หลังจากที่เปิดตัวสมาร์ตโฟนยอดฮิตอย่าง iPhone 15 Series จากแบรนด์ Apple ที่ใครหลายๆ คนรอคอยกันไป ซึ่งครั้งก็ได้มีในรุ่น Pro และ Pro Max ก็ได้มีการอัปเกรดใหม่ในหลายๆ อย่างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ กล้อง ชิป และพอร์ต USB-Type C ที่เปลี่ยนใหม่มาเหมือนสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นๆ สักที ส่วนรุ่น iPhone 15 ธรรมดาก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนมากนัก นอกจากพอร์ต (กั๊กไว้ตามสไตล์ Apple)
โดยจะนำมาเทียบกับสุดยอดสมาร์ตโฟนของฝั่ง Android กัน นั่นคือ Samsung Galaxy S23 Ultra ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นยอดนิยมของใครหลายๆ คนเช่นเดียวกัน จะมีจุดเด่นและจุดต่างส่วนไหนน่าสนใจบ้าง เดี๋ยวเราไปดูกันครับ
เทียบสเปก iPhone 15 Pro Max VS Samsung Galaxy S23 Ultra
Spec | iPhone 15 Pro Max | Samsung Galaxy S23 Ultra |
หน้าจอ | ขนาด 6.7 นิ้ว Super Retina XDR OLED ความละเอียด 2796 x 1290px, Refresh rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 2000 nits | ขนาด 6.8 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ 1440 x 3088px, Refresh Rate 1 - 120 Hz, ความสว่างสูงสุด 1750 nits |
ชิปเซ็ต | A17 Pro | Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy |
RAM | 8GB | 8GB/12GB |
ROM | 256GB/512GB/1TB | 256GB/512GB/1TB |
กล้องหลัง | กล้องหลัก 48MP f/1.8, 24mm + Ultrawide 12MP f/2.2, 13mm + Telephoto 12MP (5x) f/2.8, 120mm | กล้องหลัก 200MP f/1.7, 24mm + Ultrawide 12MP f/2.2, 13mm + Telephoto 10MP (3x) f/2.4, 70mm + Telephoto 10MP (10x) f/4.9, 230mm |
กล้องหน้า | 12 MP f/1.9, 23mm | 12MP f/2.2, 26mm |
แบตเตอรี่ | 4422mAh ชาร์จไว 20W 50% ใน 30 นาที 15W wireless 7.5W reverse wireless | 5000mAh ชาร์จไว 45W 65% ใน 30 นาที 15W wireless 4.5W reverse wireless |
พอร์ต | USB Type-C 3.0 | USB Type-C 3.2 |
OS | iOS 17 | Android 13, One UI 5.1 |
ฟีเจอร์อื่นๆ | ปุ่ม Action, Face ID, Ultra Wideband 2, Emergency SOS via satellite | ปากกา S Pen, Fingerprint (ใต้จอ), Samsung DeX, Bixby, Samsung Pay, Ultra Wideband |
ราคา | เริ่มต้น 48,900 บาท | เริ่มต้น 43,900 บาท |
ด้านดีไซน์
iPhone 15 Pro Max
มาด้วยวัสดุใหม่ “ไทเทเนียม” มีน้ำหนักเบา 221 กรัม และแกร่งกว่าเดิม โดยเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ผสมโลหะแบบเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศสำหรับภารกิจดาวอังคารเลย เฟรมภายในทำด้วยอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ด้วย ถือว่าเป็นรุ่นที่มีวัสดุแบบอลังการมากๆ แต่ก็มีข้อเสียที่อาจเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย เมื่อสัมผัสบ่อยๆ
ขอบเครื่องมีความโค้งมนมากขึ้นกว่ารุ่น iPhone 14 Pro Max ทำจับถือได้สบายมากขึ้น และขอบจอก็บางที่สุดของ iPhone
Samsung Galaxy S23 Ultra
