ที่สุดแห่งความพรีเมี่ยม และเปี่ยมด้วยนวัตกรรมจากซัมซุง

จบไปหมาดๆกับงานเปิดตัวกองทัพสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ Ecosystem สุดพรีเมี่ยมจากซัมซุง ได้แก่ Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 เรียกได้ว่าแฟนๆต้องร้องว้าวกันอย่างแน่นอนครับ รายละเอียดทุกอย่างเหมือนที่หลุดมาก่อนหน้านี้เลย แต่ก็น่าสนใจมากๆเลยนะครับ จะน่าสนใจขนาดไหนมาดูกันครับ เปิดตัวมาเยอะมากจริงๆ

จุดเด่น

Samsung Galaxy Z Fold3 ที่สุดของสมาร์ทโฟนระดับเรือธง หน้าจอพับได้ ที่มาพร้อมความสามารถที่ยกระดับไปอีกขั้นด้วย S Pen และรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IPX8 วัสดุตัวเครื่องผลิตจากโลหะและกระจก น้ำหนักตัวเครื่อง 271 กรัม หน้าจอพับได้เมื่อพับอยู่ จะมีขนาด 6.2 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz กระจกหน้าจอ Gorilla Glass Victus และมีกล้องหน้าความละเอียด 10MP F2.2 (ซึ่งเวลาเรา Selfie ก็จะใช้กล้องตัวนี้เป็นหลักนะครับ), หน้าจอเมื่อกางออกมีขนาดใหญ่ 7.6 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X อัตราการรีเฟรช 120Hz เช่นเดียวกัน และเป็นครั้งแรกของซัมซุง ที่มาพร้อมกล้องซ่อนใต้หน้าจอ (แถมเป็นหน้าจอพับได้ซะด้วย) มีความละเอียดอยู่ที่ 4MP F1.8 เป็นกล้องที่เราจะเอาใว้ใช้งานตอน Video Call นะครับ

ที่พิเศษมากๆคือเป็นครั้งแรกที่หน้าจอพับได้ รองรับการใช้งาน S Pen (S Pen Fold Edition) ไม่รองรับ Bluetooth และไม่ต้องชาร์จแบต มีความพิเศษคือหัวปากกาจะนุ่มกว่าปกติ (หุ้มยาง) รวมทั้งหน้าจอที่พัฒนามาเพื่อให้รองรับปากกา S Pen ได้อย่างสมบูรณ์แบบ (อย่าเผลอเอาปากกา S Pen ปกติไปเขียนนะครับ) ไม่มีช่องใส่ปากกาในตัว

Samsung Galaxy Z Fold3 รองรับ 5G มาพร้อมชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 888, RAM 12GB, ROM 256GB/512GB, รองรับ WiFi 6E, ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3, ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, แบตเตอรี่ความจุ 4,400 mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W และชาร์จไร้สาย 11W และชาร์จไร้สายย้อนกลับ 4.5W, สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อมกล้อง 3 เลนส์ ความละเอียด 12MP F1.8 + 12MP F2.2 Ultra Wide + 12MP F2.4 Tele

Samsung Galaxy Z Flip3 สมาร์ทโฟนพับได้ทรงน่ารักแต่ดูพรีเมี่ยม วัสดุพรีเมี่ยมโลหะและกระจก Gorilla Glass Victus รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IPX8 เช่นกัน ด้านหน้ามีหน้าจอขนาดเล็กแต่ก็ใหญ่กว่ารุ่นเดิมเป็นหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260 x 512 pixels สำหรับดูการแจ้งเตือน และใช้งานแอปพลิเคชั่นที่รองรับ โดยไม่ต้องกางหน้าจอออก เมื่อกางออกจะเป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz (ไม่รองรับ S Pen)

Samsung Galaxy Z Flip3 รองรับ 5G มาพร้อมชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 888, RAM 8GB, ROM 128GB/256GB, รองรับ WiFi 6, ทำงานบน Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3, ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W, สำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อมกล้องคู่ ความละเอียด 12MP F1.8 + 12MP F2.2 Ultra Wide และกล้องหน้าความละเอียด 10MP F2.4

