดหนักๆ อย่างการตัดต่อไทม์ไลน์ที่ซับซ้อนใน Final Cut Pro มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุดเกือบ 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และเร็วขึ้นสูงสุด 15 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Apple Silicon
• การใส่ฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์ในแอปอย่าง Adobe Photoshop เร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อนสูงสุด 20% และเร็วขึ้นสูงสุด 5 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Apple Silicon
• ถึงแม้จะมีจอภาพใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ MacBook Air ยังคงมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดทั้งวันเช่นเดิมโดยสามารถเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง

MacBook Air มีตัวเลือกในการชาร์จให้หลายแบบ ซึ่งรวมถึงอะแดปเตอร์แปลงไฟขนาดกะทะรัด 35W แบบใหม่หมดที่มาพร้อมพอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต เพื่อให้ผู้ใช้ชาร์จ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้ และยังเป็นครั้งแรกที่ MacBook Air รองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ในเวลาเพียง 30 นาทีด้วยอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 67W ที่มีจำหน่าย

MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มาในดีไซน์กะทัดรัด และเมื่อมีชิป M2 จึงทำให้โน้ตบุ๊กระดับโปรที่พกพาง่ายที่สุดของ Apple มีขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้นในขนาดที่พอเหมาะเช่นเดิม

• ด้วย CPU แบบ 8-core และ GPU แบบ 10-core ที่เร็วยิ่งขึ้น การทำงานกับไฟล์ภาพแบบ RAW ในแอปอย่าง Affinity Photo จึงเร็วขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และเร็วขึ้นสูงสุด 3.4 เท่า สำหรับลูกค้าที่อัปเกรดมาจากรุ่นที่ไม่ใช่ Apple Silicon
• การเล่นเกมที่มีกราฟิกสวยงามสมจริงอย่าง Baldur's Gate 3 นั้นเร็วขึ้นถึงเกือบ 40% เมื่อเทียบกับ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นก่อนหน้า และเร็วขึ้นสูงสุด 3.3 เท่า สำหรับลูกค้าที่อัปเกรดมาจากรุ่นที่ไม่ใช่ Apple Silicon
• ระบบระบายความร้อนแบบแอ็คทีฟใน MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถคงประสิทธิภาพการทำงานระดับโปรได้อย่างต่อเนื่อง
• MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มาพร้อมชิป M2 ที่รองรับหน่วยความจำแบบรวมขนาดสูงสุด 24GB พร้อมด้วยแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่มากขึ้น 50% ช่วยให้การทำงานแบบมัลติทาสก์และการทำงานกับชิ้นงานใหญ่ๆ ลื่นไหลสุดๆ
• มีเดียเอนจิ้นของชิป M2 ที่รองรับการเข้ารหัสและถอดรหัส ProRes ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นวิดีโอ ProRes ระดับ 4K ได้สูงสุด 11 สตรีม และ 8K สูงสุด 2 สตรีม และสามารถแปลงโปรเจ็กต์วิดีโอเป็น ProRes ได้เร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อนถึงเกือบ 3 เท่า
• MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่นานเหลือเชื่อโดยสามารถเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง

MacBook Air และ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว มีทั้ง macOS Monterey และ Apple Silicon ที่ช่วยเสริมการทำงานของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เริ่มจากเครื่องมือด้านความต่อเนื่อง อย่างการควบคุมจากอุปกรณ์กลาง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ทำงานสลับไปมาระหว่าง Mac และ iPad ได้สะดวกรวดเร็ว หรือคุณสมบัติ AirPlay ไปที่ Mac ที่ให้ผู้ใช้เล่นอะไรก็ได้เกือบทุกอย่างจาก iPhone หรือ iPad นอกจากนี้ FaceTime ยังมีคุณสมบัติทั้งภาพและเสียง อย่างโหมดภาพถ่ายบุคคลและระบบเสียงตามตำแหน่ง ที่ทำให้การโทรรู้สึกเป็นธรรมชาติและสมจริง ในขณะที่ SharePlay ช่วยให้ผู้ใช้ Mac สามารถแชร์ประสบการณ์กับคนอื่นๆ ผ่าน FaceTime ได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติอย่างข้อความในภาพ และค้นดูจากภาพ ซึ่งอาศัยระบบอัจฉริยะเพื่อดึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาให้เห็น ส่วน Safari ก็มี "กลุ่มแถบ" ที่ช่วยจัดระเบียบแถบเว็บไซต์ ส่วนแอปคำสั่งลัดก็เพิ่มความสะดวกสบายของการสั่งงานแบบอัตโนมัติมาอยู่บน Mac

macOS Ventura ซึ่งจะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ ก็ใช้ประโยชน์จากชิป M2 อย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนคุณสมบัติใหม่ๆ อย่าง Stage Manager รวมถึงความสามารถใหม่อันทรงพลังที่เพิ่มเข้ามาใน FaceTime ไม่ว่าจะเป็นความต่อเนื่องของกล้องหรือ Handoff นอกจากนี้ macOS Ventura ยังมาพร้อมการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Safari, เมล, ข้อความ, Spotlight และอื่นๆ ด้วย

MacBook Air และ MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ใหม่ ต่างช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้แร่โลหะหายาก 100% ในแม่เหล็กของตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่น ในขณะที่ MacBook Air ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเครื่อง และยังเป็นผลิตภัณฑ์ Apple ชิ้นแรกที่ใช้เหล็กกล้ารีไซเคิลที่ผ่านการรับรองอีกด้วย และผลิตภัณฑ์ทั้งคู่ยังเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังปลอดสารอันตรายหลายประเภท ขณะที่บรรจุภัณฑ์นั้นใช้เยื่อไม้ที่มาจากป่าที่ได้รับการจัดการอย่างรับผิดชอบ

MacBook Air ใหม่ และ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นอัปเดต จะวางจำหน่ายผ่านทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store โดยจะเริ่มจัดส่งและวางจำหน่ายใน Apple Store รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple เร็วๆ นี้

MacBook Air พร้อมชิป M2
รุ่น CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 8-core ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

• RAM 8GB, SSD 256GB ราคา 43,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 512GB ราคา 50,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 1TB ราคา 57,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 2TB ราคา 71,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 256GB ราคา 50,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 512GB ราคา 57,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 1TB ราคา 64,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 2TB ราคา 78,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 256GB ราคา 57,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 512GB ราคา 64,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 1TB ราคา 71,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 2TB ราคา 85,900 บาท

MacBook Air พร้อมชิป M2
รุ่น CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 10-core ราคาเริ่มต้น 54,900 บาท

• RAM 8GB, SSD 512GB ราคา 54,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 1TB ราคา 61,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 2TB ราคา 75,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 512GB ราคา 61,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 1TB ราคา 68,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 2TB ราคา 82,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 512GB ราคา 68,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 1TB ราคา 75,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 2TB ราคา 89,900 บาท

MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2
รุ่น CPU แบบ 8-core, GPU แบบ 10-core ราคาเริ่มต้น 46,900 บาท

• RAM 8GB, SSD 256GB ราคา 46,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 512GB ราคา 53,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 1TB ราคา 60,900 บาท
• RAM 8GB, SSD 2TB ราคา 74,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 256GB ราคา 53,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 512GB ราคา 60,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 1TB ราคา 67,900 บาท
• RAM 16GB, SSD 2TB ราคา 81,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 256GB ราคา 60,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 512GB ราคา 67,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 1TB ราคา 74,900 บาท
• RAM 24GB, SSD 2TB ราคา 88,900 บาท