อยากซื้อคอมหรือโน้ตบุ๊กดีๆ สักเครื่องมาใช้คุ้มๆ แต่ยังดู CPU ไม่เป็น ไม่รู้ว่าต้องดูเลขรุ่นอย่างไร แถมมีรหัสต่อท้าย U, H, HX เยอะไปหมด กลัวว่าซื้อมาแล้ว จะใช้งานไม่ตอบโจทย์กับการใช้งานของตัวเอง และในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาไปดูรุ่น CPU กันแบบละเอียด อ่านจบดูรุ่นเป็น เอาไปสอนเพื่อนต่อได้เลย จะมีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมๆ กันเลย
จากตัวอย่าง Intel Core i5-13500H จะสามารถค่อยๆ แบ่งออกทีละอย่างได้ดังนี้ - (สีฟ้า) Intel Core : เป็นชื่อแบรนด์ของ CPU
- (สีส้ม) i5 : เป็นซีรีส์ ของ CPU โดยจะมีตั้งแต่ Celeron ,Pentium, i3, i5, i7 และ i9 โดยความจะเรียงตามความแรงและราคาที่สูงขึ้นตามลำดับ
Celeron, Pentium: เป็น CPU ระดับเริ่มต้น ราคาถูก
Core i3: ใช้งานเบาๆ ทั่วไป เช่น เล่นโซเชียล, ดูหนัง / Youtube, เล่นเกมที่ไม่กินสเปกมาก, ทำงานเอกสาร, ทำ Presentation
Core i5: ใช้งานระดับกลาง ครอบคลุมการใช้งานทั่วไปทั้งหมด สามารถเล่นเกมที่กินสเปกได้มากขึ้น ทำงานตัดต่อ เรนเดอร์วิดีโอได้ดี ราคาเข้าถึงได้ (แนะนำให้เริ่มต้นใช้จากซีรีย์ i5 ครับ เพราะสามารถใช้งานได้ครอบคลุม ยาวนานและคุ้มค่า)
Core i7: ใช้งานแบบจริงจัง เช่น ตัดต่อและเรนเดอร์วิดีโอความละเอียดสูง, ทำ Animation, เล่นเกมพร้อมสตรีมมิ่ง, เล่นเกมได้แบบไหลลื่นที่สุด
Core i9: ใช้งานระดับสูง ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ทำงานระดับมืออาชีพ, ทำงานกราฟิกแบบ 3D และมีราคาแพง
- (สีชมพู) เลขข้างหน้า 13 : เป็น Generation ของ CPU โดยปีปัจจุบันตอนนี้ 2023 CPU Intel Generation ที่ 13 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด หากเป็นรุ่นที่เก่าลงไปก็จะเป็นเลข 12, 11, 10 ลงไป ตัวอย่างเช่น Intel Core i5-13500H ก็จะใหม่กว่า Intel Core i5-12500H
- (สีแดง) เลขต่อท้าย 500 : เป็นรุ่น Model หรือให้เข้าใจง่ายๆ คือบอกถึงความแรงของ CPU รุ่นนั้นๆ เช่น ถ้าเลข 600 ก็จะแรงกว่า 500 เป็นต้น
- (สีขาว) : เป็นรหัสตัวอักษรท้าย CPU ก็จะบอกถึงกลุ่มการใช้งานของ CPU รุ่นนั้นๆ
รหัสท้าย CPU Intel
== รหัสของ PC Desktop (คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ) ==
- ไม่มีรหัสท้าย: เป็น CPU รุ่นธรรมดาทั่วไป มีการ์ดจอบนชิปในตัว
- F: ไม่มีการ์ดจอบนชิปมาให้ จำเป็นต้องใช้การ์ดจอแยก
- K: ประสิทธิภาพสูง, แบบปลดล็อค Overclock ได้
- KF: ประสิทธิภาพสูง, แบบปลดล็อค Overclock ได้ แต่ไม่มีการ์ดจอบนชิปมาให้
- KS: ประสิทธิภาพสูงสุด เป็น CPU ระดับตัวท็อปที่สุด == รหัสของ Notebook / 2 in 1 Notebook / All-in-one PC ==
- T: ประหยัดพลังงานมาก ความร้อนต่ำ เหมาะกับการใช้งานตลอดวัน มักพบได้ในคอมพิวเตอร์แบบ All-in-one
- U: ประหยัดพลังงาน ใช้งานต่อวันได้ยาวนาน ใช้งานทั่วไป ไม่เน้นประสิทธิภาพสูง พบในโน้ตบุ๊กบางเบา
- P: มีประสิทธิภาพสูงกว่ารหัส “U” แต่ยังคงเรื่องประหยัดพลังงาน พบในโน้ตบุ๊กบางเบาเช่นกัน