สำหรับ Samsung Galaxy S23 Ultra ก็มีดีไซน์ดูพรีเมียมไม่แพ้กัน น้ำหนัก 234 กรัม โดยรูปร่างจะคล้ายๆ กับ S22 Ultra รุ่นก่อนหน้า แต่ตรงขอบตัวเครื่องจะมีความเหลี่ยมขึ้นเล็กน้อย เพื่อจะจับถือที่ง่ายมากขึ้น เนื่องจากรุ่น S22 Ultra มีความโค้งมนเกินไป อาจทำให้จับถือแล้วลื่นมือได้ ใช้วัสดุอะลูมิเนียมจากการรีไซเคิล แข็งแกร่งด้วย CORNING GORILLA GLASS VICTUS 2 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยสร้าง เฟรม Armor Aluminum ขึ้นมาอีกชั้นเพื่อการป้องกันที่ดีขึ้น
เทียบหน้าจอระหว่าง iPhone 15 Pro Max & Samsung Galaxy S23 Ultra
ด้านจอของ iPhone 15 Pro Max มีขนาด 6.7 นิ้ว Super Retina XDR OLED ความละเอียด 2796 x 1290px, Refresh rate 120Hz, ความสว่างสูงสุด 2000 nits ดีไซน์เป็นแบบเรียบ ขอบจอบางลงนิดหน่อยกว่ารุ่นก่อนๆ มีกล้องหน้าและเซนเซอร์ SL 3D ซึ่งถูกทับด้วย Dynamic Island เพื่อความกลมกลืน อีกทั้งยังใช้ประโยชน์ในการใช้เป็นการแจ้งเตือนต่างๆ ได้
ส่วนจอของ Samsung Galaxy S23 Ultra มีขนาด 6.8 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด QHD+ 1440 x 3088px, Refresh Rate 1 - 120 Hz, ความสว่างสูงสุด 1750 nits ดีไซน์เป็นแบบจอโค้ง ทำให้สามารถใช้งานบริเวณขอบหน้าจอได้ง่าย มีกล้องหน้า 12MP รองรับ Super Steady video โดยรวมหน้าจอดูคลีนๆ กว่า ซึ่งแล้วแต่คนชอบครับ
สีของตัวเครื่อง
สีของ
iPhone 15 Pro Max - ไทเทเนียมดำ
- ไทเทเนียมน้ำเงิน
- ไทเทเนียมน้ำเงิน
- ไทเทเนียมธรรมชาติ
สีของ
Samsung Galaxy S23 Ultra - Phantom Black
- Cream
- Lavender
- Green
สีของ
Samsung Galaxy S23 Ultra (Online Exclusive) - Sky Blue
- Lime
- Red
- Graphite
ด้านชิป
iPhone 15 Pro Max
มาพร้อมชิปใหม่ “A17 Pro” ถือว่าครั้งนี้พัฒนามาเพื่อสายเกมโดยเฉพาะ มี CPU 6 cores ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อน 10% และ GPU 6 cores ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อน 20% สามารถประมวลผล Ray Tracing เร็วขึ้นสูงสุด 4 เท่า เมื่อเทียบกับชิป A16 Bionic โดยทาง Apple เคลมไว้ว่าสามารถเล่นเกมเปิด Ray Tracing ได้ถึง 30fps และยังมีเกมระดับ AAA เช่น Resident Evil 4 remake, Assassin's Creed Mirage และ Death Stranding ที่รองรับ Ray Tracing ทำให้แสดงแสงและเงาได้อย่างสมจริงมากขึ้น
Samsung Galaxy S23 Ultra พร้อมขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ซึ่งเป็นชิปใหม่ล่าสุดและแรงที่สุดในปี 2023 จาก Qualcomm อีกทั้งเสริมด้วย For Galaxy ที่ออกแบบมาสำหรับ Samsung Galaxy โดยเฉพาะ รุ่นนี้ได้พัฒนาเรื่องความแรงของประสิทธิภาพและการควบคุมความร้อนได้ดีมากขึ้น
ROV ปรับสุด ค่าเฟรมเรท 61FPS ตลอดเกม
เกม Genshin Impact ลื่นไหลดีมาก เล่นเป็นเวลานานก็แค่อุ่นๆ
PUBG Mobile สามารถปรับกราฟิกระดับ Ultra HD และค่าเฟรมเรทระดับ Ultra
ด้านกล้อง
iPhone 15 Pro Max มาด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ โดยกล้องหลักมีความละเอียด 48MP + Ultrawide 12MP + Telephoto (5x) 12MP และกล้องหน้า 12MP โดยครั้งนี้พัฒนากล้อง Telephoto ใหม่ ที่สามารถซูมได้ระยะไกลถึง 5X หรือ 120mm. ทำให้สามารถเก็บภาพระยะไกลได้คมชัดมากขึ้น
ระยะ 0.5x Macro
Ultrawide 0.5x 13mm.
