อย่างที่เรารู้ ๆ กันดีว่า ตลอดมา "อินเทล" มีแผนการกำหนดเป้าหมายในการลดรอยเท้าของห่วงโซ่คุณค่า (value chain footprint) และกระตุ้นการดำเนินการทั่วทั้งอุตสาหกรรม เพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อเร็ว ๆ นี้จึงได้ประกาศแผนการที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมเดินหน้าพัฒนาโซลูชันเทคโนโลยีที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ให้คำมั่นที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas) สุทธิเป็นศูนย์ในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2583 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มต่างๆ ของอินเทล โดยมีเป้าหมายที่จำเพาะและชัดเจน และเพื่อทำงานร่วมกับลูกค้าและคู่ค้าในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโซลูชันที่จะช่วยลดค่ารอยเท้าก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas footprint) ของระบบนิเวศทางเทคโนโลยีทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ อินเทลจึงมุ่งมั่นที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ตลอดการดำเนินงาน หรือที่เรียกว่าการปล่อยมลพิษในขอบเขตที่ 1 และ 2 ภายในปี 2583 ลำดับความสำคัญของอินเทลคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างแข็งขันให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ โดยจะใช้การชดเชยคาร์บอนที่น่าเชื่อถือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายก็ต่อเมื่อตัวเลือกอื่นๆ หมดลงเท่านั้น
และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว อินเทลได้กำหนดเหตุการณ์สำคัญชั่วคราวต่อไปนี้สำหรับปี 2573:
- บรรลุการใช้ไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ในการดำเนินงานทั่วโลก
- ลงทุนประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการอนุรักษ์พลังงานที่โรงงานของอินเทล เพื่อให้ประหยัดพลังงานสะสมถึง 4 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
- สร้างโรงงานและสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ U.S. Green Building Council® LEED® ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่เพิ่งประกาศในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
- เปิดตัวความคิดริเริ่มการวิจัยและพัฒนา (Research & Development: R&D) แบบข้ามอุตสาหกรรม เพื่อระบุสารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมทั้งส่งผลต่อภาวะโลกร้อนได้น้อยลง และเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใหม่ๆ ได้มากขึ้น
โดยเป้าหมายเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความมุ่งมั่นของอินเทลในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เช่น กลยุทธ์ RISE การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมของอินเทลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้นต่ำกว่าที่เคยเป็นมาเกือบ 75% หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีการลงทุนและการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
คีย์แวน เอสฟาร์จานี รองประธานบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการระดับโลกของอินเทล กล่าวว่า “อินเทลเป็นผู้นำด้านผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และเราทราบดีว่า ความเป็นผู้นำย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากขึ้น เรากำลังยกระดับมาตรฐานและเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ในการดำเนินงานทั้งหมดของเราภายในปี 2583 สิ่งนี้จะต้องใช้นวัตกรรมและการลงทุนเป็นจำนวนมหาศาล แต่เรามุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่จำเป็น และจะทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมเพื่อบรรลุภารกิจที่สำคัญนี้ให้สำเร็จ”
สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับซัพพลายเชนของอินเทล: อินเทลมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับซัพพลายเออร์แต่ละราย เพื่อระบุพื้นที่ต่างๆ ที่มีความจำเป็นด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการให้ความสำคัญกับซัพพลายเออร์ที่เพิ่มขึ้นในด้านการอนุรักษ์พลังงานและการจัดหาพลังงานหมุนเวียน การเพิ่มประสิทธิภาพทางเคมีและทรัพยากร และกลุ่มอุตสาหกรรมข้ามสายชั้นนำเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ห่วงโซ่มูลค่าการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่มีก๊าซเรือนกระจกสุทธิศูนย์ ทั้งนี้ เพื่อเร่งความก้าวหน้า อินเทลมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อขับเคลื่อนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชนให้ลดลงอย่างน้อย 30% ภายในปี 2573 เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีการลงทุนและการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของอินเทล: เพื่อสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนของลูกค้า และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ในขอบเขตที่ 3 อินเทลจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ และยังคงขับเคลื่อนการปรับปรุงประสิทธิภาพตามความต้องการของตลาดต่อไป ทั้งนี้ อินเทลกำลังตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้สูงขึ้นถึง 5 เท่าสำหรับ CPU-GPU รุ่นต่อไปที่มีชื่อว่า Falcon Shores นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในปี 2573 ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์ถึง 10 เท่าสำหรับไมโครโปรเซสเซอร์สำหรับลูกค้า และเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ
และเพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุการลดคาร์บอนของแพลตฟอร์ม อินเทลได้ขยายขอบเขตนวัตกรรมในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
- การจัดวาง การเลือก และโมดูลของส่วนประกอบภายในทั้งหมดเพื่อลดขนาดของเมนบอร์ด
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของระบบและประสิทธิภาพการแสดงผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้พลังงานโดยรวมลงอย่างมาก
- การใช้แผงวงจรพิมพ์ชีวภาพเพื่อช่วยในการแยกวัสดุและส่วนประกอบเมื่อรีไซเคิล และเพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยรวม
นอกจากนี้ อินเทลยังได้ตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อลดการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบแพลตฟอร์มอ้างอิงสำหรับฟอร์มแฟคเตอร์ของลูกค้าลงไป 30% หรือมากกว่านั้นภายในปี 2573 ความพยายามเหล่านี้กำลังเป็นรูปเป็นร่างด้วยอุปกรณ์ดีไวซ์ต้นแบบ Concept Luna ของเดลล์ ซึ่งพัฒนาร่วมกับอินเทล เพื่อแสดงความเป็นไปได้ในอนาคตในการออกแบบเครื่องพีซีอย่างยั่งยืน
อินเทลจะยังคงให้การอัปเดตเกี่ยวกับแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ และกลยุทธ์การใช้คอมพิวเตอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งปี