- H: เน้นประภาพสิทธิสูง ใช้งานหนักๆ เช่น เล่นเกม, ตัดต่อ/เรนเดอร์วิดีโอ, สตรีมมิ่ง จะพบในโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
- HX: ประสิทธิภาพสูงสุด ใช้งานเล่นเกมแบบจริงจัง หรือใช้งานในระดับมืออาชีพ พบในโน้ตบุ๊กเกมมิ่งราคาสูง
ราคา CPU Intel 13th Gen แบบ Desktop (ช่วงเดือน ก.ย. 2023)
i3-13100F ราคาประมาณ 4,250 บาท
i3-13100 ราคาประมาณ 5,250 บาท
i5-13400F ราคาประมาณ 7,490 บาท
i5-13400 ราคาประมาณ 8,340 บาท
i5-13500 ราคาประมาณ 8,790 บาท
i5-13600KF ราคาประมาณ 11,800 บาท
i5-13600K ราคาประมาณ 12,800 บาท
i7-13700 ราคาประมาณ 14,500 บาท
i7-13700F ราคาประมาณ 13,790 บาท
i7-13700KF ราคาประมาณ 15,400 บาท
i7-13700K ราคาประมาณ 15,700 บาท
i9-13900F ราคาประมาณ 20,525 บาท
i9-13900 ราคาประมาณ 21,900 บาท
i9-13900KF ราคาประมาณ 22,200 บาท
i9-13900K ราคาประมาณ 22,500 บาท
i9-13900KS ราคาประมาณ 27,290 บาท
*ราคาขึ้นอยู่กับระยะเวลาและร้านตัวแทนจำหน่าย
ดูรีววิวโน้ตบุ๊ก CPU Intel ได้ที่นี่เลย
CPU ฝั่ง AMD
มาดูฝั่งแบรนด์ AMD กันบ้าง ซึ่งเป็นคู่ปรับของ Intel เลย มีจุดเด่นเรื่องทำงาน Multi Tasking ได้ดี ประหยัดพลังงานและมีราคาที่คุ้มค่า
วิธีการอ่านรุ่น CPU AMD จะขอแบ่งเป็น 2 แบบคือ แบบ Desktop และ Laptop
แบบ Desktop (คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ)
การดู CPU AMD แบบ Desktop จะคล้ายๆ ของฝั่ง Intel เลย - (สีฟ้า) AMD : เป็นชื่อแบรนด์ของ CPU
- (สีส้ม) : เป็นชื่อรุ่นซีรีย์ โดยจะมีตั้งแต่ AMD Athlon, Ryzen 3, 5, 7 และ 9 เช่นเดียวกับ Intel
AMD Athlon: จะเป็นรุ่นเริ่มต้น ราคาถูก
Ryzen 3: เป็นรุ่นเริ่มต้นของ Ryzen ประหยัดพลังงาน เน้นใช้งานทั่วไป แบบ Everyday use ทำงานเอกสาร Presentation ต่างๆ และเล่นเกมที่ไม่กินสเปกมาก
Ryzen 5: เป็นรุ่นกลางเหมาะกับการใช้เล่นเกม สตรีมมิ่ง ตัดต่อวิดีโอต่างๆ (แนะนำให้เริ่มต้นใช้จากซีรีย์ Ryzen 5 ครับ เพราะสามารถใช้งานได้ครอบคลุม ยาวนานและคุ้มค่า)
Ryzen 7: เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง ใช้งานเล่นเกมจริงจัง และสตรีมมิ่งได้ดี
Ryzen 9: เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับ Content Creator ระดับมือโปร
Threadripper: เป็นรุ่นท็อปที่ใช้ทำงานสำหรับ Workstation โดยเฉพาะ
- (สีชมพู) : เลขข้างหน้า 7 : เป็นรุ่นปีหรือ Generation ของ CPU โดยปีปัจจุบันตอนนี้ 2023 CPU AMD Ryzen Generation ที่ 7 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด หากเป็นรุ่นที่เก่าลงไปก็จะเป็นเลข 6, 5, 4 ลงไป ตัวอย่างเช่น AMD Ryzen 5 7600 ก็จะใหม่กว่า AMD Ryzen 5 5600
- (สีแดง) : เลขต่อท้าย 600 : เป็นรุ่น Model หรือให้เข้าใจง่ายๆ คือบอกถึงความแรงของ CPU รุ่นนั้นๆ เช่น ถ้าเลข 600 ก็จะแรงกว่า 500 เป็นต้น
- (สีขาว) : เป็นรหัสท้าย CPU AMD
รหัสท้าย CPU AMD (Desktop)
ไม่มีเลขท้าย: รุ่นทั่วไป ไม่มีการ์ดจอออนชิปในตัว
G: มีการ์ดจอออนชิปในตัว
X: รุ่นที่ปลดล็อค สามารถ Overclock เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้
