จากกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดียของ ChatGPT ที่ได้รับการตอบรับแบบล้มหลาม จนส่งผลให้มีปริมาณคนสนใจเข้าใช้ระบบเต็มความจุ (Over Capacity) อยู่ตลอดเวลา ทำให้ทาง OpenAI ต้องทำการเปิดลงทะเบียนคิวเข้าใช้งานที่หน้าเว็บไซต์กันเลย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละคนว่าจะรอกันหรือไม่อย่างไร
ส่วนใครที่ไม่อยากรอ แต่อยากมีประสบการณ์การใช้งานสไตล์ ChatBot แบบเดียวกัน ผมก็มี 5 ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์ม ChatBot หรือ ChatGPT มาแนะนำกันครับ โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะได้รับประสบการณ์คล้ายกับ ChatGPT รวมถึงประสบการณ์ที่อาจต้องรอคิวเข้าใช้งานด้วยเช่นกันนะ! แต่มีหลายทางเลือกไว้ลองใช้งานก็ดีกว่าทางเลือกเดียวจริงไหม?
BING SEARCH !!
ทางเลือกแรก คือ Bing บริการ Search Engine ของ Microsoft ที่ล่าสุดมีการนำเทคโนโลยี AI จาก OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT เข้ามาใส่บนแพลตฟอร์ม ทำให้เราสามารถที่จะพิมพ์โต้ตอบกับ AI ได้คล้ายกับการใช้งานบน ChatGPT เลยนั่นเอง เพียงแต่ทางเลือกนี้ก็อาจต้องรอคิวเหมือนกับ ChatGPT เช่นกันครับ
เพราะตอนนี้ทาง Microsoft ยังจำกัดคนเข้าใช้บริการอยู่ โดยเราสามารถลงทะเบียนแสดงความสนใจ เพื่อเข้าไปอยู่ในคิว Wistlist ได้ด้วยการ เข้าหน้าเว็บไซต์ "Bing" จากนั้นเลือกเมนู Chat และทำการลงทะเบียนด้วยอีเมล์ Outlook หลังจากนั้นก็รอคิวจนกว่าจะมีอีเมล์ตอบกลับจากทาง Microsoft ขั้นตอนนี้บางคนก็สามารถเข้าใช้งานได้เลยภายใน 1-3 ชั่วโมง บางคนก็รอการตอบกลับนานถึง 1-2 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น
Bard by GOOGLE
"Bard" เป็นแพลตฟอร์ม ChatBot ของ Google เจ้าพ่อดาต้าบนโลกออนไลน์ ที่เปิดตัวมาแบบตั้งใจเป็นคู่แข่งเลยก็ว่าได้ครับ โดยตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอน 'Beta' หรือกำลังทดสอบและพัฒนาอยู่ จุดเด่นของ Bard จะอยู่ที่การขับเคลื่อนการทำงานด้วย LaMDA (Language Model for Dialogue Applications) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่ได้รับสถาปัตยกรรมมาจากโครงข่ายประสาทเทียมที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาในปี 2560 และเปิดเป็น Open Source ให้เหล่านักพัฒนาฯ นำไปต่อยอดกันได้อิสระ
ดังนั้นความฉลาดในการโต้ตอบข้อความจะมีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดอีกแพลตฟอร์ม เพียงแต่นั่นคือ เป้าหมายของโครงการนี้นะครับ เพราะตอนนี้มีกระแสข่าวว่าเจ้า Bard ในเวอร์ชั่นที่เปิดให้ทดลองใช้กันอยู่ตอนนี้ ยังคงห่างกันจากเป้าหมายนั้นอยู่ สำหรับใครที่สนใจอยากลองใช้งาน Bard ของ Google ต้องรอการเปิดรับสมัครผู้ทดสอบรอบต่อไป หลังรอบล่าสุดมีผู้สนใจลงสมัครจนปิดไปเรียบร้อยแล้ว
Jasper AI
เป็นแพลตฟอร์ม ChatBot ที่มุ่งเน้นไปในด้านการทำธุรกิจมากกว่าไลฟ์สไตล์เหมือน ChatGPT เพราะทางผู้พัฒนาตั้งใจพัฒนา Jasper AI ให้มีความสามารถในการรังสรรค์บทความ, เรียงความ หรือแม้แต่คำโฆษณาขึ้นมา แล้วนำไปใช้งานได้ทันที ดังนั้นแพลตฟอร์มนี้จึงมีการเก็บค่าบริการแบบรายเดือนและรายปีด้วย ซึ่งใครที่อยากลองใช้งานสามารถสมัครแบบ Trial 5 วัน เพื่อทดลองใช้งานฟรีก่อนได้ครับ
YouChat
แพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้เป็นบริการด้านการสนทนาผ่านข้อความคล้ายกับ MSN หรือ LINE ที่เราคุ้นเคย เพียงแต่เมื่อไม่นานมานี้ทางผู้พัฒนาได้เพิ่มความสามารถ "ChatBot" เข้ามา ทำให้เราสามารถพิมพ์สนทนาโต้ตอบกับ AI ได้เหมือนกับ ChatGPT เพียงแต่ความฉลาดอาจจะยังไม่เท่ากัน
เนื่องจากฐานข้อมูลยังไม่ได้อัปเดตให้ทันยุค เหมาะสำหรับคนที่อยากลองเล่นและได้ประสบการณ์การใช้งาน ChatBot ตัวแพลตฟอร์มมีให้ดาวน์โหลดใช้งานบนสมาร์ตโฟนทั้ง Android และ iOS หรือจะเล่นผ่านเว็บไซต์ก็ได้เช่นกันครับ
Chatsonic
ทางเลือกสุดท้ายที่หยิบมาแนะนำกันคือ Chatsonic แพลตฟอร์ม Chatbot ที่จะบอกว่าเป็นแฝดคนละฝาของ ChatGPT หรือก็ว่าได้ ซึ่งมีผู้ใช้งานหลายคนชมว่านี้คือ ChatGPT เวอร์ชั่นพัฒนาแล้วเลยทีเดียว สำหรับความสามารถของ Chatsonic นอกจากการโต้ตอบคำถามแล้ว เรายังสามารถเลือกคำตอบของ AI ให้เป็นลักษณะตามหน้าที่การงานได้ด้วย เช่น ตอบแบบ Personal Trainer, Poet หรือ Accountant เป็นต้น
สำหรับใครที่สนใจอยากลองใช้งาน Chatsonic สามารถทดลองใช้งานได้ฟรีผ่านหน้าเว็บไซต์ "Writesonic.com" โดยจะเปิดให้ใช้งานฟรีแบบจำกัดข้อความที่ถามด้วย Words 2,500 คำเท่านั้น ใครติดใจอยากใช้งานเต็มก็สามารถสมัครค่าบริการแบบรายเดือนได้
จบลงไปเรียบร้อยกับ 5 ทางเลือกระบบ ChatBot ที่น่าสนใจ ที่หยิบมาแนะนำกันสำหรับใครที่ไม่อยากรอ หรือเข้าไปใช้บริการ ChatGPT ที่ไรก็เจอแต่หน้าข้อความ "Over Capacity" ก็หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนได้ลองใช้งานระบบ ChatBot กันได้อย่างสนุกนะครับ
Ref. : Mashable/Tech