เจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จแคมเปญ vivo V23e 5G ครั้งแรกกับการเปิดตัวสมาร์ตโฟนแบบ Commercial Cinematic บอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองโฆษณา ภาพยนตร์ และรายการวาไรตี้

ในยุคที่เราพบกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แบรนด์จำเป็นต้องหาวิธีการเปิดตัวสินค้าด้วยวิธีการและรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ให้สามารถสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้ตรงกลุ่ม โดยต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นเสพข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นช่องทางหลัก และยังต้องเป็นการสื่อสารที่เน้นสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค รวมถึงสร้างบุคลิกของแบรนด์ (Brand Identity) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคแบบตรงจุด ส่งผลให้การเปิดตัวสินค้าด้วยวิธีการใหม่ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์จึงนับเป็นกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดที่น่าจับตามองในปัจจุบัน

vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ส่งมอบสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ตโฟนหลากหลายรุ่นสู่มือ vivo fans ชาวไทยผ่านการสื่อสารทางการตลาดที่แตกต่างกันออกไป และล่าสุดกับการเปิดตัวสมาร์ตโฟนในตระกูล V Series อย่าง V23e 5G ผ่านงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในชื่อ ‘vivo V23e 5G On Stage’ ที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่กับการเพิ่มความเป็นไลฟ์สไตล์ เอาใจคนรุ่นใหม่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ vivo fans มากขึ้น ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผสมผสานกับการแสดงบอกเล่าเรื่องราวสไตล์ภาพยนตร์ในรูปแบบกึ่ง TV commercials นับเป็นการเปิดตัวแบบ Commercial Cinematic ครั้งแรกในวงการสมาร์ตโฟน ฉีกทุกกฏของงานเปิดตัวสมาร์ตโฟนในเมืองไทยแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเป็นการเปิดตัวที่รวมเอาทุกรูปแบบการสื่อสารมีทั้งการโฆษณาสินค้า สัมภาษณ์พรีเซนเตอร์แบบรายการวาไรตี้ และการบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละครแบบภาพยนตร์

 

จากเดิมที่เราคุ้นเคยกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบมีตัวแทนฝ่ายผลิตภัณฑ์ ขึ้นเวทีเพื่อนำเสนอสินค้าพร้อมมีภาพประกอบบอกเล่าฟีเจอร์ต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นภาพที่เราเห็นกันอย่างชินตาในหลายงานเปิดตัว และแม้ว่าการเปิดตัวดังกล่าวจะดำเนินผ่านช่องทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ แต่รูปแบบการนำเสนอก็ยังเป็นรูปแบบเดิมที่ไม่สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ระหว่างสินค้ากับผู้ชม ในขณะที่ความแปลกใหม่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับ vivo fans ตลอดการเปิดตัว vivo V23e 5G ในครั้งนี้ คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านการแสดงของพรีเซนเตอร์และนักแสดงร่วม ที่ถือเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ตโฟนเมืองไทยที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในรูปแบบการแสดงกึ่งๆ TVC หรือ แบบ Commercial Cinematic ซึ่งทำให้การส่งข้อมูลสำคัญ (Key message) ที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสารสามารถเข้าถึงและถ่ายทอดสู่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่าย และน่าจดจำมากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ vivo เลือกใช้ในครั้งนี้คือการเลือกพรีเซนเตอร์ที่กำลังเป็นกระแสและมีไลฟ์สไตล์ตรงกับฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับตัวตนของแบรนด์ได้อย่างใกล้ชิดผ่านพรีเซนเตอร์ที่ชื่นชอบ โดยในครั้งนี้ vivo ดึงนักแสดงชื่อดังอย่าง ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และวิน - เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร มาเป็นตัวแทนนำเสนอผลิตภัณฑ์ในมุมมองของผู้ใช้งานจริง ที่มีไลฟ์สไตล์ในการชอบถ่ายภาพเซลฟีและอัปโหลดลงโซเชียลมีเดีย มาบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์ รวมถึงแนะนำฟีเจอร์ที่ชื่นชอบหลังจากใช้ vivo V23e 5G ช่วยสร้างความจริงใจและความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค ผ่านพรีเซนเตอร์ นอกจากนี้ภายในงานยังดึงพิธีกรที่มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะในด้านไอที อย่าง เฟื่องลดา - สรานี สงวนเรือง นางฟ้าไอทีชื่อดัง มาร่วมสัมภาษณ์พรีเซนเตอร์อย่างใบเฟิร์นในรูปแบบรายการวาไรตี้ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความหลากหลายในการให้ข้อมูลสินค้าได้มากยิ่งขึ้น

นอกเหนือจากแคมเปญเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครที่ vivo เลือกมาเป็นกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดแล้ว ฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์ vivo V23e 5G ยังน่าสนใจไม่แพ้กัน โดย vivo V23e 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนตัวล่าสุดของ vivo ในตระกูล V Series ที่โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพเซลฟี ที่มาพร้อมกับกล้องหน้าความชัดถึง 44MP พร้อมฟังก์ชัน Eye Auto Focus, Natural Portrait Selfie และ AI Extreme Night ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยดูเป็นธรรมชาติ คมชัด สามารถเก็บสีสันและความสว่างของภาพได้อย่างชัดเจน วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยแล้วที่ ราคา 12,999 บาท

นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจและมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว วิธีการนำเสนอและการสื่อสารกับผู้บริโภคถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจตัวผลิตภัณฑ์และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อในที่สุด สำหรับการนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดที่ vivo เลือกนำมาใช้เปิดตัว vivo V23e 5G ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในวงการสมาร์ตโฟนเมืองไทยที่น่าจับตามอง และในอนาคต vivo จะใช้การสื่อสารแบบใดเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่วงการสมาร์ตโฟนเมืองไทยอีก ต้องรอติดตาม