Samsung Galaxy Watch4 และ Samsung Galaxy Watch4 Classic เป็นครั้งแรกเลยครับที่ใช้ Wear OS ของ Google โดยทั้ง 2 บริษัทมีการจับมือพัฒนาร่วมกัน โดยมีการครอบทับด้วย One UI Watch และนี่คือสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปเซ็ต 5nm (Exynos W920) รองรับ 4G LTE Cat.4, RAM 1.5GB, ROM 16GB ทั้งคู่มีดีไซน์ที่เพรียวบาง สวยงาม กรอบตัวเรือใช้วัสดุโลหะสแตนเลส และในรุ่น Classic จะมีขอบนาฬิกาที่สามารถหมุนได้ เพื่อเลือกใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ

Samsung Galaxy Watch4 จะมีให้เลือก 2 ขนาด 44 มม. และ 40 มม. ส่วน Samsung Galaxy Watch4 Classic จะมีให้เลือก 2 ขนาด 46 มม. และ 42 มม. หน้าจอมีความละเอียด 330 PPI, ออกแบบโดยมุ่งเน้นในเรื่องสุขภาพ เซ็นเซอร์ Bioactive ของ Samsung ที่ด้านหลังของอุปกรณ์ จะวัดค่า PPG (ตรวจจับปริมาตร และการไหลเวียนของเลือด), ECG (จังหวะการเต้นของหัวใจ) และ BIA (ประเมินองค์ประกอบร่างกาย) นอกจากนี้ยังรองรับการออกกำลังกายมากกว่า 100 กิจกรรม สามารถใช้งานเชื่อมต่อร่วมกับ TV ของ Samsung ได้อีกด้วยเช่นโยคะ หรือแอโรบิก

นอกจากการตรวจจับการนอนหลับยังทำได้ละเอียดมากขึ้น มีการตรวจจับการกรน การวัดออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับ รวมทั้งการเผาผลาญแคลอรี่ขณะหลับ และมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 361 mAh และ 247 mAh โดยทางซัมซุงเครมว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า 40 ชั่วโมง

Samsung Galaxy Buds2 หูฟัง TWS รุ่นใหม่ ดีไซน์สวย รองรับ ANC ระบบตัดเสียงรบกวน ด้วยไมโครโฟน 3 ตัว และน้ำหนักเบาหวิว 41.2 กรัม โดยตัวหูฟังมีน้ำหนักเพียงแค่ 5 กรัม (ต่อข้าง) เท่านั้นเอง ตัวหูฟังออกแบบ Dynamic Two-Way Speaker แบ่งออกเป็น วูฟเฟอร์ และ ทวีตเตอร์ ช่วยให้เสียงสูงมีความชัดเจน และเสียงต่ำมีความลึก โดยมีจุดเด่นที่มอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ยอดเยี่ยม และการสนทนาที่ชัดเจน โดยทางซัมซุงเครมว่าสามารถตัดเสียงรบกวนได้มากถึง 98% เลยทีเดียว แถมยังรองรับ AI ในการเรียนรู้เสียงรบกวนต่างๆอีกด้วย ตัวเคสภายนอกคล้ายๆ Galaxy Buds Pro มากๆครับ จะเป็นสีขาวทั้งหมด ส่วนสีสันจะอยู่ที่ภายใน และตัวหูฟัง ตัวเคสชาร์จมีแบตเตอรี่ความจุ 472 mAh และหูฟังแต่ละข้างมีแบตเตอรี่ 61 mAh เมื่อเปิด ANC สามารถใช้งานได้นาน 5 ชั่วโมง และเมื่อปิด ANC จะใช้งานได้นาน 7 ชั่วโมง และเมื่อใช้งานคู่กับเคสชารืจจะใช้งานได้นานถึง 20 ชั่วโมง (เปิด ANC)