X3D: รุ่นที่มี 3D V-Cache ทำให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ราคา CPU AMD 7000 Series แบบ Desktop (ช่วงเดือน ก.ย. 2023)
Ryzen 5 7600 ราคาประมาณ 7,340 บาท
Ryzen 5 7600X ราคาประมาณ 8,190 บาท
Ryzen 7 7700 ราคาประมาณ 11,300 บาท
Ryzen 7 7700X ราคาประมาณ 12,000 บาท
Ryzen 7 7800X3D ราคาประมาณ 15,900 บาท
Ryzen 9 7900 ราคาประมาณ 13,500 บาท
Ryzen 9 7900X ราคาประมาณ 14,400 บาท
Ryzen 9 7950X ราคาประมาณ 20,150 บาท
Ryzen 9 7900X3D ราคาประมาณ 20,900 บาท
Ryzen 9 7950X3D ราคาประมาณ 26,700 บาท
*ราคาขึ้นอยู่กับระยะเวลาและร้านตัวแทนจำหน่าย
แบบ Mobile หรือ Notebook การดู CPU
AMD ในแบบ Notebook จากต่างออกไปจาก Desktop เล็กน้อยในตัวเลขหลักที่ 3 และ 4
โดย
หลักที่ 1 คือ เลขรุ่นปี ถ้าปีปัจจุบันคือ 2023 ก็คือเลข 7 ถ้าปี 2024 คือเลข 8 เป็นต้น
หลักที่ 2 คือ Segment ของ CPU ถ้าเป็น
Athlon Silver จะเป็นเลข 1
Athlon Gold จะเป็นเลข 2
Ryzen 3 จะเป็นเลข 3,4
Ryzen 5 จะเป็นเลข 5,ุ6
Ryzen 7 จะเป็นเลข 7,ุ8
Ryzen 9 จะเป็นเลข 8,9
หลักที่ 3 คือ สถาปัตยากรรมของ CPU รุ่นนั้นๆ
หลักที่ 4 คือ ฟีเจอร์และความไฮเอนด์ ถ้าเลข 0 จะเป็นรุ่นโมเดลระดับล่าง แต่ถ้า 5 รุ่นโมเดลระดับท็อป
รหัสท้าย CPU AMD (Notebook)
e = ประหยัดพลังงานสุด
C = ใช้ใน Chromebook
U = เน้นประหยัดพลังงาน พบในโน้ตบุ๊กบางเบา
HS = ประสิทธิภาพสูง เน้นใช้งานหนัก เล่นเกม ตัดต่อวิดีโอ พบได้ในโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
HX = ประสิทธิภาพสูงสุด ใช้งานจริงจังในระดับมือโปร พบได้ในโน้ตบุ๊กเกมมิ่งราคาสูง สรุปควรเลือก CPU รุ่นไหนดี?
สำหรับใครที่ต้องการจะซื้อ CPU สักรุ่นก็สามารถเลือกแบรนด์ได้ตามใจชอบเลย ส่วนซีรีย์จะแนะนำตามการใช้งานของเรา
- ถ้าใช้งานทั่วไปทำงานเอกสาร, เรียนออนไลน์, ทำ Presentation, ดูหนัง ฟังเพลง Youtube Netflix, เล่นเกมออนไลน์หรือเกมที่สเปกไม่สูงมาก ให้เริ่มต้นเป็นรุ่น Intel Core i3 / AMD Ryzen 3 ก็เพียงพอ แต่ถ้ามีงบก็ขยับไป Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 ก็ได้ (ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กใช้รหัส U ขึ้นไป)
- ใช้เล่นเกมกินสเปก/กราฟฟิกสูง, ทำงานตัดต่อ/เรนเดอร์วิดีโอ, ใช้ทำงานเปิดแท็บบราว์เซอร์มากๆ, ทำงานดีไซน์กราฟิก ก็จะแนะนำใช้เป็น Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 (ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กใช้รหัส H ขึ้นไป)
- ใช้งานจริงจังทั้งการทำงานและเล่นเกม หรือสตรีมมิ่ง ก็จะแนะนำใช้เป็น Intel Core i7 / AMD Ryzen 7 (ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กใช้รหัส H ขึ้นไป)
- ใช้งานระดับมืออาชีพ ต้องการประสิทธิภาพขั้นสุด ทำงาน Workstation ก็จะแนะนำใช้เป็น Intel Core i9 / AMD Ryzen 9 / Threadripper (ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กใช้รหัส H ขึ้นไป)
และโดยรวมแล้วทั้ง 2 แบรนด์จากที่ผู้เขียนเคยใช้แล้วก็ใช้ดีทั้งคู่ หากมีงบประมาณถึงการเลือกได้ตามใจชอบเลย