เลนส์หลัก 1x 24mm.
เลนส์หลัก 1x 28mm.
เลนส์หลัก 1x 35mm.
Telephoto 2x 48mm.
Telephoto 5x 120mm.
Portrait Mode ที่สามารถเลือกปรับการเบลอทีหลังได้
Samsung Galaxy S23 Ultra
มีกล้องหลัง 4 เลนส์ โดยมีเลนส์หลักความละเอียด 200MP + Ultrawide 12MP + Telephoto 10MP (3x) + Telephoto 10MP (10x) ซึ่งเป็นการซูมแบบ Optical Zoom ทำให้ภาพที่ออกมาคมชัดขึ้น ซึ่งทำได้ดีที่สุดในตอนนี้เลย
Ultrawide
ระยะ 1x
ระยะ 3x
ระยะ 10x
ระยะ 10x
ระยะ 100x
โหมด Portrait
โหมด Portrait ที่สามารถละลายหลังได้ดีมาก ทำให้คนในภาพของเราดูเด่นขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติ
สรุป
โดยรวมทั้ง 2 รุ่นถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนตัวท็อปที่น่าสนใจมากๆ และมีประสิทธิภาพที่ดีทั้งคู่เลย ไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์ที่ทำออกมาได้สวย ดูหรูดูแพง พัฒนาให้ผู้ใช้สามารถจับถือได้ง่ายมากขึ้น จาก iPhone ที่มีทรงเหลี่ยมเกินไปก็ทำให้มนมากขึ้น และ Samsung ที่โค้งมนเกินไป ก็ทำให้มีทรงเหลี่ยมมากขึ้น
ด้านชิปแรงกันทั้งคู่ เพราะเป็นชิปใหม่ล่าสุดในปี 2023 ใครอยากซื้อไปเล่นเกม บอกเล่นว่าเล่นได้ทุกเกมลื่นๆ หรืออยากเล่นไปอัดหน้าจอไป ก็สามารถทำได้สบายๆ เลย
ด้านกล้องถ้าใครเป็นสายคอนเสิร์ต ชอบไปดูศิลปิน หรือซูมดูอะไรไกลๆ แนะนำให้เป็น Samsung Galaxy S23 Ultra เลย เพราะมี Telephoto 10x Optical ที่สามารถซูมดูภาพๆ ไกลแบบคมชัดมากๆ ส่วน iPhone 15 Pro Max ก็มีสามารถปรับเรื่องหน้าชัดหลังเบลอ หลังจากที่ถ่ายได้ด้วย และโดยรวมทั้งคู่ถ่ายออกมาได้คมชัด สมชื่อตัวท็อปเลยครับ
รุ่นไหนเหมาะกับใคร?
iPhone 15 Pro Max - ชอบในระบบ iOS หรือใช้งานใน Apple ECO System ชอบถ่าย IG Story ถ่ายวิดีโอ สไตล์ภาพแบบเรียลๆ อยากได้มือถือที่มีระบบเสถียรและใช้งานได้ยาวนาน และไม่ติดเรื่องงบประมาณ
Samsung Galaxy S23 Ultra - ชอบในระบบ Android ชอบถ่ายรูปแบบจบในกล้อง ไม่ต้องแต่งเพิ่มมาก สกินโทนที่มีสีสันสดใส ใช้งานปากกาเพื่อจดเขียน บันทึกหรือวาดรูปต่างๆ และหน้าจอที่ใหญ่แบบคลีนๆ เพราะมีแค่จุดกล้องหน้า
ใครอยากเป็นเจ้าของรุ่นไหน จัดเลยคุ้มแน่นอน
iPhone 15 Pro Max
ความจุ ROM 256GB ราคาเปิดตัว 48,900 บาท
ความจุ ROM 512GB ราคาเปิดตัว 57,900 บาท
ความจุ ROM 1TB ราคาเปิดตัว 66,900 บาท
Samsung Galaxy S23 Ultra
ความจุ RAM 8GB/ROM 256GB ราคาเปิดตัว 43,900 บาท
ความจุ RAM 12GB/ROM 512GB ราคาเปิดตัว 49,900 บาท
ความจุ RAM 12GB/ROM 1TB ราคาเปิดตัว 59,900 บาท