ราคา

Samsung Galaxy Z Fold3 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Phantom Black, Phantom Green และ Phantom Silver ราคาเริ่มต้น $1,799 หรือ 59,690 บาท

Samsung Galaxy Z Flip3 เน้นความเป็นแฟชั่นครับ มีการจับคู่กับสายนาฬิกาของ Galaxy Watch4 ด้วยนะ มีให้เลือกมากถึง 7 สีเลยครับ ได้แก่ Cream, Green, Lavender, Phantom Black, Gray, White และ Pink  (สามสีหลังวางจำหน่ายเแพาะบนเว็บไซต์ Samsung) ราคาเริ่มต้น $999 หรือ 33,146 บาท (รุ่นนี้เคสน่ารักมากๆครับ มีให้เลือกจุใจแน่นอน)

Samsung Galaxy Watch4 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ สีเงิน และสีทอง ราคาเริ่มต้น 269 ยูโร หรือ 10,476 บาท

Samsung Galaxy Watch4 Classic มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเงิน ราคาเริ่มต้น 369 ยูโร หรือ 14,371 บาท

Samsung Galaxy Buds2 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Graphite, White, Oliver Green และ Lavender ราคา 149 ยูโร หรือ 5,803 บาท

นอกจากนี้ยังมี Samsung Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3, Galaxy Watch4 และ Galaxy Buds2 รุ่นพิเศษ ที่จับมือกับแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง Thom Browne ด้วยนะครับ สวยงามมากๆ เปิดจำหน่าย Galaxy Z Fold3 | Flip3 Thom Browne Edition ในวันที่ 13 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ผ่านทาง Samsung.com เพื่อรับเครื่องในวันที่ 27 สิงหาคม 2564  มีจำนวนจำกัดเพียง 100 เซ็ตต่อรุ่นเท่านั้น ได้เร็วกว่ารุ่นธรรมด้วยนะครับ!

Samsung Galaxy Z Fold3 Thom Browne Edition ราคา 111,000 บาท

Samsung Galaxy Z Flip3 Thom Browne Edition ราคา 76,000 บาท

ตอนนี้ Samsung ประเทศไทย ได้เปิดให้จอง Samsung Galaxy Z Fold3 และ Galaxy Z Flip3 ล่วงหน้า รับเครื่องเป็นกลุ่มแรก พร้อมคูปองเงินสด มูลค่า 9,000 บาท ใช้แลกซื้อ หรือใช้เป็นส่วนลดซื้อสินค้า ตั้งแต่วันนี้ - 22 ส.ค. 64 ใครสนใจไปจองกันได้ครับ https://www.samsung.com/th/unpacked พร้อมรับฟรี บริการ Samsung Care+ 1 ปี มูลค่า 7,089 บาท ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับเครื่องเป็นกลุ่มแรกของประเทศไทยในวันที่ 2 กันยายนเป็นต้นไป รวมถึงยังสามารถแลกเครื่องเก่าเพื่อเป็นส่วนลดได้ด้วยที่ช่องทาง https://www.samsung.com/th/tradeinpromotion/

สำหรับราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีดังนี้

Samsung Galaxy Z Fold3 5G วางจำหน่ายในราคา 57,900 บาท (256GB) และ 61,900 บาท (512GB) มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Phantom Black, สีเขียว Phantom Green และ สีเงิน Phantom Silver

Samsung Galaxy Z Flip3 5G วางจำหน่ายในราคา 34,900 บาท (128GB) และ 36,900 บาท (256GB) มาในตัวเลือก 4 สี ได้แก่ สีครีม, สีเขียว, สีม่วงลาเวนเดอร์ และ สีดำ Phantom Black มาพร้อมเคสรุ่นใหม่ที่มาพร้อมห่วง และสายคล้องนิ้ว วางจำหน่าย สีเทา, สีชมพู และสีขาว เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Samsung.com

Samsung Galaxy Buds2 จะวางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท มีให้เลือก 3 สี Graphite, Oliver Green และ Lavender