สาวกไอโฟนเตรียมเฮ!! iPhone 6s มาพร้อมเทคโนโลยีแบบ Force Touch

ตอนนี้หลายๆ คนคงกำลังตั้งตารอวันเปิดตัว iPhone 6s ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (9 กันยายน 58) กันอยู่ใช่มั้ยคะ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวเกี่ยวกับสเปคของ iPhone 6s หลุดออกมามากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เทคโนโลยีแบบ Force Touch ที่ก่อนหน้านี้ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้กับ Apple Watch เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปกติเทคโนโลยีแบบ Force Touch นั้นจะวัดได้แค่ 2 แบบคือการแตะ และการกดแบบธรรมดา แต่เมื่อนำเทคโนโลยีนี้มาใส่ใน iPhone 6s แล้ว ทาง Apple จึงได้เพิ่มฟีเจอร์เข้าไปอีกอย่างคือ การกดแบบมีน้ำหนัก (การกดแบบ 3 มิติ) หรือที่เรียกว่า 3D Touch

โดยปกติแล้วเวลาที่เราจะใช้แผนที่ค้นหาเส้นทางหรือจุดหมายที่เราจะไปนั้น จะต้องเลือกปลายทางก่อนและคลิกเริ่มต้นการนำทาง แต่สำหรับเทคโนโลยีแบบ Force Touch จะให้เลือกจุดหมายบนแผนที่ หลังจากนั้นให้ Force Touch ไปที่จุดที่เราเลือก แล้วจะบอกเส้นทางแบบโค้งต่อโค้งได้ทันที

ขณะเดียวกัน ในโปรแกรม Music หากต้องการเลือกเพลงเก็บเข้าไว้ใน Playlist หรือเก็บไว้ฟังแบบออฟไลน์ ก็สามารถใช้ Force Touch โดยการกดแบบ deep press หลังจากนั้นจะปรากฏเมนูขึ้นมาให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะเก็บเพลงแบบไหนค่ะ 

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ยังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบ เช่น สามารถใช้เป็น shortcut เมื่อกดแบบ Force Touch บนแอปฯ ที่อยู่บนหน้า Homescreen โดยการกดแบบ deep press บนแอปฯ นั้นก็สามารถเลือก shortcut เข้าไปใน Voicemail ได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็ยังสามารถนำไปใช้งานกับแอปฯ อื่นๆ ได้ด้วย

นอกจากนั้นการสั่งงานแบบ Force Touch บางอย่างนำมาจาก Macbook รุ่นล่าสุดอีกด้วย เช่น กดแบบ deep press บนที่อยู่หรือ Contact เพื่อดูพรีวิวแผนที่ หรือ Contact Card ซึ่งบน iPhone 6S และ iPhone 6S Plus ก็จะมีวิธีการใช้งานที่คล้ายๆ กัน

ในส่วนสเปคอื่นๆ ของ iPhone 6s นอกจากจะเป็นหน้าจอแบบ Force Touch แล้ว ก็ยังมี RAM มาให้ 2GB, ตัวกล้องความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซลและยังสามารถถ่ายวีดีโอได้ระดับ 4K, ทำจากวัสดุใหม่ที่แข็งแรงทนทานมากขึ้น ส่วนขนาดความจุคาดว่าเริ่มที่ 32 GB ค่ะ 

คงต้องคอยดูกันต่อไปนะคะ ว่า iPhone 6s นั้นจะมีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาจากรุ่นก่อนๆ บ้าง ให้สมกับที่เหล่าสาวกไอโฟนทั้งหลายต่างรอคอย และหากมีข้อมูลข่าวสารอะไรเพิ่มเติม ทางทีมงาน Checkraka.com นั้นก็จะรีบนำมาเสนอทันทีค่ะ

ที่มา: engadget, 9to5mac